ปัจจุบันข้อมูลมีอยู่มากมาย แต่การเข้าถึงความรู้ที่มีประโยชน์จริง กลับไม่ง่าย Wisdom on the House จึงเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่า ความรู้ไม่ควรถูกเก็บไว้แค่ในวงสนทนาเล็ก ๆ แต่ต้องถูกส่งต่อเพื่อสร้างโอกาสให้กับคนหมู่มาก พื้นที่แห่งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เพจให้ความรู้ทั่วไป แต่เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ และการเชื่อมโยงเครือข่ายของผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่มีคุณค่า นี่คือการขับเคลื่อนความรู้สู่สังคม ผ่านแนวคิดของ โจ้-ธนา เธียรอัจฉริยะ และ กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ที่เชื่อว่าการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง คือก้าวแรกของการเติบโตที่แท้จริง
Wisdom on the House คือพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ที่ต้องการเรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากผู้มีประสบการณ์ แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่เผยแพร่เนื้อหาดี ๆ แต่ต้องการสร้างเครือข่ายของคนที่เชื่อว่าความรู้ควรถูกส่งต่อ และใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับสังคม
แนวคิดนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนจาก โจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ และกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ผู้ก่อตั้ง House of Wisdom (H.O.W) ซึ่งเป็นเวทีสำหรับนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้นำทางความคิดจากหลากหลายอุตสาหกรรมในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมอง พวกเขาตระหนักว่า ความรู้อันมีค่ามากมายถูกจำกัดอยู่ในวงสนทนาเล็ก ๆ ทั้งที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้ จากแนวคิดนี้ “Wisdom on the House” จึงเกิดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรืออยู่ในสายงานใด เพราะเชื่อว่าการได้รับความรู้ที่ถูกต้องจากผู้มีประสบการณ์โดยตรงจะช่วยให้ก้าวข้ามข้อจำกัดและพัฒนาตัวเองได้เร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
“ถ้าความรู้สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ แล้วทำไมเราไม่ทำให้มันแพร่หลายกว่านี้?” – โจ้ ธนา
การให้เวลาคือการลงทุนที่มีค่าที่สุด
กระทิง เชื่อว่า ‘เวลา’ เป็นทรัพยากรที่มีค่ามากกว่าเงิน เพราะเงินที่เสียไปสามารถหาใหม่ได้ แต่เวลาที่เสียไปนั้น ไม่มีวันย้อนคืนมา
“คุณจะเห็นว่า คนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกอย่าง Bill Gates หรือ Warren Buffet พูดตรงกันเสมอว่า “ถ้าคุณมีความสามารถ ต่อให้คุณเสียเงินทั้งหมดไป คุณก็สร้างมันใหม่ได้ แต่คุณจะไม่มีวันซื้อเวลาคืนมาได้” นี่คือเหตุผลที่เขาให้ความสำคัญกับ การแชร์ความรู้ เพราะมันเป็นการใช้เวลาที่เกิดประโยชน์สูงสุด ทุกครั้งที่เราแชร์ความรู้ มันไม่ได้แค่ช่วยคนอื่น แต่มันยังช่วยให้เรากลับมาคิดและทบทวนตัวเองด้วย
และเมื่อกระทิงพูดถึง Wisdom on the House เขาไม่ได้มองว่ามันเป็นแค่เพจ หรือกลุ่มชุมชนทั่วไป แต่มันคือระบบนิเวศของความรู้ ที่ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้
โดยสรุป เวลา เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด การเรียนรู้จากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์จริงจะช่วยให้ประหยัดเวลา ลดความผิดพลาด และช่วยให้ผู้คนสามารถเติบโตได้รวดเร็วมากขึ้น นี่คือเป้าหมายหลักของแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นให้ความรู้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตัวเองและสร้างผลกระทบมุมกว้าง อนาคต Wisdom on the House ไม่ได้ต้องการเป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มในไทย แต่ยังมีแผนจะขยายไปยังระดับภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย โดยการร่วมมือกับองค์กรระดับนานาชาติ รวมถึง CEO และผู้นำจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก เพื่อสร้างสะพานแห่งการเรียนรู้ที่กว้างขึ้น
พลังจาก 1% ควรเป็น 1% ที่สร้างการเปลี่ยนแปลง
โจ้ มองว่า 1% ของประชากรโลกที่มีอำนาจและโอกาส ไม่ควรเป็นเพียงกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์ แต่ควรเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง (Engine of Impact) กลุ่มคนที่อยู่ใน H.O.W หลายคนคือผู้นำของอุตสาหกรรม พวกเขามีทรัพยากร มีความรู้ และมีเครือข่าย ถ้าพวกเขานำสิ่งเหล่านี้มาใช้ในทางที่ถูกต้อง มันสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ แทนที่ 1% จะเป็นกลุ่มที่ปิดตัวเองอยู่ในคลับของพวกเขา คุณโจ้เชื่อว่า พวกเขาสามารถเป็นสะพานที่เชื่อม 99% ที่เหลือเข้ากับองค์ความรู้ที่พวกเขามี นี่คือที่มาของ Wisdom on the House พื้นที่ที่ดึงศักยภาพของ 1% ออกมาเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้
Wisdom on The House แบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 คอลัมน์หลัก ที่ครอบคลุมมุมมองทางธุรกิจ เทคโนโลยี วิสัยทัศน์ชีวิต และบทเรียนจากผู้คนที่ประสบความสำเร็จ
- Conversation ถอดบทเรียนจากนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้นำทางความคิด
- Wisdom ข้อคิดด้านธุรกิจและชีวิตจากผู้มีประสบการณ์
- On the Rise เรื่องราวของผู้ประกอบการรุ่นใหม่และนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนโลก
- Perspective บทความจากนักคิดและนักเขียนที่ถ่ายทอดแนวคิดผ่านมุมมองของตนเอง
การแบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จและแนวคิดในการทำธุรกิจ
จุดเริ่มต้นของหมูในธุรกิจเครื่องเขียน หมูเริ่มต้นจากความชื่นชอบในเครื่องเขียน ทั้งที่ธุรกิจของครอบครัวเกี่ยวข้องกับสิ่งทอโดยตรง วันหนึ่งเกิดความสงสัยว่าทำไมปากกาลบได้ถึงมีราคาสูง จึงต้องการหาวิธีลดต้นทุน และเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้านี้
หมูเล่าว่า แรงบันดาลใจสำคัญเกิดขึ้นจากการดูภาพยนตร์เรื่อง “เถ้าแก่น้อย” และมีความฝันว่าอยากจะนำสินค้าไปวางขายในร้านสะดวกซื้อชั้นนำอย่างเซเว่น วันหนึ่งเมื่อตัดสินใจโทรศัพท์ติดต่อเข้าไปโดยไม่คิดอะไรมาก และโชคดีที่ได้รับโอกาสให้ทดลองเสนอสินค้า หลังจากนั้นจึงก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจเครื่องเขียนโดยสมบูรณ์ แม้ว่าจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับระบบการจัดจำหน่ายมาก่อน แต่ความกล้าที่จะลองทำและความคิดบวกก็ช่วยให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้
ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน หากวันนั้นไม่ได้โทรเข้าไป วันนี้อาจจะรู้สึกเสียดายมาก ปัจจุบันแบรนด์สินค้าของหมูเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในเซเว่น ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามและโอกาสที่ได้รับการแบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จของพี่หมูทำให้เห็นว่า สมาชิกหลายคนต่างก็มีเรื่องราวที่น่าตกใจเช่นเดียวกัน การได้มาเรียนรู้จากกันและกันภายในวงสนทนา ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ที่มีคุณค่า ทุกคนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของกันและกันได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เวลานานเป็นสิบปี
สุดท้าย อยากให้ที่นี่เป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และการแบ่งปันความรู้ที่มีคุณค่า ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนสามารถเติบโตไปพร้อมกัน ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับกันและกันได้
Wisdom on the House ไม่ใช่แค่เพจคอนเทนต์ แต่มันคือ Movement แห่งการแบ่งปันพื้นที่นี้เปรียบเสมือน Third Place หรือ บ้านหลังที่สาม ของคนที่ต้องการเติมเต็มพลังทางปัญญาเราอยากให้ที่นี่เป็นมากกว่าพื้นที่อ่าน แต่เป็นที่ที่คุณสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนไอเดีย เชื่อมโยงเครือข่าย และสร้างแรงกระเพื่อมที่ยิ่งใหญ่ให้กับสังคม
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Jubilee ผนึก POP MART เปิดตัวคอลเลกชันพิเศษ ขยายตลาดสู่ Gen Z
แนวโน้ม ESG ปี 68 ในโลกที่เอียงขวา