Share on
×

Share

เอปสันตั้งเป้าเติบโต 6% ปี 2568 ชูนวัตกรรมคู่ความยั่งยืนรุกตลาด

“ภาพรวมการดำเนินงานปี 2567 เอปสันยังคงสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมไอที และปี 2568 ตั้งเป้าการเติบโต 6% ซึ่งโครงการจัดซื้อแท็บเล็ต-โน้ตบุ๊กแก่นักเรียนจะส่งผลทางอ้อมแก่ตลาดพรินเตอร์ เป็นอานิสงส์บางส่วนไม่ใช่อัตราส่วน 1:1 แต่ซื้อคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งต่อพรินเตอร์ 1 เครื่อง” ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย)​ จำกัด เผย

ยรรยงเห็นว่า ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ มีทั้งสนับสนุนและท้าทายการเติบโตทางธุรกิจของเอปสัน โดยหนึ่งในเทรนด์หลักคือ Digital Transformation ในองค์กรภาครัฐ ที่กระตุ้นความต้องการโซลูชันการพิมพ์และโปรเจคเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงเอสเอ็มอี และสตาร์ตอัพที่กำลังขยายตัวจะเพิ่มความต้องการโซลูชันการพิมพ์ที่คุ้มค่าและประหยัดต้นทุนมากขึ้น

นอกจากนี้ กรอบแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (ESG) จะช่วยเร่งธุรกิจในประเทศไทยปรับตัวสู่การพิมพ์อย่างยั่งยืนมากขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ขณะเดียวกัน อีคอมเมิร์ซที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะยอดขายสินค้าไอทีทางออนไลน์ที่เติบโตเร็วกว่าช่องทางออฟไลน์ ต้องเริ่มเผชิญกับต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ต่างปรับขึ้นค่าธรรมเนียมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องจับตา โดยเฉพาะนโยบาย Trump 2.0 ที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย การลงทุนและการย้ายฐานการผลิตของต่างชาติในประเทศไทย

ก้าวนำตลาดด้วย 4 กลยุทธ์หลัก

การตั้งเป้าเติบโตปี 2568 มีกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตสำหรับองค์กรที่คาดว่าจะโดดเด่นที่สุด ซึ่งบริษัทยังคงขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าด้วยแนวทางในการปรับตัว และการก้าวนำตลาดอย่างต่อเนื่องผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และรักษาความเป็นผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์ โปรเจกเตอร์ และโซลูชันทางธุรกิจ

ได้แก่ 1. การนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า (Innovation Offering) เพื่อปกป้องตลาดที่เป็นผู้นำ พร้อมมุ่งสร้าง S-Curve ใหม่ของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน โดยมีแนวทางการดำเนินงาน 4 ด้าน (SEED) ประกอบด้วย

Secure คือการรักษาคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และคุณค่าของผลิตภัณฑ์ Ensure คือการรักษาระดับราคาทั้งของตัวผลิตภัณฑ์และหมึกพิมพ์ให้สามารถทำตลาดได้ในราคาที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่อ่อนไหวต่อราคา Expand คือ การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ โอกาสทางธุรกิจ และโซลูชันใหม่ๆ และ Defend คือการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด รับมือกับการแข่งขัน และใช้จุดแข็งด้านเทคโนโลยีเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดอย่างมั่นคง

2. การเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่าย (Agility in Channel) พัฒนาช่องทางการขายรองรับตลาด B2C โดยเน้นการทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่าย เพื่อเจาะตลาดเมืองรอง พร้อมขยายช่องทางอีคอมเมิร์ซ ผ่านแพลตฟอร์มหลัก และแพลตฟอร์มของพันธมิตร และ B2B ที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับความสัมพันธ์กับผู้ค้ารายใหญ่ พร้อมเพิ่มโซลูชันการจัดการดูแลเครื่องพิมพ์และเครื่องถ่ายเอกสารอย่างครบวงจร (MPS) และการขายโซลูชันแบบรวมเครื่องพิมพ์หลากรุ่น (Mix Fleet Solution) และการพัฒนาการมีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้ใช้งานภาคการศึกษา การแพทย์ การผลิต และหน่วยงานรัฐ

3. การยกระดับประสบการณ์และความพึงพอใจของลูกค้า (Enhanced Customer Service) ด้วยกลไกสำคัญ 4 ด้าน เริ่มจากการพัฒนาศักยภาพการให้บริการด้วยระบบสนับสนุนที่ทันสมัย ผ่าน 4 นวัตกรรม ได้แก่ New Integrated System ช่วยติดตามและตรวจสอบการทำงานของทีมขายและฝ่ายบริการลูกค้าแบบเรียลไทม์ภายใต้ระบบการให้บริการสนับสนุนและตรวจสอบปัญหาจากระยะไกลผ่านวิดีโอแบบเรียลไทม์ (Live Video Support and Remote Diagnostics) และกำลังพัฒนาการบริการอัตโนมัติ 24 ชั่วโมงในระบบ AI-driven Chatbots รวมถึงหลักสูตรอบรม Customizable Training Course ที่ออกแบบให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มเล็กตามความต้องการที่แตกต่างกัน เน้นฝึกปฏิบัติจริง ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานและความมั่นใจแก่ลูกค้า

ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายศูนย์บริการด้วยการให้บริการแบบ On-site Service ครอบคลุมทั่วประเทศ จากศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต 174 แห่งทั่วทุกภูมิภาค ทั้งยังเพิ่มความมั่นใจระยะยาวด้วยโปรแกรม Coverplus Sales ขยายระยะเวลารับประกันของตัวเครื่อง (Extended Main Unit Warranty) ให้ลูกค้าเลือกซื้อ และขยายระยะเวลาการจัดหาอะไหล่แก่ลูกค้า B2B เป็น 7 ปีจากเดิม 5 ปี

และ 4. การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการ (Value Creation) ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์เชิงบวกให้แก่แบรนด์และธุรกิจ ทั้งยังเปิดโอกาสทางธุรกิจในการเข้าสู่ตลาดใหม่ที่ต้องการนวัตกรรมที่ได้มาตรฐานด้าน ESG ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างโอกาสการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนและสังคมไทย โดยการนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น หัวพิมพ์เทคโนโลยี Heat-Free เครื่องพิมพ์ EcoTank นวัตกรรมการรีไซเคิลกระดาษ และเลเซอร์ โปรเจคเตอร์ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ใช้วัสดุสิ้นเปลืองน้อยกว่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

รักษาผู้นำอิงค์แทงค์ด้วยส่วนแบ่ง 45%

ปวีณา ศรีตระกูล หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ว่า ในปี 2568 เอปสันมีแผนที่จะทำการตลาดอย่างเข้มข้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ เริ่มจากกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แทงค์ ที่ตั้งเป้ารักษาตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งไม่น้อยกว่า 45%

ผ่านกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่ รักษาฐานตลาดกลุ่มเครื่องรุ่น Entry ควบคู่กับการเร่งขยายตลาด Mid-High ด้วยเครื่องพิมพ์ EcoTank รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวในช่วงไตรมาสสอง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานระดับมืออาชีพได้ลงตัวยิ่งขึ้น และการสร้างแคมเปญ  “From Imagination to Reality” เพื่อตอกย้ำความมั่นใจลูกค้าและผู้บริโภคเรื่องคุณภาพ โดยใช้การตลาดผ่านโซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์บนแพลตฟอร์ม Facebook TikTok และ YouTube

พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าผลักดันเครื่องพิมพ์ EcoTank ทั้งสีและขาวดำ เข้าสู่ตลาดที่เคยเป็นพื้นที่ของเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ผ่านการให้ความรู้อย่างต่อเนื่องถึงความคุ้มค่าที่เหนือกว่า ความประหยัด และความยั่งยืน รวมถึงการริเริ่มแคมเปญ “Go Live Genuine Hologram” ส่งเสริมการใช้หมึกแท้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวโฮโลแกรมรุ่นใหม่ทั่วภูมิภาคในไตรมาสสอง ช่วยให้ผู้บริโภคแยกผลิตภัณฑ์แท้จากของปลอมได้ง่ายขึ้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตสำหรับองค์กร ตั้งเป้าการเติบโตในกลุ่มธุรกิจ B2B ไว้ที่ 20% ผ่านการผลักดัน 3 ด้าน คือ การเร่งขยายพันธมิตรทางธุรกิจอย่างจริงจัง โปรแกรม E2E (End-to-End) เน้นการดูแลลูกค้าเก่าด้วยการตรวจเช็กฟรี เสนอโปรแกรมอัปเกรด หรือเทรดอิน และการสมัครสมาชิก เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และการนำเสนอโซลูชั่นที่ผสมผสานเครื่องพิมพ์เอปสันที่แตกต่างกัน (Mixed Fleet) เพื่อช่วยลดต้นทุนโดยรวม เสริมประสิทธิภาพด้วยซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน และส่งเสริมความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ

ส่วนเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ได้วางพันธกิจในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digitalization) ในอุตสาหกรรมการพิมพ์ ด้วยเทคโนโลยีอิงค์เจ็ตที่เน้นคุณภาพ ประสิทธิภาพ และการใช้งานที่ง่ายขึ้น พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยขับเคลื่อนกลยุทธ์ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การเร่งขยายการเติบโตในกลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา การพัฒนาและขยายโซลูชันสินค้าให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และการสร้างนวัตกรรมใหม่ในธุรกิจการพิมพ์ผ้าด้วยกลยุทธ์ SEED

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิด Epson Personalized Printing Studio ไม่น้อยกว่า 15 ช้อปภายในปีนี้ โดยเดือน พ.ค.2568 จะเปิดแห่งแรกที่ Solution Center พระราม 4 โดยสตูดิโอที่เปิดจะเป็นแหล่งรวมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การตกแต่ง การบริหารจัดการ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสของจริงนำไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งลงทุนประมาณ 5 แสนบาทต่อชุดก็สามารถประกอบธุรกิจได้ มีเป้าหมายเป็นร้านจัดทำของที่ระลึก ร้านโฟโต้ช้อปที่ต้องการขยายธุรกิจ

กลุ่มโปรเจคเตอร์ ตั้งเป้ารักษาตำแหน่งผู้นำตลาดการศึกษา ด้วยการเสริมสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นในแบรนด์ผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดอบรม สัมมนา และเวิร์กช็อป พร้อมเปิดตัวโปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ในกลุ่มสมาร์ตซีรีส์และเครื่องระดับกลาง และโฟกัสกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการพิเศษ โดยร่วมกับพาร์ตเนอร์พัฒนาโซลูชันครบวงจร เจาะตลาดองค์กรและโรงเรียนเอกชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขยายโอกาสทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังตั้งเป้าขยายตลาดโปรเจคเตอร์ความสว่างสูงในกลุ่มลูกค้าองค์กร เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 43% เป็น 50% ภายในปีนี้ โดยจะเปิดตัวแพ็คเกจเช่าโปรเจคเตอร์ความสว่างสูง เพื่อรองรับความต้องการของตลาด การนำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบจุดเด่นของโปรเจคเตอร์กับจอแอลอีดีผ่านการอบรม เวิร์กช็อป และโซเชียลมีเดีย รวมถึงการสื่อสารผ่านแคมเปญ “See Ultra” เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าใจและเห็นภาพความแตกต่างระหว่างสองเทคโนโลยีได้อย่างชัดเจน

บริษัทยังมีเป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายใน 2 ปีในส่วนของโฮมโปรเจคเตอร์ ด้วยแคมเปญสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ “See Ultra – Go beyond the TV” ร่วมกับ KOL และการนำเสนอจุดแข็งของโปรเจคเตอร์ เช่น ความสว่างและความคมชัดระดับ Real 4K ผ่านทั้งแคมเปญการตลาดดิจิทัลและทัชพอยต์ออฟไลน์ และเตรียมเปิดตัวโปรเจคเตอร์สำหรับใช้ร่วมกับเครื่อง Golf Simulation ที่ร่วมมือกับ 3 ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์กอล์ฟซิมูเลชันชั้นนำ พร้อมจับมือพันธมิตรกอล์ฟในการส่งเสริมการขาย

ปี 2567 ครองผู้นำอิงค์เจ็ต-โปรเจคเตอร์

ด้านผลงานปี 2567 เอปสันครองส่วนแบ่งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต 57% โดยในจำนวนนี้เป็นระบบแทงค์ 80% และรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น เครื่องพิมพ์ EcoTank มีส่วนแบ่ง 43% ในตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์

ส่วนโปรเจคเตอร์ มีส่วนแบ่งรวม 52% เครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม กลุ่ม Photo Proof ครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งที่ 32% เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายและเครื่องพิมพ์สิ่งทอที่ครองส่วนแบ่งตลาด 30% เท่ากัน

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

EnergyLIB จับมือ Power Buy เพิ่มการเข้าถึงโซลาร์เซลล์ครบวงจรสำหรับครัวเรือน

Cloudsec Asia จับมือ Nokia เสริมแกร่ง Cybersecurity ไทย

Salesforce เปิดตัว Agentic AI ล่าสุดในงาน Agentforce World Tour Bangkok

×

Share