ขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด” (Super-aged society) อย่างเต็มตัว “ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย” หรือ Sarcopenia ได้กลายเป็นภัยเงียบที่คุกคามคุณภาพชีวิตประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศอย่างน่ากังวล ล่าสุด โรงพยาบาลศิริราชผนึกกำลังกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ประกาศเปิดตัว “วันสุขภาพกล้ามเนื้อไทย” เป็นครั้งแรก ชูเป็นวาระแห่งชาติ หวังกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของกล้ามเนื้อที่แข็งแรงในฐานะเกราะป้องกันโรคและหัวใจสำคัญของการสูงวัยอย่างมีคุณภาพ
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ณ โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พร้อมด้วยกระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาคีเครือข่าย ได้จัดงาน “วันสุขภาพกล้ามเนื้อไทย – Thailand Muscle Health Day” ขึ้น เพื่อผลักดันประเด็นสุขภาพกล้ามเนื้อให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นรากฐานของการมีสุขภาวะที่ดีและป้องกันโรคเรื้อรังที่มาพร้อมกับวัย
“ภัยเงียบ” ที่ถูกมองข้าม แต่ส่งผลร้ายแรง
ศ.นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล ประธานศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช ได้ฉายภาพความน่ากังวลของสถานการณ์ว่า “ภาวะสูญเสียกล้ามเนื้อเป็นภัยเงียบที่คนส่วนใหญ่มองข้าม แต่ส่งผลกระทบมหาศาลต่อชีวิตผู้สูงวัย ทั้งเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้ม บาดเจ็บ จนต้องนอนโรงพยาบาล และนำไปสู่ภาวะพึ่งพิงในที่สุด การที่เราสามารถค้นหาและแก้ไขภาวะนี้ได้เร็ว ไม่เพียงช่วยยืดอายุขัย แต่คือการยกระดับคุณภาพชีวิต และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศในระยะยาว”
สอดคล้องกับความเห็นของ ผศ.นพ.ธารา วงศ์วิริยางกูร รองคณบดีฯ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ย้ำว่า “สุขภาพกล้ามเนื้อคือหัวใจของการสูงวัยอย่างมีคุณภาพ ภาวะเปราะบาง (Frailty) ที่ตามมาจากการสูญเสียกล้ามเนื้อ คือสิ่งที่ลดทอนศักยภาพและพรากความสุขไปจากผู้สูงอายุ เป้าหมายของเราคือการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เรื่องนี้กลายเป็นวาระสำคัญด้านสาธารณสุขของชาติ”
จาก “ตระหนักรู้” สู่ “การลงมือทำ”
ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้นับเป็นปีที่ 3 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก โดยต้องการเปลี่ยนมุมมองของประชาชนให้เห็นว่า “กล้ามเนื้อที่แข็งแรงคือเกราะคุ้มกันสุขภาพ”
“เราต้องการให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงวัย มีความรู้ในการดูแลตนเองแบบองค์รวม ซึ่งทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ด้วยโภชนาการที่เหมาะสมและการออกกำลังกายที่ถูกวิธี” ศ. นพ.อภิชาติ กล่าว
ด้าน นายแพทย์วันฉัตร ชินสุวาเทย์ ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย เปิดเผยถึงแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมว่า กรมอนามัยได้ออกแบบกิจกรรมที่ประชาชนสามารถทำได้เอง เช่น การทดสอบลุก-นั่ง 5 ครั้ง เพื่อประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา และแบบฝึก “ยืน เดิน ยกขา” ที่จะเผยแพร่ผ่านเครือข่าย อสม. ทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน ทันตแพทย์หญิง ดร.อรุณี ลายธีระพงศ์ จากบริษัท แอ๊บบอตฯ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของโภชนาการว่า “กล้ามเนื้อส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกัน โภชนาการที่เหมาะสม โดยเฉพาะโปรตีนและสารอาหารสำคัญ เป็นกุญแจที่ช่วยให้ผู้สูงวัยเคลื่อนไหวได้ดี ฟื้นตัวจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น”
ผลักดันสู่ “นโยบายระดับชาติ”
นอกจากการจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้แล้ว เบื้องหลังการจัดงานครั้งนี้คือความพยายามผลักดันเชิงนโยบายอย่างจริงจัง โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายระดับชาติที่สำคัญ ได้แก่:
- ส่งเสริมการประเมินกล้ามเนื้อ ให้เป็นมาตรฐานในระบบบริการสุขภาพ
- ขยายองค์ความรู้ ไปยังบุคลากรสาธารณสุขและประชาชนให้ทั่วถึง
- ผลักดันแนวทางเวชปฏิบัติระดับประเทศ และสนับสนุนงบประมาณเพื่อการป้องกันและดูแลภาวะสูญเสียกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย นายกสมาคมพฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราหวังว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับสุขภาพกล้ามเนื้อ ให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการดูแลผู้สูงวัยทั่วประเทศ”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
จาก “เป็ด” สู่ “พลเมืองแห่งการเรียนรู้”: เส้นทางสู่ชีวิตที่ “ดีที่สุดในแบบคุณ”
NIA ชี้ นวัตกรรมการแพทย์คือหัวใจผลักดันไทยสู่ Medical Hub ระดับโลก