ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนจากเช็คเป็นโอนเงิน แต่คือการทลายกำแพง “ระเบียบราชการ” ครั้งประวัติศาสตร์ เปิดโมเดลความร่วมมือที่เปลี่ยนกระบวนการหลังบ้านอันยุ่งยากให้กลายเป็นกรณีศึกษาด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน โชว์ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ตั้งแต่ลดการเดินทางของคู่ค้านับล้านกิโลเมตรต่อปี สู่การคว้ารางวัลระดับโลก
ภาพของพนักงานคู่ค้าที่ต้องจัดสรรเวลาและบุคลากรเพื่อเดินทางฝ่าการจราจรในกรุงเทพฯ มารับเช็คเพียงหนึ่งใบที่โรงพยาบาลศิริราช กำลังจะกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าในอดีต หลังการจับมือครั้งสำคัญระหว่าง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปฏิวัติกระบวนการชำระเงินที่ใช้มานานหลายสิบปี
ทะลายกำแพง ‘ระเบียบราชการ‘ ด้วยเทคโนโลยี
โจทย์ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่คือการหาทางออกให้กับข้อจำกัดด้านระเบียบของหน่วยงานในสังกัดรัฐ ที่กำหนดให้การชำระเงินต้องมี “ใบเสร็จรับเงิน” ตัวจริงเป็นหลักฐาน ทำให้ในอดีต “เช็ค” จึงเป็นทางเลือกเดียวที่ปฏิบัติได้สะดวกที่สุด เพราะสามารถแลกกับใบเสร็จได้ทันที ณ จุดรับเช็ค
ธนวัฒน์ กิตติสุวรรณ รองผู้จัดการใหญ่ Head of Digital Business and Payment Solutions ธนาคารไทยพาณิชย์ อธิบายว่า “SCB Digital Payment Solution” ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยตรง ผ่านระบบโอนเงินเข้าบัญชีคู่ค้าอัตโนมัติ (SCB Supplier Payment) ที่มีหลักฐานการทำธุรกรรมที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และที่สำคัญคือ ระบบสามารถออกไฟล์หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax Certificate) ในรูปแบบดิจิทัลได้ทันที ซึ่งใช้เป็นหลักฐานทดแทนกระดาษได้อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่หน่วยงานรัฐอื่น ๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้
มากกว่าแค่ลดต้นทุน คือการสร้างความยั่งยืนที่วัดผลได้
ศาสตราจารย์นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เน้นย้ำว่า เป้าหมายของศิริราชคือการเป็นองค์กรต้นแบบที่พัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงมองไกลกว่าแค่ความสะดวกและประสิทธิภาพ แต่มุ่งเน้นผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง
นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2567 ถึงเมษายน 2568 ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม:
มิติด้านสิ่งแวดล้อม: การลดการออกเช็คกว่า 26,800 ฉบับต่อปี นำไปสู่การลดใช้ทรัพยากรและพลังงานมหาศาล ทั้งจากการผลิตกระดาษ การพิมพ์ และการเดินทาง รวมแล้วสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 93 ตันคาร์บอนต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ใหญ่ถึง 10,000 ต้นเพื่อช่วยดูดซับคาร์บอน
มิติด้านประสิทธิภาพ:
- ลดการใช้กระดาษ ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถึง 650,000 แผ่นต่อปี
- ลดภาระของคู่ค้า ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางเพื่อรับ-ส่งเช็ค รวมระยะทางที่ประหยัดได้กว่า 1,400,000 กิโลเมตรต่อปี
- ลดชั่วโมงการทำงาน ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจ่ายเช็คได้กว่า 480 ชั่วโมงต่อปี ช่วยให้บุคลากรสามารถไปทำงานที่สร้างคุณค่าด้านอื่นได้มากขึ้น
ต้นแบบองค์กรร้อยปี สู่เป้าหมายดิจิทัลเต็มรูปแบบ
ความสำเร็จจากโครงการนี้ไม่เพียงแต่สร้างการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร แต่ยังได้รับการยอมรับในระดับสากลด้วยรางวัลยอดเยี่ยมด้านการเพิ่มศักยภาพของวงการแพทย์ผ่านการเงินอย่างยั่งยืน จากเวที The Asset ซึ่งตอกย้ำว่านี่คือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ระดับโลก
ศิริราชได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการเดินหน้าเปลี่ยนระบบการชำระเงินทั้งหมดให้เป็นดิจิทัล 100% ภายในปี 2569 เพื่อก้าวสู่การเป็น “ต้นแบบองค์กรร้อยปี” ที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาและพร้อมวางรากฐานเทคโนโลยีดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เพื่อส่งต่อประสิทธิภาพและความยั่งยืนตามกรอบ ESG ให้แก่สังคมไทยต่อไป
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ความยั่งยืนไม่ใช่ ‘ต้นทุน’ แต่คือ ‘โอกาส’ ครั้งใหญ่ของ SME ไทย
กรุงศรี-MUFG ร่วมขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางความยั่งยืนแห่งเอเชีย
สร้างภูมิคุ้มกันอาเซียน จากท้องทะเลสู่ชุมชนและนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน