Share on
×

Share

Temple Alley Summer ถ้าเราฟื้นจากความตายได้? [Book Review]

เคยหยิบหนังสือสักเล่มเพียงเพราะหน้าปก และคำโปรยกันไหม บางเล่มลงท้ายด้วยเสียงยี้ ไม่น่าเอามาอ่านเลย แต่บางเล่มกลับทำให้เราอมยิ้ม นั่งนึกถึงเรื่องราวได้ต่ออีกหลายวัน

Temple Alley Summer คือหนึ่งในหนังสือจำพวกหลัง

หยิบมาเพราะปกที่ออกจะน่ารักแบบญี่ปุ่นและคำโปรยว่า คาซุเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในบ้านของเขา และในห้องเรียน เพื่อนๆบอกว่าเรียนด้วยกันมานานแต่ทำไมเขาไม่เคยเห็นเธอ เขาสงสัยและได้รู้ความลับว่าแถวบ้านเขาเคยมีวัดที่เลื่องลือมากว่าเป็นประตูให้คนตายกลับมาบนโลกมนุษย์ รึว่าเด็กคนนั้นเป็น …

ในระหว่างทาง ไม่ผิดหวังเลยที่เลือกมาอ่าน ได้รู้เรื่องราวของเด็ก ป.5 ที่เรียกรอยยิ้มได้ตลอด จากความอยากรู้ อยากเห็น ความซุกซน ความรักเพื่อน ความวีนแบบเด็กๆ ที่ผู้เขียน (Sachiko Kashiwaba – ซาจิโกะ คาชิวาบะ) บรรยายด้วยคำง่ายๆ แบบให้คิดภาพตามได้

วัดคิมโยะ แปลตรงตัวว่า ฟื้นคืนชีพ (come back to life) ชาวบ้านในซอยที่วัดพุทธนี้ตั้งอยู่เมื่อร้อยกว่าปีก่อนรับรู้กันต่อๆมาเรื่องที่มีคนชอบมาขอพรให้คนที่ตายไปได้ฟื้นคืนชีพเพื่อมาทำสิ่งที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ แม้ว่าคนที่ฟื้นมาจะไม่ได้มาอยู่กับครอบครัวเดิมและจำครอบครัวเดิมตัวเองไม่ได้

คาซุไม่เคยรู้หรืออยากรู้เรื่องนี้มาก่อน จนวันหนึ่งเขาเห็นเด็กผู้หญิงในชุดกิโมโนสีขาวมีเครื่องประดับผมสีแดงเดินออกมาจากห้องพระบ้านของเขา วันต่อมาเขาเจอเธอในห้องเรียน เพื่อนคนอื่นๆทักทายเธอแบบสนิทสนม รู้ว่าเธอคืออคาริ คาซุงง เพราะจำไม่ได้เลยว่าเคยรู้จักเธอมาก่อน เขาตามไปบ้านเธอ เห็นเธอพูดกับแม่ แม่เธอออกมาตากผ้า แต่เขามองไม่เห็นตัว และเขามองไม่เห็นเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นในบ้านของเธอ

และในชั่วโมงทำกิจกรรมร่วมนอกเวลา ชื่อวัดคิมโยะปรากฎขึ้นมาบนแผนที่เมืองเก่าที่ครูประวัติศาสตร์เอามาให้นักเรียนวิเคราะห์ คาซุสนใจเพราะความหมายของชื่อวัดรวมถึงที่ตั้งที่อยู่ในซอยบ้านตัวเองจนไปถามพ่อ พ่อเสนอให้เขาใช้เรื่องนี้เป็นหัวข้อรายงานหน้าร้อนส่งครู นัดแนะให้เขาไปสัมภาษณ์คนรุ่นปู่ที่เพิ่งเสียไป

แต่การสัมภาษณ์กลับทำให้เกิดคำถามมากขึ้น เพราะผู้อาวุโสเหล่านี้โดยเฉพาะคุณย่ามินาคามิสงสัยว่าที่เขาถามเพราะไปเจอคนตายที่ฟื้นคืนชีพ ทุกคนบอกเขาว่าถ้าเจอ ให้ชี้ไปที่คนนั้นและตะโกนว่า ‘นั่นคือเด็กวัดคิมโยะ’ แล้วคนนั้นจะหายไป
คุณย่าเชื่อว่าคนตายก็ควรจะตายไป ทุกคนจะได้รู้ว่าเวลาของชีวิตเรามีค่า และถ้าฟื้นชีพมาแล้วจะเป็นยังไงต่อ จะแต่งงาน มีลูกหลานไหม กระทบกับคนอื่นๆไหม

ลุงของเขาไม่ได้ยืนยันเรื่องนี้ พูดแต่ว่าเคยได้ยินมา ที่สำคัญคือรูปปั้นพระพุทธเจ้าที่ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่บันดาลให้คนตายฟื้นชีพอยู่ในการดูแลของครอบครัวเขา

วันหนึ่ง เขารู้ว่ามีคนมาเคารพปู่ 1 วันก่อนอคาริจะปรากฎตัว เขาไปคุยกับเธอที่บ้านและรู้ว่าอคาริคือซาโอริ ลูกสาวของเธอที่เสียชีวิตเมื่อสี่สิบปีที่แล้วเพราะป่วยเข้าออกโรงพยาบาลตลอดเวลา แม่ซาโอริบอกเขาว่าตอนไปเคารพปู่ เธอแอบคิดว่าถ้าซาโอริฟื้นชีพได้ก็คงจะดี จะได้มาทำอะไรที่ยังไม่เคยได้ทำ

จากความสงสัย คาซุแน่ใจว่าอคาริคือซาโอริ เขาเกิดความสงสารเพราะคนขี้โรคอย่างซาโอริไม่เคยได้ทำอะไร อยากปกป้องอคาริจากผู้อาวุโส อยากให้อคาริได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำ ซึ่งรวมถึงการได้อ่านตอนจบของนวนิยายที่ลงเป็นตอนๆในนิตยสารเล่มหนึ่งที่เธอได้อ่านก่อนตายตอนอยู่โรงพยาบาล

การตามหาตอนจบของนวนิยาย ทำให้คาซุเด็กติดเกมได้อ่านหนังสือ ได้เป็นเพื่อนกับอคาริ ได้ใช้ความพยายามในการสืบหา
ตอนจบ ก่อกวนผู้แต่งอายุ 80 ที่ลืมนวนิยายเรื่องนี้ไปแล้ว ใช้ทุกวิธีการที่เด็กอายุ 11 ขวบจะคิดได้ ซึ่งทำให้คนอ่านต้องอมยิ้ม

หนึ่งในสามของหนังสือฉบับแปล 232 หน้าเล่มนี้คือนวนิยายเรื่องซ้อนชื่อ ‘The Moon is on the left’ ว่าด้วยเรื่องอาดิ เด็กหญิงคนยากที่ถูกแม่มดซื้อตัวไปเพื่อดำน้ำหาไข่มุก ส่วนประกอบสำคัญของผ้าปักที่จะทำให้ลูกชายของแม่มดฟื้นจากความตายและได้ครองเมืองแห่งหนึ่ง
จากคนที่คิดแค่ให้ท้องอิ่ม อาดิเกิดอยากช่วยเหลือคนอื่น อยากมีชีวิตอยู่เพื่อเห็นอะไรที่ยังไม่เห็น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องซ้อนที่เต็มไปด้วยจินตนาการ

ทั้งเรื่องหลักและเรื่องซ้อนทำให้เราต้องมาคิดถึงความหมายของชีวิต ความตาย และคำว่าเพื่อน ถือว่าเป็นหนังสือเด็กที่สนุก ให้ความสุขกับคนอ่าน ไม่ประหลาดใจว่าได้รางวัลและคำชมมากมาย รวมถึงชนะเลิศ 2022 Mildred L. Batchelder Award

อ่านเสร็จก็ต้องถามตัวเองว่า ตอนมีชีวิตเราใช้ชีวิตยังไง ยังมีอะไรไหมที่อยากทำ และถ้าเราตายไปตอนนี้ อยากจะฟื้นชีพมาทำมันต่อไหม แม้ว่าการฟื้นขึ้นมาจะหมายถึงการที่ต้องโดดเดี่ยวจากผู้คนในชีวิตเก่า

รีวิวหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สู้ดิวะ [BOOK REVIEW]

พินัยกรรมของแฟนเก่า [BOOK REVIEW]

คำอำลา ครั้งสุดท้าย [BOOK REVIEW]

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน