Share on
×

Share

เจาะเบื้องหลัง ‘Zipevent’ จากแพลตฟอร์มการจัดการอีเวนท์ สู่เส้นทาง M&A

Zipevent ร่วมแชร์ประเด็นการเข้าสู่กระบวนการควบรวมและเข้าซื้อกิจการ หรือ M&A พร้อมแนวทางการเตรียมตัว Synergy ธุรกิจ แก่สตาร์ทอัพที่มีเป้าหมายเดียวกัน ในงาน Startup ต้องรอด “เพราะทำ Startup จึงเจ็บปวด” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับสตาร์ทอัพ พร้อมเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง โดย ภาโรจน์ เด่นสกุล CEO & Co-founder Zipevent ที่เล่าถึงเบื้องหลังเส้นทางการ Exit ของบริษัท จากการเริ่มต้นเป็นแพลตฟอร์มการจัดการอีเวนท์ในประเทศไทย สู่การคว้าโอกาสเข้าสู่ M&A กับบริษัทต่างชาติ

Zipevent คือแพลตฟอร์มการจัดการอีเวนท์และกิจกรรมแบบครบวงจรในประเทศไทย ตัวกลางที่เชื่อมต่อระหว่าง ผู้จัดงาน และ ผู้เข้าชมงาน เข้าด้วยกัน เติบโตมาเรื่อย ๆ มีการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ เช่น การจัดงานแบบ Virtual และ Hybrid เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างประสบการณ์การจัดงานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า 

ภาโรจน์ เริ่มต้นด้วยคำถามที่หลายคนอาจสงสัย ทำไม Zipevent ถึงเลือก M&A แทนที่จะไป IPO โดยได้กล่าวว่า การเลือกทางนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการหาเงินทุน แต่เป็นเรื่องของการสร้างความแข็งแกร่งร่วมกับพาร์ตเนอร์ M&A การควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการมีข้อดีที่สำคัญอย่างแรกคือ Synergy หรือการที่เราได้ร่วมคิด ร่วมทำกับพาร์ตเนอร์ที่มีศักยภาพและจุดแข็งที่ส่งเสริมกัน

ในทางกลับกันแน่นอนว่า IPO การนำหุ้นบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เองก็มีข้อดี เช่น การเพิ่มความน่าเชื่อถือในตลาด และการเข้าถึงทุนสาธารณะ

M&A และ IPO คืออะไร?

zipevent-mergers-startups
  • M&A (Mergers and Acquisitions) คือการที่บริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป ทำการควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน เป็นผลให้บริษัทเหล่านั้น ถูกยุบรวมกลายเป็นบริษัทใหม่ สามารถใช้ทรัพยากรและจุดแข็งต่าง ๆ ของแต่ละบริษัทร่วมกัน โดยกระบวนการนี้มักไม่ซับซ้อนมากเมื่อเทียบกับวิธี IPO
  • IPO (Initial Public Offering) คือการนำหุ้นของบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เปิดโอกาสให้คนทั่วไปลงทุนในบริษัท ซึ่งเป็นวิธีระดมทุนที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ มีกระบวนการที่ซับซ้อนโดยเฉพาะในด้านเอกสารและการเตรียมความพร้อม เป็นต้น

ทำไม Zipevent ถึงเลือก M&A?

เพื่อก้าวสู่การเติบโตในระดับสากล Zipevent มีเป้าหมายขยายธุรกิจในระดับภูมิภาค เช่น เวียดนาม พม่า และสิงคโปร์ แต่พบว่ายังขาดเครือข่ายและทรัพยากรที่เพียงพอ M&A จึงเป็นคำตอบที่ช่วยให้สามารถข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ได้

สำหรับการเข้าสู่ M&A เป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ระยะยาว โดยมองว่าการ Synergy กับพาร์ตเนอร์ไม่เพียงช่วยให้สามารถขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลก แต่ยังช่วยพัฒนาเทคโนโลยีให้ดียิ่งขึ้น เพื่อมอบ Service Excellence ให้แก่ลูกค้า และอีกเหตุผลสำคัญคือ พาร์ตเนอร์มีเป้าหมายในการ IPO ในญี่ปุ่น ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนให้ Zipevent ขยายตลาดและสร้างโอกาสใหม่ ๆ

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในกระบวนการ M&A

หลายคนอาจคิดว่าการ M&A เป็นเรื่องง่าย เพียงตกลงราคาร่วมกันแล้วจบ จริง ๆ แล้วซับซ้อนมากกว่านั้น ใช้ระยะเวลานานกว่า 1 ปี มีหลายสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม เช่น ข้อมูลของบริษัทที่ต้องละเอียดและครบถ้วนมากที่สุด ทั้งในแง่ของการเงิน โครงสร้างองค์กร และพนักงาน ทุกอย่างต้องโปร่งใส เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพาร์ตเนอร์ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ระยะเวลาในการ Deal Period การสร้างความเข้าใจระหว่างกัน และ Synergy ที่ต้องเกิดขึ้นจากทั้งสองฝั่ง รวมถึง Company Data ต้องเตรียมเอกสารที่ละเอียดอย่างมาก

นอกจากนี้ การ Deal Period ต้องมีการเดินทางไป – มาระหว่างไทยกับญี่ปุ่น เพื่อทำความเข้าใจกันให้มากที่สุด สิ่งสำคัญคือการสื่อสาร โดยเฉพาะเมื่อต้องเจออุปสรรคเรื่องภาษา การมีตัวกลางที่ช่วยประสานงานจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ “มันเหมือนกับการออกเดท ก่อนจะตกลงแต่งงาน เราต้องมั่นใจว่าเราเข้ากันได้จริง ๆ” ภาโรจน์ กล่าวย้ำ

Key Success Factors (KSF)

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ M&A ครั้งนี้สำเร็จประกอบด้วย 3 Key  

  • People: บริษัทต้องมีทีมงานที่แข็งแกร่งและพร้อมทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์
  • Performance: เป็นสิ่งที่ต้องแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีผลงานและ Traction ที่น่าเชื่อถือ
  • Partner: การเลือกพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสมสำคัญมาก โดยเฉพาะในเรื่องการตรวจสอบสัญญา การป้องกันข้อมูล และการสนับสนุนด้านกฎหมาย

ความท้าทายและบทเรียนรวมถึงเคล็ดลับสำหรับสตาร์ทอัพที่มุ่งสู่ M&A

เบื้องหลังของการ Deal Period ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องใช้หยาดเหงื่อเช่นกัน เพราะตลอด 1 ปีต้องมีการเตรียมความพร้อมทุกด้านไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอกสาร แผนธุรกิจ กลยุทธ์ ผลงานเด่นต่าง ๆ ของบริษัท ตลอดถึงการสร้างความเข้าใจระหว่างทีมงาน หากพาร์ตเนอร์มีเป้าหมายเดียวกันและพร้อมเติบโตไปด้วยกัน ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล

สำหรับสตาร์ทอัพที่ต้องการเข้าสู่ M&A ภาโรจน์เสริมว่า “แนะนำให้คุณเริ่มจากการสร้าง Performance ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลให้มีโอกาสได้พบเจอกับพาร์ตเนอร์ที่สนใจในผลงาน อยากให้ลองพูดคุยกันภายในองค์กร ผลักดันไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงการเตรียมตัวให้พร้อมในทุกด้าน อย่าลืมว่าการเดินทางนี้ต้องใช้ความพยายามและความอดทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่าแน่นอน”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

คณะแพทย์ มช. จับมือ IBM นำ AI ยกระดับ Healthcare ไทย

รพ.ศิริราช พลิกโฉมระบบสารสนเทศ สู่รพ.รัฐแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่ใช้ RISE with SAP Private Cloud Edition เต็มรูปแบบ

เหรียญสองด้าน ‘กาสิโน’ ปั๊มเศรษฐกิจ

×

Share

ผู้เขียน