Share on
×

Share

เปิดข้อเสนอแนะจากนักวิชาการจุฬาฯ รัฐบาลควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม นักวิชาการจาก คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟสบุ๊ก เขียนจดหมายเปิดผนึก ถึงนายกรัฐมนตรีแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกใหม่ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศสงครามการค้า

เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนเป็นประเด็นสำคัญที่จะมีผลกระทบไปทั่วทั้งโลก ตัวผมเองในฐานะที่เป็นผู้สังเกตุการณ์ ศึกษาวิจัย สอนหนังสือ และเขียนหนังสือที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยในประชาคมอาเซียนท่ามกลางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และมีความเชื่อว่าการกำหนดนโยบายของประเทศควรต้องบูรณการความรู้และประสบการณ์จากทุกภาคส่วน ผมจึงเขียนจดหมายเปิดผนึกนี้ถึงท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความคิดเห็นใน 10 ข้อเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกใหม่สำหรับรัฐบาลไทย

  1. ต้องเปิดทัศนคติใหม่ (New Mindset) แล้วว่า ระเบียบโลกได้เปลี่ยนแปลงไปสู่การขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และใช้เครื่องมือทางภูมิเศรษฐศาสตร์ในการห้ำหั่นหัน โลกกำลังแตกออกเป็น 3 ห่วงโซ่มูลค่า (GVCs) นั่นคือ 1) US-led GVCs, 2) China-led GVCs และ 3) ห่วงโซ่มูลค่าของประเทศอื่นๆ ซึ่งสิ่งแวดล้อมใหม่นี้จะอยู่กับเราในระยะยาว
  2. ต้องบูรณการองค์ความรู้ในทุกศาสตร์แบบสหสาขาวิชาเพื่อรับมือกับสิ่งแวดล้อมใหม่นี้ โดยมีผลประโยชน์ของชาติเป็นเป้าหมาย และอย่าสับสนระหว่างผลประโยชน์ชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัวและ/หรือครอบครัว
  3. ไทยต้องวางยุทธศาสตร์อย่างน้อย 3 ด้าน 1) ยุทธศาสตร์ต่อสหรัฐ 2) ยุทธศาสตร์ต่อจีน และ 3) ต้องเล่นบทบาทนำในประชาคมอาเซียน
  4. ต่อสหรัฐ เราต้องยืนยันว่าไทยไม่ได้อยู่ใต้อิทธิพลของมหาอำนาจใด เร่งสำรวจช่องทางในการเข้าถึง Trump และ/หรือ ทีมงานใกล้ชิด และสำคัญที่สุดคือ อำนาจต่อรองของไทยต่อสหรัฐไม่ได้อยู่ในมิติเศรษฐกิจ หากแต่อยู่ในมิติความมั่นคง, การทหาร และการเมืองระหว่างประเทศ ดังนั้นเราต้องสามารถออกอาวุธได้ในทุกมิติมิใช่เพียงแต่ การค้า การเงิน การลงทุน
  5. ต่อจีน เราต้องขยายตลาดสินค้าไทยเข้าจีน เพื่อทดแทนสินค้าที่จีนเคยนำเข้าจากสหรัฐ และด้วยความเป็นพันธมิตรที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานร่วมกัน เราต้องขอให้จีนควบคุมมิให้สินค้าจีนเข้ามาบุกและทำลายตลาดของผู้ประกอบการไทยในประเทศไทย พร้อมๆ กับต้องแสดงจุดยืนสนับสนุนจีนในเวทีนานาชาติในมิติที่เป็นผลประโยชน์ที่ไทยและจีนมีร่วมกัน และขอให้จีนสนับสนุนให้ไทยได้เข้าเป็นสมาชิกเต็มของ BRICS เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ
  6. ต่ออาเซียน ต้องประสานผลประโยชน์ และดำเนินยุทธศาสตร์ ราชสีห์กับหนู รวมอุปสงค์ของอาเซียนต่อสินค้าและบริการของสหรัฐเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง และใช้อาเซียนเป็นอีก 1 ช่องทางในการเจรจากับสหรัฐควบคู่กับที่เราต้องดำเนินการแบบทวิภาคีด้วย และต้องให้ทั้ง 2 แทรคส่งเสริมซึ่งกันและกัน
  7. ไทยต้องมองหาโอกาสทางเศรษฐกิจในตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะ ขั้วที่ 3 ของเกมส์ภูมิรัฐศาสตร์โลก นั่นคือ โลกมุสลิม (โลกมลายู+เอเชียใต้+แอฟริกา+ตะวันออกกลาง) พร้อมๆ กับต้องศึกษาลงลึกว่าภาษี Reciprocal tariff ที่มีอัตราแตกต่างกัน เราจะมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มในเชิงเปรียบเทียบกับประเทศใด และเราจะเสียเปรียบประเทศใด
  8. ในระยะยาว ไทยต้องกระตุ้นให้ การบริโภคภายในประเทศ กลายเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปัจจัยผลักดันให้การบริโภคภายในประเทศอย่างยั่งยืนไม่ใช่การใช้
    นโยบายประชานิยม หากแต่ต้องเป็นการใช้นโยบายส่งเสริมการกระจายรายได้อย่างอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมความเท่าเทียมในการจัดสรรทรัพยากรและโอกาส และการมีธรรมภิบาล
  9. ในมิติการเงิน การคลัง และอัตราแลกเปลี่ยน รัฐบาลคงต้องทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิดในการให้อิสระธนาคารแห่งประเทศไทยในการดำเนินนโยบายการเงินและนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและปรับสัดส่วนกระจายการถือครองทรัพย์สินต่าง ๆ ในทุนสำรองระหว่างประเทศ
  10. ใช้มิติสังคม วัฒนธรรม และ มนุษยธรรมในการเสริมสร้าง Soft Power เพื่อรับมือกับมาตรการสงครามภูมิรัฐศาสตร์ที่มากไปกว่าแค่สงครามภาษี การระงับวีซ่า การระงับทุนให้ความช่วยเหลือในหลากมิติ การหยุดการสนับสนุนทุนการศึกษา และงานวิจัย ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติ การแพร่ระบาดของโรค จุดยืนในประชาคมนานาชาติ เหล่านี้ไทยต้องทำงานหนัก และสนับสนุนงบประมาณเพื่อสร้างเพื่อนประเทศไทย (Friends of Thailand) ให้สนับสนุนไทย ช่วยไทย ในการเรียกร้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติในเวทีโลก

ทั้งหมดนี้คือ ข้อเสนอแนะ 10 ข้อของผมเพื่อให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ผมมีข้อเขียนที่อธิบายความอย่างละเอียดในแต่ละข้อเพื่อให้ท่านนายกฯ ส่งให้กับทีมงานที่เกี่ยวข้องได้ไปศึกษาและดำเนินการต่อ

หวังว่าข้อเสนอของผมจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและรัฐบาล เพราะนี่คือสถานการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ถ้าประเทศไทยตั้งรับ ปรับตัว และทำนโยบายเชิงรุกได้อย่างดี ประเทศไทยจะทะยานขึ้น แต่ถ้าเรายังงง ๆ กันแบบนี้ต่อไป เราเองจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในประชาคมโลก

21 เมษายน 2025

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ภาษีทรัมป์ป่วนโลก มองหาหลุมหลบภัย ‘พักเงิน’ ยังไงให้ ‘ผลตอบแทนไม่พัก’

อ่านทาง ทีมนโยบายเศรษฐกิจทรัมป์

×

Share

ผู้เขียน