ธุรกิจยุคใหม่ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเข้ามาของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้การร่วมมือกันระหว่างบริษัทเพื่อพัฒนานวัตกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจ ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น Amazon Web Services (AWS) เองก็เป็นหนึ่งในผู้นำที่นำเสนอโซลูชันและบริการที่ช่วยให้พันธมิตรและลูกค้าทั่วโลกเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทำความรู้จัก AWS Partner Network (APN) เครือข่ายพาร์ตเนอร์ด้านนวัตกรรม
Kirsten Gilbertson, Head for Partner Management, ASEAN, Amazon Web Services (AWS) อธิบายถึงบทบาทของ AWS Partner Network (APN) ว่า APN เป็นเครือข่ายระดับโลก ที่ให้บริการเทคโนโลยีและคำปรึกษาในการพัฒนาบริการและโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ปัจจุบัน APN มีพันธมิตรกว่า 130,000 รายในกว่า 200 ประเทศ โดยกว่า 70% อยู่ในประเทศนอกสหรัฐอเมริกา โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกัน คือ
- Independent software vendors (ISV) ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ที่ทำงานบน AWS
- System integrators (SI) ทำหน้าที่เป็น Consulting Partner ให้คำปรึกษา วางแผน และดำเนินการด้านดิจิทัลให้กับลูกค้า
- Global system integrators (Global SI) เป็นกลุ่มที่ทำงานกับ System Integrators ในระดับท้องถิ่น (Local SI) เพื่อสร้างโซลูชันที่เหมาะสมกับตลาดในแต่ละภูมิภาค
- Value-added Reseller ช่วยเพิ่มมูลค่า (Value-added) ให้กับการขายผ่านการให้บริการเพิ่มเติม เช่น การติดตั้ง การให้คำปรึกษา หรือการดูแลหลังการขาย
- Managed Service Providers รับผิดชอบในการจัดการระบบคลาวด์ให้ลูกค้าในกรณีที่องค์กรไม่มีทีม IT ภายในที่พร้อมรองรับ
- Business Consulting and advisory Partner (BCAP) บริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการบริหารธุรกิจในภาพรวม
การเป็นพาร์ตเนอร์ Network กับทาง AWS มีจุดเด่นอยู่หลายประการ เช่น
- การให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า (Customer-obsessed Culture) และต้องส่งเสริมสินค้าหรือบริการของพาร์ตเนอร์ก่อนที่จะเป็นเซอร์วิสของ AWS สิ่งนี้ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่าง AWS พาร์ตเนอร์ และลูกค้าได้เป็นอย่างดี
- AWS ยืนหนึ่งในด้านการออกแบบนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตลาด มีจุดเด่นในการรเพิ่มจำนวนเซอร์วิสจาก 80 เซอร์วิสในปี 2011 เป็น 3,410 เซอร์วิสในปี 2023 ซึ่งช่วยให้ AWS สามารถสนับสนุนพาร์ตเนอร์ให้สามารถสร้างโซลูชันใหม่ ๆ และนำไปขายได้ในทันที
- AWS มีการรับรอง AWS Certification Programs ให้การรับรองการใช้งานเทคโนโลยีขององค์กรพาร์ตเนอร์ เพื่อช่วยให้พาร์ตเนอร์มีความแตกต่างในตลาด
- AWS มีเครื่องมือสนับสนุนพาร์ตเนอร์หลายรูปแบบ เช่น Funding และ Technology Assets, Market Programs เป็นต้น
- การทำ AWS Competency ช่วยให้พาร์ตเนอร์แสดงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น Migration Competency, Generative AI Competency เป็นต้น
นอกจากนี้ AWS ยังลงทุนในเทคโนโลยี Generative AI ในหลายรูปแบบเพื่อทำให้พาร์ตเนอร์สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมุ่งเน้นการพัฒนา AI มากขึ้น เช่น การพัฒนา Generative AI Innovation Center เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับใช้โซลูชัน Generative AI ได้สำเร็จ, Generative AI Partner Innovation Alliance ให้พาร์ตเนอร์สามารถเข้าถึงระบบหลังบ้าน (Backend) เพื่อปรับแต่งและปรับปรุงโซลูชันได้ตามความต้องการด้วยทีมงานนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientists)
AWS Partner Network กับการสนับสนุนธุรกิจในประเทศไทย
Kirsten Gilbertson กล่าวเสริมต่อว่า AWS ให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพในไทยด้วยการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงแนะนำเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มที่ทันสมัยให้กับธุรกิจในไทย เช่น การใช้ AskiQ Generative AI ซึ่งเป็นโซลูชันแรกในด้าน e-commerce บน AWS เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ, การทำ Botnoi Voice ด้วยการพัฒนาโซลูชันด้าน Customer Engagement และ Language Model รวมถึงมีการลงทุนมากกว่า 190 ล้านบาทในประเทศไทย และมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอีกหลายหมื่นล้านบาทเพื่อสร้าง AWS Asia Pacific Thailand Region ในต้นปี 2568 และทำให้ประเทศไทยมี Data Center ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่อง Data Sovereignty ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนจะสามารถจัดการข้อมูลได้โดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะถูกส่งออกไปต่างประเทศอีกต่อไป
ความร่วมมือระหว่างพาร์ตเนอร์ไทยและ AWS
นอกจากการร่วมมือระดับโลก AWS ยังร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ไทย เพื่อพัฒนาให้บริษัทให้เปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจดิทิทัลได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะกับทาง G-Able และ Metro Systems Corporation (MSC) ที่มีการจับมือกันเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ
โดยที่ทางดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ G-Able กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง G-Able กับ AWS ที่มีมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี (ตั้งแต่ปี 2014) ซึ่งทาง AWS เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยให้ G-Able สามารถนำสิ่งใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้กับองค์กรของลูกค้าในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบคลาวด์ การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน หรือการสร้างความปลอดภัยของข้อมูลให้กับ Portflio ของ G-Able ที่มีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท คือ
- Cloud: โซลูชันหลักที่ช่วยองค์กรสามารถเปลี่ยนผ่านและปรับตัวเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้อย่างราบรื่น
- Data Analysis: การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันขององค์กร
- Application Platform: การพัฒนาแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ต่อการดำเนินธุรกิจ
- Cybersecurity: การรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจในยุคดิจิทัล
- Managed Tech Service: บริการดูแลลูกค้าในระยะยาวเพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
AWS จัดตั้งศูนย์ Regional AWS ในประเทศไทย และเมื่อร่วมมือกับ G-Able ซึ่งมีประสบการณ์ด้านข้อมูลมาอย่างยาวนาน เพื่อช่วยให้หลายธุรกิจ เช่น ธนาคาร และการศึกษา สามารถพัฒนาโมเดลข้อมูลเฉพาะทางที่เหมาะสมกับแต่ละอุตสาหกรรม และได้ข้อมูลไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างหนึ่งของความสำเร็จคือ ระบบลงทะเบียนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่ง G-Able ได้ช่วยพัฒนาระบบที่รองรับธุรกรรมได้มากถึง 50,000 รายการแบบเรียลไทม์ โดยใช้แพลตฟอร์มของ AWS เพื่อให้ระบบมีความเสถียรและไม่ล่มในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุด
ด้าน วีรพันธุ์ ดุรงค์แสง President of Digital Solutions Group บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC นำประสบการณ์ทำงานร่วมกับ AWS มาประยุกต์ใช้ เพื่อช่วยให้องค์กรของลูกค้าสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์อย่างครบวงจรได้มากขึ้น ทั้งในด้านการให้คำปรึกษา การทดลองใช้งาน (POC) การย้ายข้อมูล และการอบรมทีมงาน ด้วยมาตรฐานของ AWS โดย MSC มีทีมงาน Professional Services ที่เชี่ยวชาญและสามารถดำเนินการย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ได้อย่างปลอดภัย 100% และสอดคล้องกับมาตรฐานของ AWS
ปัจจุบัน MSC ก้าวขึ้นเป็น Advanced Partner และได้รับรางวัล Rising Star of the Year Award จาก AWS ASEAN สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี และก้าวต่อไปของ MSC คือการตั้งเป้าหมายในการย้ายข้อมูลถึง 60% ของ Data Center ขึ้นไปอยู่บน AWS เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความยั่งยืนในธุรกิจมากขึ้น
จะเห็นว่า AWS มีจุดเด่นในด้านการสนับสนุนพาร์ทเนอร์ด้วยโปรแกรมการฝึกอบรม การรับรองผ่าน AWS Certification Programs และการทำตลาดร่วมกัน รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยี Generative AI เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพาร์ตเนอร์และลูกค้าให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์และ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
KBTG Labs ตั้งเป้าการเป็น Research PowerHouse นำธงวิจัยพัฒนานวัตกรรม AI สู่ตลาด
ยิบอินซอย มั่นใจ Robinhood กำไรสิ้นปี 67 เร่งดึงร้านค้า – เพิ่มยอด ผนึก Paypoint ดันคะแนนลูกค้า
เศรษฐกิจทรัมป์รีเทิร์น ไทยเจอสองเด้ง