ปัจจุบันเราได้ยินคำว่า “เทรนด์” อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น Marketing Trends, Business Trends หรือ Consumer Trends ล้วนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงความไม่แน่นอน (Unpredictability) ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนผ่านสู่ Generation ใหม่ แต่ในความไม่แน่นอนนี้เอง กลับกลายเป็นโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจ
ที่งาน Future Trends Ahead Summit 2025 หนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือเซสชัน Consumer Trends 2025: Turn Unpredictability Into Opportunity โดย รัชดา อภิรมย์เดช ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารจาก THINK NEXT ASIA พูดถึง 2 เทรนด์สำคัญ ที่เกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนของโลก
1. Mirror Mirror เทรนด์ที่สะท้อนถึงความต้องการ “ทำนายอนาคต”
Insight ในโลกที่ Unpredictable ผู้บริโภคต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้พวกเขาคาดการณ์อนาคตได้แม่นยำมากขึ้น องค์กรขนาดใหญ่เริ่มนำ AI และ Digital Twin มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมและวางกลยุทธ์
ตัวอย่างเทรนด์
- Death Clock แอปที่ใช้ AI คาดการณ์ “อายุขัย” ของผู้ใช้งานเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาปรับพฤติกรรมสุขภาพ
- AI Clone จาก Meta เครื่องมือที่ช่วยให้ครีเอเตอร์มี AI ตอบโต้กับผู้ติดตามโดยที่ไม่ต้องออนไลน์ตลอดเวลา
- Futuring Me Campaign จาก ING Bank ฟิลเตอร์ที่จำลองภาพตัวเองในอนาคต เพื่อกระตุ้นการวางแผนทางการเงิน
อนาคตไม่ใช่เรื่องขององค์กรใหญ่ แต่ทุกคนสามารถทำนายและเข้าถึงได้
92% ของบริษัทวางแผนจะเพิ่มการลงทุนใน AI (McKinsey, 2025) และ 89% ของนักการตลาดเชื่อว่า AI มีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ไอเดียและกลยุทธ์ (Pluscompany, 2024) ซึ่งสะท้อนว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจในอนาคต
2. Humanifesto การต่อต้านความสมบูรณ์แบบที่ถูกกำหนดโดย AI
Insight การเติบโตของ AI ทำให้เกิด Beauty Standard ที่สูงขึ้น และแรงกดดันต่อคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะใน Gen Z และ Alpha มากกว่า 50% ของพวกเขาเคยถูก Cyberbullying และ AI Generated Content ก็ทำให้เกิดการเปรียบเทียบตลอดเวลา
ตัวอย่างเทรนด์
- McDonald’s แคมเปญที่สนับสนุนให้คนแสดงอารมณ์ที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้อง Happy ตลอดเวลา
- Heineken ออกแบบ QR Code ที่ช่วยปิดการใช้งานมือถือชั่วคราว เพื่อกระตุ้นให้คนใช้เวลากับเพื่อนในโลกจริง
ยุคที่ AI สร้างมาตรฐานความสมบูรณ์แบบจนเกิดแรงต่อต้าน
70% ของผู้บริโภคใน APAC เชื่อว่า ภายในปี 2035 ความสัมพันธ์กับ AI อาจดีพอ ๆ กับมนุษย์ (Dentsu, 2024) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือช่วยงานอีกต่อไป แต่จะกลายเป็น เพื่อนร่วมงานและพาร์ทเนอร์ในชีวิต
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Consumer Trends เป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องจับตา เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต การทำความเข้าใจแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตและแข่งขันได้ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ท้ายที่สุด ทุกความเปลี่ยนแปลง มีโอกาสเสมอ อยู่ที่ว่าใครจะสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากมันได้ดีที่สุด
สำหรับหัวข้อ “Chaos or Prospect? Navigating the Uncertainty of Future Business” สุธีรพันธุ์ สักรวัตร จาก SCBX ให้ข้อมูลว่า เมื่อพูดถึงแนวโน้มธุรกิจในอนาคต เรามักมองไปข้างหน้า แต่การทำความเข้าใจอดีตก็สำคัญไม่แพ้กัน หากย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้ว บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของโลกล้วนเป็นองค์กรจากอุตสาหกรรมพลังงานและค้าปลีก เช่น ExxonMobil, Walmart, และ Shell อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงปี 2022 รายชื่อเหล่านั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยถูกแทนที่ด้วยบริษัทเทคโนโลยี เช่น Apple, Microsoft, Amazon และ Alphabet ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล
ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผู้นำ คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรม โลกกำลังขยับเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และบริษัทที่สามารถสร้างเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคได้จะกลายเป็นผู้นำตลาด
เทรนด์อุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว งานวิจัยของ McKinsey พบว่าอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง มักมีลักษณะสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
- มีโมเดลธุรกิจที่แตกต่างจากรูปแบบเดิม ใช้เทคโนโลยีมาสร้างข้อได้เปรียบที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย
- เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนสนใจ เม็ดเงินไหลเข้ามามหาศาล เช่น Semiconductor, AI, และ EV
- เป็นตลาดที่สามารถขยายขนาดได้ทั่วโลก ธุรกิจที่สามารถเติบโตโดยไม่มีข้อจำกัดด้านพรมแดนจะได้เปรียบ
หากมองไปในอนาคต อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงในอีกสิบปีข้างหน้า ได้แก่ AI, Automation, Clean Energy, และ BioTechnology ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจโลก
พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง และผลกระทบต่อธุรกิจ
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทรนด์การดูแลสุขภาพและการชะลอวัยกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายหรือรับประทานอาหารที่ดี แต่ยังรวมถึงการใช้เทคโนโลยีด้านสุขภาพ เช่น อุปกรณ์ติดตามสุขภาพ AI Health Monitoring และการพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้มนุษย์มีอายุยืนยาว
ขณะเดียวกัน กระแสดีท็อกซ์จากโลกดิจิทัลก็เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้น ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม เช่น การกลับไปใช้โทรศัพท์แบบไม่มีโซเชียลมีเดีย หรือการใช้โลโก้เก่าของแบรนด์ดังเพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับอดีต เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคไม่ได้ต้องการแค่ความทันสมัย แต่ยังต้องการความสมดุลระหว่างดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริง
ความขัดแย้งด้านแนวคิดเกี่ยวกับความยั่งยืน
แม้ว่าหลายองค์กรจะพยายามผลักดันแนวคิด Net Zero และการใช้พลังงานสะอาด แต่กลับเผชิญกับความท้าทายจากหลายฝ่าย บางคนเชื่อว่าความยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็น ในขณะที่อีกกลุ่มมองว่าเป็นเพียงแนวคิดที่ไม่มีประโยชน์จริง การเมืองและนโยบายพลังงานของแต่ละประเทศมีผลอย่างมากต่อความสำเร็จของแนวทางนี้
อย่างไรก็ตาม หลายองค์กรชั้นนำ เช่น Google และ Microsoft ยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายลดคาร์บอน แม้ต้องเผชิญกับแรงต่อต้าน สิ่งนี้สะท้อนว่าธุรกิจไม่อาจละเลยเรื่องความยั่งยืน เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อการเติบโตในอนาคต
โลกธุรกิจในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่หลายคนอาจมองว่าเป็นความสับสน แต่ในอีกมุมหนึ่ง นี่อาจเป็น Prospect หรือโอกาสสำหรับผู้ที่มองเห็นทิศทางของการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจที่ต้องการเติบโตในอนาคต ต้องมีความสามารถในการปรับตัวให้ทันต่อแนวโน้มใหม่ เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค และเลือกลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เพราะในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่สามารถปรับตัวได้ไวจะเป็นผู้ที่อยู่รอดและเติบโตต่อไป

หัวข้อ “Trends of Marketing 2025: Insights into Consumer-Driven Strategies” อุษณา จันทร์กล่ำ จาก Ipsos ชี้ให้เห็นว่า “พฤติกรรมผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง” และธุรกิจที่ปรับตัวได้เร็วเท่านั้น ที่จะครองตลาด
4 เทรนด์สำคัญ ที่จะขับเคลื่อนพฤติกรรมผู้บริโภคและเป็นโอกาสของแบรนด์ที่ต้องปรับตัว ได้แก่ Self Sumer, Seamless, Security, และ Sustainability
- Self-Sumers ลูกค้าให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้น
- Seamlessness เทคโนโลยีต้องใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน
- Security ลูกค้าแคร์เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น
- Sustainability ธุรกิจต้องจริงใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่โฆษณา
แนวโน้มที่สำคัญของปีนี้มาจากการวิเคราะห์ระดับมหภาค (Macro Trends) ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละปีส่งผลต่อค่านิยมและวิถีชีวิตของผู้บริโภคอย่างไร เช่น ในช่วงที่เกิดโควิด ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น และเมื่อเผชิญกับปัจจัยต่างๆ ก็เกิดการตอบสนอง (Reaction) ที่สะท้อนถึงเทรนด์ใหม่ ๆ
ผู้บริโภคกำหนดชีวิตตัวเองมากขึ้น แทนที่จะรอให้ปัญหาต่างๆ ถูกแก้ไขจากภาครัฐหรือองค์กร โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าทุกอย่างวุ่นวายกว่าที่เคย ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว ภัยคุกคามทางไซเบอร์ หรือความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ คนไทยไม่ได้กังวลว่า AI จะเข้ามาแย่งงาน แต่กลับมองว่า AI ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องความบันเทิง
ผู้บริโภคในยุคนี้ต้องการใช้ชีวิตในแบบของตัวเองมากขึ้น และให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าสินค้าเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น กระแส “Live for the Moment” ทำให้คนยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อไปร่วมคอนเสิร์ตระดับโลก แม้ต้องเดินทางไปต่างประเทศ
แบรนด์ที่ต้องการครองใจผู้บริโภคต้องสามารถตอบสนองแนวโน้มนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงทั้งโลกจริงและโลกเสมือน (Metaverse) หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค นอกจากนี้ AI และเทคโนโลยีจะมีบทบาทมากขึ้นในการตลาด แต่ต้องถูกใช้อย่างสมดุล ไม่ใช่แค่เพื่อความสะดวก แต่ต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เช่น AI ควรถูกใช้ร่วมกับปฏิสัมพันธ์ที่เป็นมนุษย์ (Human Interaction) เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ
แม้เทคโนโลยีจะช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แต่ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทางข้อมูลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z อาจไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เพราะมองว่าข้อมูลส่วนตัวถูกนำไปใช้ต่ออยู่แล้ว แต่กลุ่ม Baby Boomers และ Gen X ยังคงกังวลเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ ซึ่งเป็นโอกาสให้แบรนด์สามารถสร้างความเชื่อมั่นผ่านมาตรการด้านความปลอดภัย
นอกจากนี้ ประเด็นทางสังคม เช่น ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการศึกษา ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ Ipsos พบว่า ผู้บริโภคไทยให้คุณค่ากับแบรนด์ที่มี ธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ทำแคมเปญการตลาด
การตลาดในปี 2025 จะต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคต้องการอะไร และสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับพวกเขาได้ ไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่เป็นการช่วยให้พวกเขามี โมเมนต์แห่งความสุข ไม่ว่าจะผ่านผลิตภัณฑ์หรือประสบการณ์ที่ได้รับ
อย่ามองผู้บริโภคเป็นเพียงเป้าหมายทางธุรกิจ แต่มองว่าพวกเขาคือส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ที่เราต้องเข้าใจและสนับสนุน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
SCB วาง 3 กลยุทธ์ ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 ธุรกิจ Wealth ในปี 69
ทบทวนความเป็นมาของ Bitcoin ในเอลซัลวาดอร์ จากสกุลเงินปฏิวัติสู่เงินทุนสำรองเชิงกลยุทธ์
เทรนด์การตลาดปี 2025 และ Martech Tools ที่ต้องจับตามอง