ณ นครเซินเจิ้น ศูนย์กลางเทคโนโลยีล้ำสมัยของจีน คณะสื่อมวลชนจากอาเซียน (ASEAN MEDIA) ได้รับโอกาสสุดพิเศษในการเข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของ UBTECH บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ การมาเยือนครั้งนี้เปรียบเสมือนการก้าวข้ามธรณีประตูสู่โลกอนาคต ที่ซึ่งเส้นแบ่งระหว่างนิยายวิทยาศาสตร์และความเป็นจริงได้เลือนหายไป เมื่อหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นเรือธงอย่าง “Walker S” ก้าวออกมาต้อนรับพร้อมกล่าวทักทายเป็นภาษาจีนกลางว่า “ต้าเจียห่าว” (สวัสดีทุกคน) นี่คือภาพจริงที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของ UBTECH ในการสร้างสรรค์อนาคตที่มนุษย์และหุ่นยนต์จะใช้ชีวิตและทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน
การนำเสนอได้เริ่มต้นอย่างน่าประทับใจด้วยหุ่นยนต์ “Walker S” ที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักร แต่คือ “พาร์ตเนอร์ประจำครอบครัว” อย่างแท้จริง
ก่อนจะแสดงความสามารถพิเศษ มันได้กล่าวอย่างถ่อมตนว่า “ข้าพเจ้ายังมีความสามารถอีกมากมาย วันนี้จะขอแสดงมวยไทเก็กที่เพิ่งเรียนรู้มาให้ชม” จากนั้นจึงเริ่มร่ายรำด้วยท่วงท่าที่อ่อนช้อยและลื่นไหล ซึ่งเป็นผลมาจากเซอร์โวมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงกว่า 41 ตัวที่ติดตั้งอยู่ทั่วร่างกาย ไม่เพียงการแสดงที่น่าทึ่ง มันยังพิสูจน์ความเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะด้วยการรับคำสั่งเสียงเพื่อควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้กว่า 300 ชนิด ในการสาธิต มันสามารถเดินไปหยิบเครื่องดื่มกระป๋องจากตู้เย็น และนำกลับมาส่งให้ถึงมือผู้สั่งอย่างแม่นยำ พร้อมกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “Zhè shì nín yào de yǐnliào, qǐng màn yòng” (นี่คือเครื่องดื่มที่คุณต้องการ เชิญดื่มครับ) ซึ่งสร้างความทึ่งให้กับคณะผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก
จากบทบาทเพื่อนคู่คิดในบ้าน คณะสื่อมวลชนได้เห็นอีกมิติหนึ่งของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ UBTECH ในภาคอุตสาหกรรม ที่ซึ่งหุ่นยนต์ “Walker” ถูกนำไปใช้ในโรงงานสติกเกอร์ ถือเป็น “การปฏิบัติการร่วมกันของหุ่นยนต์หลายตัวในหลากหลายภารกิจครั้งแรกของโลก” ภายใต้แนวคิด “Walker as One” หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นระบบผ่านเครือข่ายไร้สาย พวกมันสื่อสาร แบ่งปันข้อมูล และรับรู้สถานะของกันและกันได้แบบเรียลไทม์ แม้กระทั่งสามารถ “ชาร์จพลังงานให้กันและกันได้”
จุดเด่นสำคัญคือ “มือกลไฟฟ้ารุ่นที่ 3” ที่ถูกออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับมือมนุษย์ ทำให้มันสามารถหยิบจับวัตถุที่เปราะบางอย่างการ “คัดแยกแอปเปิ้ล” ได้อย่างนุ่มนวล ในขณะเดียวกันก็แข็งแกร่งพอที่จะยกวัตถุหนักถึง 13 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่าประสิทธิภาพแรงงานมนุษย์ถึง 70% และยังสามารถทำงานที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงอย่างการเขียนหรือวาดภาพบนกระดานได้อีกด้วย ความสามารถนี้ได้ถูกนำไปใช้งานจริงแล้วในโรงงานผลิตรถยนต์ชั้นนำอย่าง Audi และ BYD เพื่อควบคุมคุณภาพการผลิต ซึ่งบรรลุเป้าหมายระบบอัตโนมัติได้ถึง 100%
วิสัยทัศน์ของ UBTECH ไม่ได้หยุดอยู่แค่หุ่นยนต์เฉพาะทาง แต่มุ่งสร้างระบบนิเวศของ AI ที่ครอบคลุมทุกช่วงวัยและทุกไลฟ์สไตล์ โดยมีหุ่นยนต์เดสก์ท็อปอย่าง “Wukong” ที่ออกแบบมาเพื่อการศึกษาและการเป็นเพื่อนคู่คิด สามารถอ่านหนังสือภาพสำหรับเด็กได้กว่า 20,000 เล่ม และในอนาคตจะมีการเพิ่มฟังก์ชัน “ประเมินผลทางจิตวิทยา” เข้าไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีแพลตฟอร์มการศึกษา “Youcan” ที่ประกอบด้วยชุดสื่อการสอน “you teach” และ “you data” รวมถึงหุ่นยนต์ “Yanshee” ที่เป็น Open Source ให้นักเรียนได้เรียนรู้การเขียนโปรแกรม Python และ Java พร้อมรับใบรับรองระดับชาติเพื่อต่อยอดสู่อาชีพในอนาคต
ปิดท้ายด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์สุดล้ำ เช่น ห้องน้ำแมวอัจฉริยะที่จดจำแมวได้ถึง 7 ตัว และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่สร้างเสียงฮือฮาอย่าง “หุ่นยนต์คู่หูอารมณ์ดี” (Companion Robot) ที่มี 7 บุคลิกแบบสุ่ม (เช่น ภาคภูมิใจ, ขี้อาย) สามารถเป็นผู้สนับสนุนทางอารมณ์ จดจำเรื่องราวของผู้ใช้ และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เชื่อมต่อ 4G ได้ในราคาเพียง 399 หยวน
การเยี่ยมชม UBTECH ในครั้งนี้ ได้มอบประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและเปิดมุมมองให้แก่คณะสื่อมวลชนอาเซียนเป็นอย่างยิ่ง มันไม่ใช่เพียงการสาธิตผลิตภัณฑ์ แต่คือการแสดงให้เห็นถึงภาพอนาคตที่ถูกวางแผนและพัฒนาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ที่ซึ่งเทคโนโลยีหุ่นยนต์และ AI จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุกแง่มุมในชีวิต ตั้งแต่ในบ้าน ที่ทำงาน สถานศึกษา ไปจนถึงการเป็นเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจเราอย่างแท้จริง และนี่คืออนาคตที่ UBTECH กำลังสร้างให้เกิดขึ้นจริง ณ เมืองเซินเจิ้นแห่งนี้
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เปิดห้องข่าว SCMP: The Story Thailand บุกสำนักงานใหญ่สื่อดังฮ่องกง เจาะลึกกลยุทธ์ในวันที่โลกจับตาจีน
SAP เผยกลยุทธ์ ‘Suite First, AI First, Ecosystem’ ดันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นแท่นผู้นำ AI โลก
