ในวาระครบรอบ 1 ปีของการเปิดตัว YouTube Shopping ในประเทศไทย แพลตฟอร์มวิดีโอชั้นนำได้ตอกย้ำความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยการประกาศตัวเลขการเติบโตของคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับการช้อปปิ้งที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 400% สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทย ที่เปลี่ยนจากการรับชมเพื่อความบันเทิงสู่การเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการตัดสินใจซื้ออย่างเต็มรูปแบบ โดยมี “ความไว้วางใจ” ที่ผู้ชมมีต่อครีเอเตอร์เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน
Sapna Chadha, Vice President, Southeast Asia and South Asia Frontier, Google กล่าวว่า ประเทศไทยคือประเทศที่ 4 ของโลกที่ได้รับเลือกให้เปิดตัวฟีเจอร์ YouTube Shopping ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่มาจากความเชื่อมั่นในศักยภาพของคอมมูนิตี้ครีเอเตอร์ไทยที่แข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์
ปัจจุบัน YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโออันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเฉพาะในไทยสามารถเข้าถึงประชากรออนไลน์ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีได้ถึง 83% ไม่เพียงเท่านั้น ยอดวิว YouTube บนทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Connected TV) ในไทยยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า YouTube ได้เข้าไปอยู่ในห้องนั่งเล่นของทุก ๆ บ้านอย่างแท้จริง
ประเทศไทยมีช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านคนมากกว่า 1,300 ช่อง เติบโตขึ้นถึง 30% ในปีเดียว ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นของครีเอเตอร์ไทย
“บนแพลตฟอร์มอื่น คุณอาจได้ผู้ติดตาม แต่บน YouTube คุณได้สร้างคอมมูนิตี้ที่แท้จริง” Sapna กล่าว พร้อมชี้ให้เห็นถึงพลังของเศรษฐกิจครีเอเตอร์ (Creator Economy) ที่ YouTube ได้จ่ายเงินให้แก่ครีเอเตอร์ ศิลปิน และบริษัทสื่อทั่วโลกรวมแล้วกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
YouTube กลายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมไทยในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไปจนถึงการประกวดมิสยูนิเวิร์ส
ปรากฏการณ์ “ความเชื่อมั่น 98%” กุญแจสู่การตัดสินใจซื้อ
หัวใจสำคัญที่ทำให้ YouTube Shopping ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นคือ “ความไว้วางใจ” ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น บน YouTube ครีเอเตอร์ไม่ได้มีแค่ผู้ติดตาม (Followers) แต่ได้สร้างชุมชน (Community) ที่แข็งแกร่งขึ้นมาจากการเชื่อมต่อที่มีความหมาย ผู้ชมไม่ได้เพียงแค่ดูวิดีโอแต่พวกเขากำลังใช้ “เวลาอันมีค่า” กับคนที่พวกเขาเชื่อใจอย่างแท้จริง
ความไว้วางใจนี้ไม่ได้เกิดจากความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการที่คอนเทนต์ของครีเอเตอร์สามารถสะท้อนและร่วม gestalten (shape) ชีวิตของพวกเขาได้จริง ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารมากมาย ข้อมูลล่าสุดได้ตอกย้ำปรากฏการณ์นี้ว่า 98% ของผู้ใช้งานออนไลน์มีแนวโน้มที่จะเชื่อคำแนะนำจาก YouTube ครีเอเตอร์มากกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
“98% ให้ตัวเลขนี้ซึมซับเข้าไปในใจของคุณ เพราะนี่คือสิ่งที่ทำให้คอนเทนต์ของคุณเปลี่ยน YouTube ให้กลายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมไทย”
ความไว้วางใจที่แข็งแกร่งนี้ได้เปลี่ยนบทบาทของครีเอเตอร์จากการเป็นผู้สร้างความบันเทิงสู่การเป็น “ผู้แนะนำที่เชื่อถือได้” (Trusted Guide) ที่ช่วยให้ผู้คนตัดสินใจ ไม่ใช่แค่ว่าจะดูอะไร แต่รวมถึงจะซื้ออะไรด้วยวิดีโอไม่ใช่แค่ความบันเทิงอีกต่อไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการช้อปปิ้ง
ผลสำรวจของ Ipsos ได้ตอกย้ำปรากฏการณ์นี้ว่า 98% ของผู้ใช้งานออนไลน์มีแนวโน้มที่จะเชื่อคำแนะนำของครีเอเตอร์ YouTube มากกว่าครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ซึ่งความไว้วางใจที่แข็งแกร่งนี้ได้เปลี่ยนบทบาทของครีเอเตอร์จากการเป็นผู้สร้างความบันเทิงสู่การเป็น “ผู้แนะนำที่เชื่อถือได้” (Trusted Guide) ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความตั้งใจในการซื้อมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ถึง 4 เท่า
“วิดีโอไม่ใช่แค่ความบันเทิงอีกต่อไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการช้อปปิ้ง”
Sapna กล่าวว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา วิดีโอคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นถึง 4 เท่า และคิดเป็น 20% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ซึ่งเป็น “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” (Seismic Shift) ที่ YouTube มองเห็นและเข้ามาตอบโจทย์ได้อย่างทันท่วงที
เบื้องหลังความสำเร็จ: ส่องกลยุทธ์ครีเอเตอร์ไทย

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ เกิดขึ้นจากการที่ครีเอเตอร์ไทยมองเห็นโอกาสและปรับตัวเข้าสู่เทรนด์ Creative Commerce ได้อย่างรวดเร็ว มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน มากกว่า 1 ใน 3 ของครีเอเตอร์ไทยที่มีรายได้บนแพลตฟอร์ม ได้นำ YouTube Shopping มาใช้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเงิน แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าและกระชับความสัมพันธ์กับคอมมูนิตี้ของตนเองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ความสำเร็จของครีเอเตอร์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มาจากกลยุทธ์ที่เฉียบคมในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่แพลตฟอร์มมีให้ เช่น ช่อง อาตี๋ รีวิว ซึ่งเป็นช่องรีวิวแกดเจ็ตและเทคโนโลยีชื่อดัง ได้นำความเชี่ยวชาญมาสร้างคอนเทนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ในทุกรูปแบบ ทั้งวิดีโอแบบยาว Shorts และไลฟ์สด การผสมผสานคอนเทนต์ที่หลากหลายนี้ช่วยให้ช่องมีฐานผู้ชมที่เหนียวแน่นและได้รับการยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือในแวดวงเทคโนโลยี
ส่วนช่องสอนทำอาหาร กินได้อร่อยด้วย ได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการใช้ฟีเจอร์ Timestamps เพื่อแท็กสินค้าอย่างมีกลยุทธ์ ทั้งส่วนผสมและอุปกรณ์ทำครัว ส่งผลให้ยอดคลิกเข้าชมสินค้าเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าและยอดขายก็ตามมาด้วยเช่นกัน ที่น่าสนใจคือคอนเทนต์ของช่องมักจะมีสูตรอาหาร “สำหรับขาย” ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ชมสามารถนำไปต่อยอดในการเริ่มต้นทำธุรกิจอาหารของตนเองได้
ในขณะที่ กวางสาวพราวรีวิว คือตัวอย่างของครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ YouTube Shopping เพื่อสร้างความหลากหลายให้คอนเทนต์และสร้างรายได้ให้เติบโต จนปัจจุบัน YouTube กลายเป็นแหล่งรายได้หลักของช่อง เธอทำคอนเทนต์รีวิวหลากหลายประเภท ตั้งแต่บัตรเครดิต อุปกรณ์ไอที ไปจนถึงสกินแช์และการท่องเที่ยว โดยใช้ฟีเจอร์ช็อปปิ้งในระหว่างที่รีวิวสินค้า เพื่อช่วยให้ผู้ชมสามารถเลือกดูผลิตภัณฑ์ที่สนใจได้โดยตรง ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์และสร้างการช็อปปิ้งผ่านครีเอเตอร์ที่ยั่งยืน
เพื่อส่งเสริมความสำเร็จเหล่านี้ YouTube ได้พัฒนาและเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น สติกเกอร์สำหรับแท็กสินค้าบน Shorts ระบบ Auto-tagging ที่ใช้ Machine Learning ช่วยแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ ไปจนถึง Chrome Extension ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถบันทึกสินค้าน่าสนใจจากหน้าเว็บ Shopee ขณะค้นหาข้อมูล เพื่อนำกลับมาแท็กในวิดีโอของตนเองได้อย่างสะดวกสบาย
พลังพันธมิตร: Shopee ตอกย้ำการเติบโตและเปิดสถิติเชิงลึก
ความสำเร็จของ YouTube Shopping ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากขาดพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง Shopee โดย คงกฤช ล้อเลิศรัตนะ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการตลาด Shopee (ประเทศไทย) ได้ขึ้นเวทีตอกย้ำถึงศักยภาพของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยที่มีมูลค่าสูงถึง 875,000 ล้านบาท และยังมีเพดานการเติบโตอีกมหาศาล พร้อมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกจากการร่วมมือตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวส่งผลให้ทราฟฟิกรายเดือนเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า มีจำนวนผู้ซื้อมากขึ้น 1.6 เท่า และที่สำคัญคือยอดขายรวมเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 3.3 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปีก่อน
ข้อมูลเชิงลึกยังเผยอีกว่ากลุ่มผู้ซื้อที่มาจาก YouTube Shopping เป็นกลุ่มที่มีคุณภาพและกำลังซื้อสูง โดย 60% เป็นผู้ชายและส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้งานระดับ Platinum Member ที่พร้อมตัดสินใจซื้อทันที โดยสินค้าขายดีในกลุ่มผู้ชายคืออุปกรณ์มือถือ อุปกรณ์แต่งบ้าน และอะไหล่มอเตอร์ไซค์ ส่วนในกลุ่มผู้หญิงคือสกินแคร์ อุปกรณ์ครัว และผลิตภัณฑ์ซักรีด
คงกฤชแนะนำครีเอเตอร์ว่า ข้อมูลหลังบ้านชี้ชัดว่ายอดขายส่วนใหญ่มาจากวิดีโอที่เคยสร้างไว้ในเดือนก่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นวิดีโอใหม่เท่านั้น การกลับไปติดแท็กสินค้าย้อนหลังในวิดีโอเก่า ๆ คืออีกหนึ่งหนทางสำคัญในการสร้างรายได้
พร้อมกันนี้ Shopee ยังได้ประกาศแคมเปญใหญ่เพื่อสนับสนุนคอมมูนิตี้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ แคมเปญ 9.9 ที่กำลังจะมาถึง ไปจนถึงการกลับมาของ Affiliate Race ที่จะพาครีเอเตอร์ผู้ชนะไปท่องเที่ยวฮ่องกง และแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปีอย่าง 11.11 และ 12.12 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลักดันดิจิทัลอีโคโนมีของไทยให้เติบโตไปพร้อมกัน
การเดินทางตลอด 1 ปีของ YouTube Shopping ในประเทศไทย ได้พิสูจน์แล้วว่านี่ไม่ใช่แค่การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แต่คือการสร้างระบบนิเวศ Creative Commerce ที่สมบูรณ์ ซึ่งพลังของคอนเทนต์และความไว้วางใจได้เข้ามาทลายกำแพงระหว่างความบันเทิงและการค้า ทำให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างอาชีพที่มั่นคงบนสิ่งที่พวกเขารัก และผู้บริโภคก็ได้พบกับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่น่าเชื่อถือและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
LMWN x Coke: เปลี่ยนคนดูให้เป็นลูกค้าด้วย Data, Emotion และกลยุทธ์ ACT
กลยุทธ์ O2O: กรณีศึกษา McCormick ปั้นแบรนด์เครื่องเทศในโลก E-commerce