บริษัทอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ประกาศเปิดตัว AWS App Studio ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่ใช้ Generative AI ในการสร้างแอปพลิเคชันระดับองค์กรด้วยการใช้ภาษาธรรมชาติ ผู้ใช้สามารถอธิบายรายละเอียดแอปพลิเคชันที่ต้องการ ระบุฟังก์ชันการทำงานที่คาดหวัง และแหล่งข้อมูลที่จะเชื่อมต่อ ภายในเวลาไม่กี่นาที App Studio จะสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาให้ หากนักพัฒนาต้องสร้างจากเริ่มต้นด้วยตนเอง อาจต้องใช้เวลาหลายวัน
การปรับแต่งแอปพลิเคชันของ App Studio ทำได้ง่ายด้วยการคลิกและลากวางอย่างง่ายดาย (point-and-click) ผู้ใช้ยังสามารถขอคำแนะนำจากผู้ช่วยที่มีความสามรถจาก Generative AI ได้ทันที เพื่อให้แอปพลิเคชันทำงานตามผู้ที่พัฒนาต้องการ ด้วย App Studio แม้ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดหรือทักษะด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้ใช้งานทั่วไปในองค์กร เช่น ผู้จัดการโครงการ วิศวกรข้อมูล และ Enterprise Architect ก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยมี AWS เป็นผู้ดูแลด้านความปลอดภัย การจัดการดูแลแอปพลิเคชัน และการดำเนินการต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติการเหล่านั้น ผู้ใช้จึงสามารถโฟกัสไปที่การออกแบบและสร้างแอปพลิเคชันเพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง โดยไม่ต้องกังวลกับรายละเอียดด้านเทคนิคของแอปพลิเคชัน
ทุกองค์กรมีกระบวนการทำงานและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในที่พนักงานต้องดำเนินการเป็นประจำ เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น ทีมจัดซื้อของโรงพยาบาลจำเป็นต้องติดตามสต็อกวัสดุทางการแพทย์ และสั่งซื้อเพิ่มเมื่อมีจำนวนน้อย ผู้บริหารบัญชีในบริษัทโฆษณาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการออกแบบ ตรวจสอบ และอนุมัติโฆษณา ส่วนผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ต้องควบคุมสต็อกห้องพักให้เช่า และดูแลการซ่อมแซมห้องพักเมื่อจำเป็น
กระบวนการดังกล่าวมีขั้นตอนที่ยืดยาว และมักดำเนินการผ่านสเปรดชีตหรือเอกสารซึ่งยากต่อการปรับปรุงและบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงสูงต่อข้อผิดพลาด จากการป้อนข้อมูลที่ผิดพลาด ขาดมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม และไม่สามารถรองรับการใช้งานจากผู้ใช้จำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพนักงานมีแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะด้านต่าง ๆ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ เนื่องจากแอปพลิเคชันดังกล่าวจะทำให้การป้อนข้อมูลง่ายขึ้น สามารถจัดการกระบวนการที่ซับซ้อนได้ และเชื่อมต่อกับระบบที่น่าเชื่อถือ อาทิ Amazon Simple Storage Service (Amazon S3) หรือ Salesforce
อย่างไรก็ดี การพัฒนาแอปพลิเคชันตามความต้องการเฉพาะ ต้องใช้ทรัพยากรค่อนข้างมาก จึงทำให้มีแอปพลิเคชันภายในองค์กรจำนวนไม่น้อยไม่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา เนื่องจากข้อจำกัดดังกล่าว พนักงานที่มีความรู้ด้านเทคนิคจึงหันมาใช้เครื่องมือสร้างแอปพลิเคชันแบบโค้ดน้อย (Low-code) เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันตามความต้องการด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม เครื่องมือเหล่านี้ก็มีข้อจำกัดและข้อท้าทายหลายประการ ได้แก่ มีความยากในการเรียนรู้และต้องใช้ความรู้เฉพาะของแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ แอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นมักไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของบริษัท จนทำให้แผนกไอทีต้องระงับการใช้งาน และเมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้น แอปพลิเคชันเหล่านี้ก็มักประสบปัญหาในการรองรับปริมาณการใช้งานมาก ๆ จนต้องส่งมอบการโฮสต์และการรันให้กับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทดำเนินการแทน ส่งผลให้พนักงานจำนวนมากประสบปัญหา โดยต้องเลือกระหว่างการใช้เครื่องมือสร้างแอปพลิเคชันแบบโค้ดน้อยที่มีข้อจำกัด หรือจัดการกระบวนการต่าง ๆ อย่างยากลำบากผ่านสเปรดชีตและเอกสารในรูปแบบเดิม
AWS App Studio ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างแอปพลิเคชันระดับองค์กรได้รวดเร็วและง่ายดาย แม้จะมีประสบการณ์ด้านเทคนิคเพียงเล็กน้อย ซึ่งในอดีตการสร้างแอปพลิเคชันเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยนักพัฒนาโปรแกรมมืออาชีพ
ด้วยผู้ช่วยที่มีความสามารถจาก Generative AI ของ App Studio จะช่วยขจัดความยุ่งยากในการเรียนรู้เครื่องมือเขียนโค้ดแบบดั้งเดิม ทำให้กระบวนการสร้างแอปพลิเคชันรวดเร็วขึ้น และทำให้งานทั่วไปเช่น การออกแบบหน้าจอ (User interface: UI) การสร้างวิธีการทำงาน และการทดสอบแอปพลิเคชันง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถระบุแหล่งข้อมูลขององค์กรที่แอปพลิเคชันควรเชื่อมต่อได้ จากนั้นให้คำสั่ง กับ App Studio เช่น “สร้างแอพสำหรับติดตามสินค้าคงคลังของร้านค้า” App Studio จะสร้างโครงร่างเพื่อให้ผู้พัฒนาตรวจสอบ จากนั้นสร้างแอปพลิเคชันที่อาจมีหน้าจอ UI หลายหน้า รวมถึงรูปแบบข้อมูลและลอจิกทางธุรกิจ หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถถามคำถามเพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม เช่น “อยากแสดงปุ่ม ‘อนุมัติ’ ให้กับผู้ที่มีสิทธิตรวจสอบเท่านั้น”
นอกจากนี้ App Studio จะให้คำแนะนำอย่างละเอียดว่าจะแก้ไขโดยใช้ระบบการคลิกและลากวางเพิ่มให้ได้สิ่งที่ผู้สร้างต้องการ เพื่อทดสอบแอปพลิเคชัน ผู้ใช้เพียงแค่คลิกปุ่ม “สร้างข้อมูลตัวอย่าง” เพื่อสร้างข้อมูลตัวอย่างที่จะแสดงให้เห็นว่าแอปพลิเคชันจัดการข้อมูลกับข้อมูลอย่างไรแบบ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันกับแหล่งข้อมูลภายในองค์กรได้อย่างง่ายดาย โดยใช้คอนเนกเตอร์ที่มีให้สำหรับบริการของ AWS (เช่น Amazon Aurora, Amazon DynamoDB และ Amazon S3) และ Salesforce รวมถึงบริการจากผู้ให้บริการรายอื่น (เช่น HubSpot, Slack และ Zendesk) โดยใช้คอนเนกเตอร์ application programming interface (API) ด้วย App Studio ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่อง code อีกไป App Studio จะดูแลการดำเนินการ การปฏิบัติงาน และการบำรุงรักษาทั้งหมดให้ เมื่อแอปพร้อมใช้งาน App Studio จะสร้าง URL ที่สามารถปรับแต่งได้ให้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึง URL นี้ได้อย่างปลอดภัย โดยมีการตรวจสอบสิทธิ์และควบคุมการเข้าถึงตามบทบาทหน้าที่ของผู้ใช้
ดิลิป คุมาร์ รองประธานฝ่ายแอปพลิเคชันของ AWS กล่าวว่า “AWS App Studio เปิดโอกาสให้ผู้สร้างรุ่นใหม่สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันระดับองค์กรได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที เนื่องจากได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายใหญ่และสตาร์ทอัพที่เติบโตเร็วที่สุด App Studio เป็นตัวเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่พนักงานด้านเทคนิคในทุกองค์กร ในปัจจุบันผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ด้านเทคนิคเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดย App Studio จะดำเนินกระบวนการพัฒนาและส่งมอบแอปพลิเคชันที่พร้อมใช้งานได้ทันที ซึ่งสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์เฉพาะของธุรกิจเป็นสิ่งที่ไม่เคยสะดวกและง่ายดายเช่นนี้มาก่อน นวัตกรรมการใช้ภาษาธรรมชาตินี้เปิดโอกาสให้องค์กรทุกขนาดเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น”
ทุกแอปพลิเคชันที่ถูกนำไปใช้งานผ่าน App Studio มีความปลอดภัยสูง สามารถขยายขนาดได้ และมีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างนวัตกรรมแทนการจัดการแอปพลิเคชัน ด้วย App Studio ทีมงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถมองเห็นภาพรวมของแอปพลิเคชันทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถติดตามพฤติกรรมการใช้งาน ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและผู้ใช้งาน รวมถึงกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยให้สอดคล้องกับนโยบายขององค์กร การสร้างแอปพลิเคชันด้วย App Studio นั้นไม่มีค่าใช้จ่าย โดยลูกค้าจะจ่ายเงินเฉพาะเวลาที่พนักงานใช้งานแอปพลิเคชันที่เผยแพร่เท่านั้น ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับบริการสร้างแอปพลิเคชันแบบ low-code อื่น ๆ App Studio พร้อมให้บริการในรูปแบบ Preview ในภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา (Oregon) ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
จริงหรือไม่…Data center เป็นธุรกิจมาแรง แบบเกินต้าน?
ดาวเทียมโทรคมนาคม ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ดวงแรกของจีน เริ่มให้บริการแล้ว