ซินเน็ค ดิสทริบิวเตอร์ไอทีรายใหญ่ ที่วางรากฐานการค้าส่งผลิตภัณฑ์ไอทีมาเกือบ 4 ทศวรรษ มูลค่ารายได้กว่า 40,000 ล้านบาทต่อปี มีช่องทางจำหน่ายผ่านดีลเลอร์กว่า 6,000 รายทั่วประเทศ ถือครองสิทธิ์การจัดจำหน่ายสินค้าไอทีกว่า 70 แบรนด์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เกมมิ่ง และมือถือ ล่าสุด ได้รับการแต่งตั้งเป็น Value-Added Distributor ของเอดับบลิวเอส ซึ่งต่างจะมีส่วนผลักดันอัตราการเติบโตของรายได้ปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 10%
สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Synnex เปิดข้อมูลการใช้จ่ายด้านคลาวด์ทั่วโลกปี 2025 จะมีมูลค่า 33 ล้านล้านบาท และเพิ่มเป็น 60 ล้านล้านบาทในปี 2029 ส่วนตลาดประเทศไทยเติบโตมากกว่าตลาดโลกที่อัตราเฉลี่ยปีละ 20% นับว่าเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูง จากปี 2025 มีมูลค่า 70,000 ล้านบาท และจะเติบโตเป็น 1.6 แสนล้านบาทในปี 2029
จากปัจจุบันการใช้จ่ายด้านคลาวด์ในประเทศไทยยังมีเพียง 12% ของมูลค่าตลาดไอที ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ต่ำกว่าตลาดโลกที่มีถึง 34% แต่ตลาดคลาวด์ในไทยยังมีแรงหนุนจากนโยบายคลาวด์ เฟิร์สต์ ของรัฐบาลที่ใช้จ่ายประมาณ 3,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และจะเพิ่มเป็น 5,000-10,000 ล้านบาทในปีนี้ จึงเป็นโอกาสอันสำคัญ ยังไม่นับการใช้จ่ายขององค์กรขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอี
จัดจำหน่ายคลาวด์ AWS
ล่าสุด ซินเน็ค ได้รับแต่งตั้งเป็น Value-Added Distributor ของอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ซึ่งสุธิดา บอกว่า จะเป็น Cloud Transformation Partner ที่เติบโตในตลาดคลาวด์ร่วมกันไปกับเอดับบลิวเอส และพาร์ตเนอร์ที่เป็นดีลเลอร์ของซินเน็ค สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการให้ชีวิตของคนง่ายขึ้น ดีขึ้น ด้วยเทคโนโลยี และเทคโนโลยีคลาวด์จะทำให้ง่ายขึ้นไปอีก
ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของระบบคลาวด์ในประเทศไทย ช่วยให้ธุรกิจไทยเข้าถึงเทคโนโลยี AWS ได้ง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขยายระบบ (scalability), ความปลอดภัย (security) และความคุ้มค่า (cost-effectiveness)
ในฐานะที่บริษัทอยู่ในตลาดเทคโนโลยีมา 37 ปี และปีที่แล้วสามารถทำรายได้ทะลุ 42,144 ล้านบาทเป็นปีแรก และปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% จากการมีผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเอดับบลิวเอส ประกอบกับฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ที่มี และซอฟต์แวร์อื่นๆ จะสร้าง Cross Selling Solution ไปด้วยกัน
แผนธุรกิจปีนี้บริษัทจะเน้นกลุ่ม Enterprise & Solution ที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 10% (ถ้านับรวมเป็นกลุ่ม Commercial & Enterprise แบบเดิมจะเป็น 24%) มีสินค้าประกอบด้วยคลาวด์ บิสิเนส ซอฟต์แวร์ เซิร์ฟเวอร์&เน็ตเวิร์ค และไอที ซิเคียวริตี้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เน้นปริมาณ แต่ขึ้นกับการสร้างพาร์ตเนอร์ที่อยู่ร่วมกันระยะยาว และจะสร้างส่วนต่างกำไรได้มากกว่า รวมทั้งมีโอกาสเติบโตเหนือกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ
นอกจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายโซลูชันคลาวด์ของ AWS แล้ว ยังให้บริการหลังการขายแบบครบวงจร ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญกับบริการทั้งด้านเทคนิค การจัดฝึกอบรม และบริการทางการเงินแก่พาร์ตเนอร์ชนิดครบทั้งโซลูชั่น ด้วยโปรแกรม Partner Empowerment หลากหลาย เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยใช้งานและปรับแต่งโซลูชันคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เจาะลูกค้า 6 กลุ่มธุรกิจ
ทั้งนี้ มี 6 กลุ่มธุรกิจหลักที่มีศักยภาพในการรุกธุรกิจคลาวด์ เอดับบลิวเอส คือ กลุ่มบริการสุขภาพ (Healthcare) กลุ่มสถาบันการศึกษา (Education) กลุ่มผู้ผลิต (Manufacturing) กลุ่มผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (Independent Software Vendor: ISV) กลุ่มค้าปลีก (Retail) และกลุ่มหน่วยงานรัฐ (Government) โดยมีทีมงานพร้อมดูแลทุกกลุ่ม ซึ่ง 3 กลุ่มแรกจะมีโอกาสทางการตลาดสูงสุด
พร้อมกันนี้ บริษัทได้นำเอไอมาช่วยอำนวยความสะดวกแก่พาร์ตเนอร์ทั้งด้านการขาย การคาดการณ์สินค้า ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย Synnex AI Trust 1 และจะสร้างเทคโนโลยี โชว์เคส รวมโซลูชั่นทั้งหมดที่นำคลาวด์เข้าไปมีส่วนร่วม กำหนดเสร็จเดือนสิงหาคมนี้ ให้พาร์ตเนอร์ รวมถึงลูกค้าเข้าใช้งาน
“ปีแรกของการทำธุรกิจคลาวด์จะเน้นทำ Infrastructure ก่อน ด้วยงบลงทุนหลัก 10 ล้านบาท รวมเทคโนโลยีแล้ว ส่วนผลตอบรับจะะเห็นในปีถัด ๆ ไป ปีนี้บริษัทมีงบลงทุนรวมประมาณ 100 ล้านบาท”
เข้าถึงเอสเอ็มอี-Self Service
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS Thailand ชี้ว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ธุรกิจทั่วประเทศเข้าถึงบริการคลาวด์ของ AWS ได้มากขึ้น จากการผสานจุดแข็งระหว่างเทคโนโลยีคลาวด์ที่ทันสมัย เข้ากับเครือข่ายที่ครอบคลุมและความเชี่ยวชาญในตลาดไทยของซินเน็ค ทำให้องค์กรไทยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ได้เร็วขึ้น
ความร่วมมือที่เกิดขึ้น เพราะเห็นโอกาสจากองค์กรขนาดใหญ่บางส่วน เอสเอ็มอี ลูกค้า Self Service ที่ยังไม่ค่อยมีผู้ดูแล และลูกค้าภูมิภาค ซึ่งฐานพาร์ตเนอร์ที่ซินเน็คมีจะตอบโจทย์นี้ได้ ส่งผลต่อการเพิ่มการใช้บริการคลาวด์ที่จ่ายตามการใช้งาน
สุธิดา บอกว่า บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากส่วนภูมิภาคประมาณ 30-40% ไม่นับรวมร้านค้ากรุงเทพฯ ที่มีสาขาและขายออกต่างจังหวัดซึ่งไม่สามารถแยกรายได้ส่วนนี้
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เอปสันตั้งเป้าเติบโต 6% ปี 2568 ชูนวัตกรรมคู่ความยั่งยืนรุกตลาด
ออริจิ้น ชูกลยุทธ์ ‘Resilience’ รับมือโลกผันผวน เดินหน้าสร้างรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่
Il FoglioFoglio ผลิตนสพ. AI ฉบับแรกของโลก: หายนะหรืออนาคตสื่อมวลชน?