ซัมซุง เผยโฉม Samsung AI TV รุ่นล่าสุด อาทิ Neo QLED 8K, Neo QLED 4K, Samsung OLED, Micro LED, Lifestyle TV และ Sound Device ที่งาน Unbox & Discovery 2024 ณ เซ็นทรัลเวิร์ล ตั้งเป้าผู้นำผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง AI ครบทุกหมวด
เซยุน คิม ประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงเป็นผู้นำอันดับ 1 ตลาดทีวีทั่วโลกมากว่า 18 ปี ด้วยการไม่หยุดลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ผสานรวมฟีเจอร์อัจฉริยะเข้ากับทีวี ซัมซุงเปิดประตูสู่มิติใหม่แห่งภาพและเสียง ความบันเทิงภายในบ้านไปอีกขั้น ด้วยการนำ AI TV มาปฏิวัติการรับชมทีวีแบบเดิม ๆ ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค”
ชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง กล่าวว่า ในปี 2566 ซัมซุงครองส่วนแบ่งตลาด 30.1% ของตลาดทีวีทั่วโลก ตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นทีวีในกลุ่มพรีเมียมและจอขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนด้วย QLED TV และ OLED TV
หากนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2560 ไลน์อัป QLED TV ของซัมซุง รวมถึง Neo QLED รุ่นล่าสุด มียอดขายสะสมทั่วโลกกว่า 40 ล้านเครื่อง โดยเฉพาะในปี 2566 ชปีเดียว ทีวีในไลน์อัป QLED มียอดขายอยู่ที่ 8.31 ล้านเครื่อง จากความสำเร็จในตลาดทีวีจอใหญ่พิเศษและทีวีระดับไฮเอนด์ ซัมซุงสร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในกลุ่ม OLED โดยไลน์อัป OLED มียอดขาย 1.01 ล้านเครื่อง ในปี 2566
สำหรับประเทศไทย ปีที่ผ่านมา ซัมซุงมียอดขายทีวีเติบโตกว่าตลาดรวมถึง 8% มีทีวีจอใหญ่ขนาด 75 นิ้วขึ้นไป และทีวีพรีเมียมเป็นตัวผลักดัน ความสำเร็จเหล่านี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของซัมซุง ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลาย และครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน และในปีนี้ซัมซุงจะฉายภาพความเป็นผู้นำอีกครั้งด้วยการพาทุกคนเข้าสู่ยุคใหม่ของ Samsung AI TV
สำหรับไลน์อัป Samsung AI TV ที่ซัมซุงได้เปิดตัวแบบจัดเต็มในปีนี้ ได้แก่ Neo QLED 8K, Neo QLED 4K, Samsung OLED, Micro LED, Lifestyle TV และ Sound Device เพื่อมอบทางเลือกที่มากขึ้นให้กับผู้บริโภคให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่หลากหลาย ไลน์อัปที่ครอบคลุมนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของซัมซุงในด้านนวัตกรรมและแนวทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
Neo QLED 8K ถือเป็นแฟลกชิพของของซัมซุง มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ NQ8 AI Gen3 ที่ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญของ AI TV เพราะโปรเซสเซอร์นี้มีหน่วยประมวลผลที่รวดเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า ด้วยระบบประมวลผลที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8 เท่า จาก 64 เป็น 512 ส่งผลให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ภาพที่ยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดที่คมชัดสมจริงไม่ว่าจะรับชมคอนเทนต์ใดก็ตาม เพราะนอกจากนั้นยังมีสุดยอดเทคโนโลยี AI Upscaling ที่จะอัปเกรดคอนเทนต์ให้คมชัดใกล้เคียง 8K มากที่สุด AI Motion Enhancer ช่วยจับภาพที่เคลื่อนไหวเร็วไม่ให้แตกหรือขาดหาย
มี Real Depth Enhancer ที่สามารถเพิ่มเลเยอร์ความลึกให้เหมือนจริง แยกฉากหน้าและฉากหลังให้ภาพมีมิติมากขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์ด้านเสียงที่แม่นยำแบบไร้ที่ติด้วย AI Active Voice Amplifier ที่มีความเป็นเลิศในการแยกเสียงบทสนทนาออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง โดยมี Object Tracking Soundช่วยซิงค์เสียงกับคอนเทนต์บนหน้าจอเพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมที่เต็มไปด้วยพลังและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น และมี Adaptive Soundช่วยปรับปรุงเสียงให้ดียิ่งขึ้นโดยการปรับเสียงให้เข้ากับคอนเทนต์และเสียงภายในห้องอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ได้เสียงที่เต็มอิ่มและสมจริง พร้อมจำหน่ายตั้งแต่สัดส่วนหน้าจอขนาด 65, 75 และ 85 นิ้ว ไลน์อัป Neo QLED 8K ยืนยันในการมอบประสบการณ์การรับชมที่เหนือชั้น พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่มทีวีสัดส่วนหน้าจอขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม
ซัมซุงยังมีไลน์อัป Neo QLED 4K ปี 2024 ยกระดับประสบการณ์การรับชมด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ NQ4 AI Gen2 ชิปตัวนี้จะถ่ายทอดความมีชีวิตชีวาให้ทุกคอนเทนต์ ด้วยความละเอียด 4K ที่น่าทึ่ง และยังมีการเสริมประสิทธิภาพด้วย Real Depth Enhancer และ Quantum Matrix Technology หน้าจอจึงมีความคอนทราสต์ที่สมบูรณ์แบบแม้ในฉากที่ซับซ้อน เพราะหน้าจอได้รับการตรวจสอบความถูกต้องของสีระดับ Pantone Validated เป็นรายแรกของโลก และมี Dolby Atmos เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์เสียงสุดดื่มด่ำ Neo QLED 4K ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับประสบการณ์ 4K ขั้นสูงสุด พร้อมจำหน่ายในขนาดตั้งแต่ 43 ถึง 98 นิ้ว เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมการรับชมที่หลากหลาย
นอกจากนั้น ซัมซุงยังได้เปิดตัว OLED Glare-Free เป็นรายแรกของโลกที่มีการลดการสะท้อนแสงออก พร้อมรักษาความดำเข้มเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดแม้จะอยู่ภายใต้สภาพแสงใดก็ตาม OLED TV ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ NQ4 AI Gen2 ที่ทรงพลัง มาพร้อมกับฟีเจอร์อย่าง Real Depth Enhancer และ OLED HDR Pro ยกระดับคุณภาพของภาพไปอีกขั้น และยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมด้วยฟีเจอร์ Motion Xcelerator 144Hz ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวไหลลื่นและมีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็ว เสริมด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ช่วยยกระดับพื้นที่รับชมให้เหนือระดับยิ่งขึ้น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 48 ถึง 83 นิ้ว ลงตัวสำหรับทุกห้อง
กองทัพเครื่องเสียงเปิดตัวใหม่
Q-Series Soundbar รุ่นล่าสุด มีระบบการติดตั้งแบบ 11.1.4-channel พร้อม Wireless Dolby Atmos มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องของซัมซุง โดดเด่นด้วยนวัตกรรมอย่าง Sound Grouping ที่ช่วยมอบเสียงที่กระหึ่มไปทั่วห้อง และมีตัวเลือกสำหรับการฟังแบบส่วนตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์ได้ด้วยลำโพงด้านหลังแบบที่ไม่รบกวนผู้อื่น
ในขณะเดียวกัน ซาวด์บาร์ S800D และ S700D มาด้วยดีไซน์บางเฉียบที่มอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ประหยัดพื้นที่ ซาวด์บาร์ของซัมซุงทุกรุ่นยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียงขั้นสูงอย่าง Q-Symphony ซึ่งรวมทีวีและซาวด์บาร์เข้าด้วยกันอย่างราบรื่นเพื่อประสบการณ์เสียงที่ประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ
และซัมซุงยังได้เปิดตัว Music Frame ใหม่ล่าสุด ผสมผสานเสียงระดับพรีเมียมเข้ากับดีไซน์เชิงศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Frame ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงภาพงานศิลปะ ในขณะที่เพลิดเพลินกับเสียงเพลงไร้สายจากฟีเจอร์อัจฉริยะ ไม่ว่าจะใช้เป็นอุปกรณ์แบบสแตนด์อโลนหรือจับคู่กับทีวีและซาวด์บาร์ Music Frame ก็จะยกระดับประสบการณ์เสียงให้เข้ากับทุกพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
เปลี่ยนสมาร์ทโฟน เป็นรีโมต และจอยเกม
ไลน์อัปผลิตภัณฑ์ปี 2567 พร้อมยกระดับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เพียงแค่นำสมาร์ทโฟนไปวางใกล้ ๆ ทีวีเพื่อเปิดใช้ Smart Mobile Connect ฟีเจอร์นี้จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นรีโมตคอนโทรลในการควบคุมทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นจอยควบคุมเกมได้ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้ และระบบตอบสนองแบบสัมผัสที่จะมอบความสะดวกสบายและยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมเพียงปลายนิ้ว
นอกจากนี้ซัมซุงยังมีนวัตกรรมที่สามารถเชื่อมต่อภายในอีโคซิสเต็มอัจฉริยะได้อย่างไร้รอยต่อผ่าน SmartThings ระบบจะจดจำและเชื่อมต่อกับเครือข่ายและอุปกรณ์ที่มีอยู่โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อื่นๆ ของซัมซุง เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์อื่นหรืออุปกรณ์ IoT พร้อมแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟน และยังมีฟีเจอร์ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างตรงใจ สามารถเปลี่ยนหน้าจอให้กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับทุกความต้องการ โดยควบคุมทุกอย่างได้โดยตรงจากหน้าจอ ตั้งแต่ระบบไฟไปจนถึงเซ็นเซอร์รักษาความปลอดภัยของบ้าน
โหมดเซฟค่าไฟ และรีโมตโซลาร์เซลล์
เพื่อเน้นย้ำเรื่องของความยั่งยืน ซัมซุงยังมี AI Energy Mode ที่สามารถเซฟค่าไฟได้มากขึ้นถึง 30% แบบที่ไม่กระทบต่อคุณภาพของภาพ พร้อมรีโมตโซลาร์เซลล์ และมี AI ที่สามารถเรียนรู้และปรับตามความต้องการของผู้ใช้ได้ อาทิ AI Auto Game Mode ที่จะเริ่มทำงานระหว่างเล่นเกม ช่วยปรับภาพและเสียงให้เหมาะสมเพื่อการเล่นเกมที่ดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น AI Customization Mode จะปรับภาพแต่ละฉากตามความต้องการของผู้ใช้
สุดท้าย คือเรื่องของความปลอดภัย เพราะทีวีถือเป็นเซ็นเตอร์ของบ้านในการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของบ้าน เพราะฉะนั้น ทุก ๆ พาสเวิร์ดจะได้รับการปกป้องไม่ให้โดนแฮคได้ง่ายจากระบบการรักษาความปลอดภัยอย่าง Knox Security ที่ทำให้ซัมซุงต่างจากคู่แข่งโดยสิ้นเชิง เพราะความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของซัมซุง เส้นทางการพัฒนาของทีวีซัมซุงนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกด้านของผู้บริโภคอย่างครอบคลุมและยังทำให้ซัมซุงคงตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมนี้มาอย่างยาวนาน
ท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัด ครองแชมป์ “สนามบินที่ดีที่สุดในโลก”
Apple ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงกว่า 55% นับตั้งแต่ปี 2015