ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบที่ทวีความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การสื่อสารได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งยวด ทั้งในการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และการช่วยเหลือดูแลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ล่าสุด AIS ได้ระดมกำลังเข้าสนับสนุนภารกิจในพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบ ตอกย้ำบทบาทของโครงข่ายโทรคมนาคมที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสาร แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภาวะวิกฤติ
เสริมทัพแนวหน้า ขยายสัญญาณถึงศูนย์อพยพ
ภารกิจสำคัญเร่งด่วนคือการสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แนวชายแดน เอไอเอสได้ส่งทีมวิศวกรเข้าดูแลและขยายสัญญาณเครือข่ายอย่างเต็มกำลัง พร้อมนำรถสถานีฐานเคลื่อนที่ (Mobile Base Station) เข้าไปเสริมทัพในจุดที่ต้องการสัญญาณหนาแน่นเป็นพิเศษ และยังได้ร่วมมือกับไทยคม (THAICOM) ในการสนับสนุนอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม เพื่อให้มั่นใจว่าการสื่อสารของฝ่ายความมั่นคงจะดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังได้มอบแพ็กเกจการสื่อสารพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน การดูแลผู้ที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลัก โดยเอไอเอสได้ร่วมกับกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 เร่งขยายสัญญาณเครือข่ายให้ครอบคลุมศูนย์อพยพ 5 แห่ง ใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ จ.สุรินทร์; มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จ.สุรินทร์; ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ; ที่ว่าการอำเภอเดชอุดม จ.อุบลราชธานี และสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
การเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในศูนย์อพยพ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อสื่อสารกับญาติพี่น้องเพื่อคลายความกังวล แต่ยังเป็นช่องทางสำคัญในการรับข่าวสารและข้อมูลที่จำเป็นจากภาครัฐ
จาก “อุ่นใจอาสา” สู่ถุงยังชีพ และมาตรการดูแลลูกค้า
นอกจากการสนับสนุนด้านเทคนิคแล้ว พลังของพนักงาน “อุ่นใจอาสา” ยังได้ร่วมกันจัดเตรียมถุงยังชีพ น้ำดื่ม และผ้าห่ม ส่งมอบผ่านกองทัพบกเพื่อกระจายไปยังผู้ประสบภัยโดยตรง เป็นการส่งต่อกำลังใจและความห่วงใยในยามยากลำบาก
สำหรับลูกค้าเอไอเอสที่ได้รับผลกระทบทั้งในฝั่งไทยและกัมพูชา บริษัทได้ออกมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ประกอบด้วย:
- ขยายระยะเวลาชำระค่าบริการ: สำหรับลูกค้าเอไอเอสรายเดือน และ AIS FIBRE3
- ขยายวันใช้งาน: สำหรับลูกค้าระบบเติมเงิน
ช่วยเหลือลูกค้าในกัมพูชา: ลูกค้าเอไอเอสที่โรมมิ่งอยู่ในประเทศกัมพูชา สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ รวมถึงติดต่อ AIS Call Center ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
กานติมาเลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า “สิ่งที่เอไอเอสทำในวันนี้ ไม่ใช่เพียงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ แต่คือคำมั่นที่เรายืนยันมาตลอดว่า เอไอเอสพร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าและคนไทยในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะในยามวิกฤตที่สังคมต้องการพลังแห่งความร่วมมือ”
การเคลื่อนไหวของเอไอเอสครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของโครงข่ายสื่อสารที่ได้กลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ในการรักษาความมั่นคงและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทรู คอร์ปอเรชั่น ช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา มอบซิมฟรี-WiFi ฟรี
