การที่ Paul S. Atkins ได้รับการพิจารณาให้มาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ถือเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน การมาของ Atkins อาจจะทำให้หน่วยงานด้านกำกับดูแลมีแนวทางในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่อีกครั้ง โดยปรับแปลี่ยนกลยุทธ์การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดอย่างที่แตกต่างจากสมัยของ Gary Gensler ประธานคนเก่าอย่าง
การเปลี่ยนแปลงผู้นำจาก Gary Gensler สู่ Paul S. Atkins ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับคริปโท
Paul S. Atkins เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกำกับดูแลหลักทรัพย์ เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นหนึ่งในอดีตกรรมาธิการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เมื่อปีค.ศ. 2002–2008) ในช่วงการบริหารประเทศของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2025 เข้าได้รับการพิจารณาอย่างเป็นทางให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ
หลังจากการลงคะแนนเสียงของคณะกรรมการธนาคารของวุฒิสภาด้วยคะแนนที่สูสี การแต่งตั้งเขาซึ่งได้รับการรับรองจากผู้สนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในช่วงการดำรงตำแหน่งของ Gary Gensler อันเป็นช่วงการดำรงตำแหน่งที่มีความเข้มงวดมีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโตมากกว่า 100 ครั้ง ทั้งนี้ การมาถึงของ Atkins เต็มไปด้วยความคาดหวังในการเปลี่ยนแปลงนำไปสู่ความชัดเจรและความร่วมมือกันด้านกฎระเบียบ มากกว่าการกำกับดูแลที่นำไปสู่ลงโทษ
ความเป็นมิตรและเห็นความสำคัญของสินทรัพย์ดิจิทัลของ Paul S. Atkins
สิ่งที่ทำให้ Atkins แตกต่างจากประธาน SEC คนอื่น ๆ ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประวัติการทำงานและความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีด้วย
ในฐานะประธานร่วมของ Token Alliance ตั้งแต่ปี 2017 เขามีบทบาทสำคัญในการร่างแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างโทเคนและการเงินบนบล็อกเชน นอกจากนี้ จากการเปิดเผยข้อมูลทางดารเงินยังแสดงให้เห็นว่า เขาถือครองสินทรัพย์ในบริษัทต่าง ๆ เช่น Anchorage และ Securitize โดยมีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโทที่มีมูลค่าสูงถึง 6 ล้านดอลลาร์ การลงทุนเหล่านี้ไม่เพียงแต่บ่งบอกถึงความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความสอดคล้องกับศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาวอีกด้วย
สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบใหม่สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมต่างเรียกร้องแนวทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และลดความยุ่งยากด้านกฎระเบียบมานานแล้ว โดยการมาของ Atkins ดูเหมือนจะพร้อมที่จะส่งมอบความต้องการที่รอคอยมาอย่างยาวนานนี้
- ความชัดเจนของกฎระเบียบ: จากการวิพากษ์วิจารณ์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการใช้อำนาจเกินขอบเขตของระบบราชการ คาดว่า Atkins จะทำให้กรอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านคริปโตเรียบง่ายขึ้น ซึ่งอาจทำให้สตาร์ทอัพและผู้เล่นระดับสถาบันต่าง ๆ เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยสิ่งที่เขาเคยผลักดันในอดีตคือการใช้การคิดด้วยสามัญสำนึก หรือ common sense ให้มากขึ้น ซึ่งอาจจะช่วยแก้ไขความคลุมเครือที่มีอยู่มาอย่างยาวนานได้ โดยเฉพาะเรื่องการจำแนกประเภทโทเคน โปรโตคอล ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และ crypto custodian
- ลดแรงกดดันในการบังคับใช้กฎหมาย: หากในอนาคตมีการลดการบังคับใช้กฎหมาย ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นคริปโทฯ หรือบล็อกเชนอาจจะพบแนวทางการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์แบบใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานักวิเคราะห์หลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็น Sadis & Goldberg และ Pensions & Investments มีมุมมองว่าการใช้มาตรการทางกฎหมายที่ก้าวร้าวจะมีลักษณะที่ลดลง และแตกต่างจากยุคของ Gensler
- เพิ่มการเติบโตด้านนวัตกรรมบล็อกเชน: การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและการพิจาณาเกี่ยวกับโทเคนของ Atkins อาจจะนำมาสู่การกระตุ้นให้เกิดกระแสการลงทุนใหม่ ๆ ตามที่ The Washington Post รายงาน การเสนอชื่อของเขา สะท้อนถึงการผลักดันการยกเลิกกฎระเบียบที่กว้างขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของทรัมป์ต่อชุมชนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งอาจจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลง

ภาพแสดงจำนวนการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ที่ได้ดำเนินการทางกฎหมายกับโครงการและบุคคลต่างๆ โดยในช่วงการบริหารงานของ Gensler มีการดำเนินคดีทั้งหมด 88 จาก 171 คดี นับตั้งแต่มีการบังคับใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2017 – ที่มา: Paradigm
ความเชื่อมั่นฟื้นตัวในตลาดคริปโทฯ
ปฏิกิริยาเริ่มต้นของตลาดต่อการยืนยันของ Atkins นั้นเป็นไปในเชิงบวก ทั้งนักลงทุนและผู้ก่อตั้งต่างมองว่าการเป็นผู้นำของเขาเป็นไฟเขียวสำหรับการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับระบบการกำกับดูแลของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น DeFi, Real-world assets (RWAs) และ NFT ซึ่งโครงการต่า งๆ หยุดชะงักหรือลดความเสี่ยงเนื่องจากความไม่แน่นอนทางกฎหมาย หากการทำงานของ Atkins ที่แตกต่างออกไปอาจจะนำมาสู่แนวโน้มใหม่ที่จะเกิดขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกเสียงที่สนับสนุนเป็นเอกฉันท์ นักวิจารณ์โต้แย้งว่า การควบคุมที่ผ่อนปรนมากขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงในระบบและลดการคุ้มครองนักลงทุน การสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับความรอบคอบ จะเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของการดำรงตำแหน่งประธาน SEC ของ Atkins
โอกาสหรือการก้าวข้ามขีดจำกัดในสมัยของ Paul S. Atkins?
Atkins มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งยังมีแนวคิดที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี จึงทำให้เขามีบทบาทสำคัญในช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ดิจิทัล ท่ามกลางสหรัฐอเมริกาที่เต็มไปด้วยการแข่งขันด้านกฎระเบียบระดับโลกที่เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่กรอบงาน MiCA ของยุโรปไปจนถึงโมเดล Sandbox ที่ก้าวหน้าในเอเชีย ซึ่งความเป็นผู้นำของเขาที่ SEC อาจจะมีความสำคัญในการกำหนดว่าสหรัฐอเมริกา จะกลายมาเป็นผู้ดำด้านนวัตกรรมคริปโท อย่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์อยากให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นเมืองหลางแห่งคริปโท หรือกลายเป็นเหรียญอีกด้านที่นำกฎระเบียบที่ล้าหลังและเข้มงวดมากขึ้น
คำเตือน
- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
ทำความรู้จักกลโกง และข้อควรระวังก่อนออกล่า Airdrop
ทบทวนความเป็นมาของ Bitcoin ในเอลซัลวาดอร์ จากสกุลเงินปฏิวัติสู่เงินทุนสำรองเชิงกลยุทธ์
Top 3 Layer 2 โซลูชันการปรับขนาดบน Ethereum : เปรียบเทียบระหว่าง Base Arbitrum และ Optimism