ท่ามกลางกระแสการดูแลสุขภาพที่มาแรง กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ได้มองหาแค่เครื่องดื่มให้พลังงานแบบเดิม ๆ อีกต่อไป พวกเขาต้องการสิ่งที่มากกว่านั้น – เครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ให้ความสดชื่น ดีต่อสุขภาพ และยังคงไว้ซึ่งพลังงานที่ช่วยให้พวกเขาขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ ความท้าทายนี้เองที่ผลักดันให้ เรดบูล ผู้นำตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานพรีเมียม ชูกลยุทธ์ใหม่เพื่อตอบโจทย์ทั้งใจและกายของคนยุคใหม่
วรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาด ประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ปี 2568 เรดบูล ภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP กำหนดทิศทางการเติบโตของแบรนด์ผ่านกลยุทธ์ “Recharge และ Refresh” ที่ต้องการปลุกพลัง ส่งต่อพลังงานและความมุ่งมั่นให้ผู้บริโภคได้ใช้ชีวิตอย่างกระฉับประเฉงได้เต็มที่ตลอดทั้งวัน
สำหรับกลยุทธ์ปีนี้เรดบูลยังมุ่งรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งมองหาประสบการณ์และการเติมเต็มพลังงาน ที่ช่วยให้ทำงานต่อไปได้ในระหว่างวัน
เรดบูลมีการปรับผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนวัย 18-35 ปี ซึ่งเทรนด์ในปัจจุบัน ลูกค้ากลุ่มนี้สนใจสุขภาพ ชอบบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ และชอบเครื่องดื่มน้ำตาล 0% จึงเริ่มมองหาสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เรดบูลจึงมีการปรับสูตรสินค้าเป็นไม่มีน้ำตาล ใช้น้ำตาลธรรมชาติแทนความหวาน ซึ่งตรงกับสิ่งที่ลูกค้าถามหา
“สินค้าของเราเกือบ 100% ใช้น้ำตาลปริมาณลดลง แต่ให้รสชาติเหมือนเดิม และไม่มีผลต่อราคา แต่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ใส่ใจในสุขภาพและต้องการความเป็นอยู่ที่ดี” วรวุฒิกล่าว
ความแตกต่างของตลาดแมสและพรีเมียม
ตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานในประเทศไทยแบ่งออกเป็น เครื่องดื่มชูกำลังแบบแมสที่เน้นการให้พลังงานล้วน ๆ และแบบพรีเมียมคือ สินค้าที่มีการเติมมูลค่าเพิ่มเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นการอัดแก๊ส ใส่วิตามิน หรือมีรสชาติที่หลากหลายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้สินค้าว่าเป็นเครื่องดื่มให้พลังงานของคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน
–TCP สรุปไฮไลต์ปี 67 เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำ F&B ระดับเอเชีย
ในขณะที่การแข่งขันของแบรนด์ตลาดแมสจะเน้นที่การต่อสู้ด้านราคาขาย แต่การแข่งขันของตลาดพรีเมียมนั้น แบรนด์ต่าง ๆ พยายามนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดเพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ของการได้ดื่มผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นรสชาติ การใช้บรรจุภัณฑ์ หรือนำพรีเซ็นเตอร์มาดึงลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่
“ความท้าทายของตลาดพรีเมียมคือ การเข้าหาลูกค้าได้ถูกที่ ถูกช่องทางและถูกเวลา ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้มองหาสินค้าอย่างเดียวแต่มองหาประสบการณ์กับสินค้าด้วย ดังนั้น การสร้างประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็พยายามสร้างตรงนี้” วรวุฒิกล่าว
เรดบูลใช้สินค้า เรดบูล โซดา เป็นหนึ่งในสินค้าที่ขยายตลาดไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่
“เรดบูลพยายามอธิบายลูกค้าว่า ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จะช่วยเติมเต็มพลังงานระหว่างวันให้ทำงานต่อไปได้อย่างไร กลุ่มคนรุ่นใหม่มีพลังงานในตัวเองอยู่แล้ว ตอนเช้าพลังงานเขาอาจจะมาเต็ม แต่พอบ่าย ๆ พลังงานเริ่มหมด”
คว้า ‘แบมแบม’ เจาะฐานวัยรุ่น
เรดบูล ใช้การตลาดแบบสร้างประสบการณ์ (Experience Marketing) และต้องการใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น
หนึ่งในไฮไลท์ของกลยุทธ์ปีนี้ คือ การคว้าศิลปินระดับโลก แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด ด้วยคาแรคเตอร์ที่มีพลังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และมีฐานแฟนคลับทั่วโลก เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่
“เราเชื่อว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เรดบูลทั้งในประเทศไทยและระดับสากล” วรวุฒิกล่าว
การเปิด Energy Pop ม็อกเทลบาร์ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้า
“เราตั้งใจอยากเข้าใกล้ลูกค้า เพราะนอกจากจะได้พูดคุยกับลูกค้าโดยตรง ให้ลูกค้าได้ลองสินค้าใหม่ ๆ แล้ว ยังเป็นพื้นที่แนะนำสินค้าใหม่ ๆ ให้ลูกค้า ได้พูดคุยให้พวกเขาเข้าใจถึงแบรนด์เรามากขึ้น”
นับตั้งแต่ปี 2565 เรดบูลได้นำเครื่องดื่มเข้าไปเป็นส่วนผสมในสินค้าต่าง ๆ ผ่านการ Collab กับแบรนด์ต่างๆ เช่น เรดบูล ฮอลส์เอ็กซ์เอส, เอเนอร์จี้ดริงก์ เม็ดอม, หมากฝรั่งเดนทีน สแปลช เรดบูล, ไอศกรีม Molto x Red Bull รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่ เช่น ทีมเกมเมอร์ Bacon Time, กีฬาบาสเก็ตบอล 3×3, E-Sports และสเกตบอร์ด
ตั้งเป้ายอดขายปี 68 โต 2 เท่า
มูลค่าตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 22,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นมูลค่าตลาดพรีเมียม 10% หรือ 2,200 ล้านบาท ปีที่ผ่านมาทั้งตลาดมีการเติบโตเฉลี่ยราว 6% โดยคาดว่าในปี 2568 ก็ยังจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เรดบูลเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานแบบพรีเมียม จากจำนวนผู้เล่นในตลาด 7-8 ราย โดยครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 60%
พอร์ตโพลิโอธุรกิจเครื่องดื่มพลังงานของกลุ่มธุรกิจ TCP แบ่งออกเป็นเครื่องดื่มให้พลังงานแบบแมส 75% และตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานแบบพรีเมียม 25%
วรวุฒิ กล่าวว่า TCP เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งแมสและพรีเมียมเท่า ๆ กัน เพราะกลุ่มลูกค้าแตกต่างกันชัดเจน โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้น 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าตลาดพรีเมียมจะเติบโตกว่าตลาดแมสคาดว่าเครื่องดื่มชูกำลังเซ็กเมนต์พรีเมียมจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 10% เพราะเป็นเทรนด์ของลูกค้าที่รักสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าวัยรุ่นก็ตอบรับเครื่องดื่มให้พลังงานมากขึ้น เพราะมีสินค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะสินค้าน้ำตาล 0% ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
–TCP เตรียมเปิดรง. เรดบูลแห่งที่ 3 ในจีน รุกตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท
ปัจจุบัน เรดบูลมีผลิตภัณฑ์หลัก ๆ คือ
- เรดบูล เอ็กซ์ตร้า เครื่องดื่มมีน้ำตาล สำหรับคนที่ต้องการเอเนอร์จี้แบบจัดเต็ม
- เรดบูล โซดา เครื่องดื่มสูตรไม่มีน้ำตาล สำหรับเติมความสดชื่นระหว่างวัน
- เรดดี้ เครื่องดื่มชูกำลังสำหรับผู้หญิงมีทั้งสูตรมีน้ำตาลและน้ำตาล 0%
ในบรรดาสินค้าทั้งหมด เรดบูล เอ็กซ์ตร้า มียอดเติบโตมากที่สุดหรือ 40% ในปี 2567 รองลงมาคือ เรดบูล โซดาและเรดดี้ 30% เท่ากัน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
SYNNEX สบช่องคลาวด์โต 20% ต่อปี คว้าสิทธิ์ดิสทริบิวเตอร์รายใหม่ AWS
LTMH เปิดเวทีเสวนา “ตลาดหุ้นไทย” ถอดมุมมองอนาคตธุรกิจ ฝ่าวิกฤติและจับทิศทางการลงทุน