Share on
×

Share

Family Tourism สุขยกครัว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

การท่องเที่ยวไม่ใช่ความสุขชั่วคราว แต่เป็นการลงทุนระยะยาวที่ไม่ขาดทุน เพราะช่วยสร้างประสบการณ์ ทักษะชีวิต ความทรงจำที่ดี และความผูกพันในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่น ทั้งพ่อแม่ลูกและปู่ย่าตายายให้ได้ใช้เวลาเก็บเกี่ยวความสุขร่วมกัน Family Tourism ที่ครอบครัว ผนวกการท่องเที่ยว คือพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจ สังคม และการเรียนรู้มหาศาล

เวทีเสวนา KTC FIT Talk ครั้งที่ 17 หัวข้อ “Family Tourism Economy: ปลุกพลังเศรษฐกิจครอบครัวผ่านการท่องเที่ยวไทย” ภายใต้ธีม “Fun & Learn สนามเด็กเล่นแห่งการเรียนรู้” จัดโดยบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์จาก 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ สวนสนุก โรงแรม พิพิธภัณฑ์ และพื้นที่ไลฟ์สไตล์ เพื่อร่วมสร้างอีโคซิสเต็มของการท่องเที่ยวครอบครัวไทยอย่างยั่งยืน

วริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต KTC บอกว่า คำว่า ‘ครอบครัว’ ไม่ใช่แค่กลุ่มเป้าหมายทางการตลาด แต่คือ หน่วยพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจไทยที่มีพลังในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งด้านการบริโภค การเรียนรู้ และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพครอบครัวในยุคใหม่มองหาการท่องเที่ยวที่มากกว่าความสนุก แต่ต้องเติมเต็ม ‘ทักษะชีวิต’ ให้กับสมาชิกทุกวัย

ในฐานะองค์กรแห่งการเรียนรู้ KTC ไม่เพียงทำหน้าที่ส่งมอบสิทธิประโยชน์ด้านการใช้จ่าย แต่ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เพราะเชื่อว่าการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ จะกลายเป็นสนามเด็กเล่นแห่งการเรียนรู้ได้ หากออกแบบด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจน และจับมือกับพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน

“ถึงแม้เศรษฐกิจจะเป็นแบบนี้ แต่หมวด “Attraction” (สถานที่ท่องเที่ยว) ยังคงเติบโตได้ดี และมีการใช้จ่ายต่อหัวของลูกค้าในหมวดนี้เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าลูกค้ากลุ่มครอบครัวยังคงให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์”

ทั้งนี้ เพื่อผลักดันแนวคิด Fun & Learn สู่ครอบครัวทั่วประเทศ KTC ได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านการเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวกว่า 28 แห่ง ทั้งในเขตเมืองและต่างจังหวัด ครอบคลุมพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้เชิงวิทยาศาสตร์ สวนสนุกทั้งในร่มและกลางแจ้ง กิจกรรมแนวธรรมชาติ วิถีชีวิตจำลอง และกิจกรรม Edutainment สำหรับทุกวัย พร้อมสร้างอีโคซิสเต็มการเรียนรู้ที่เข้าถึงได้จริง มอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างสะดวกและคุ้มค่า

สวนสยาม: สนามเด็กเล่นแห่งการเรียนรู้

วุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพาร์ค บางกอก จำกัด
วุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพาร์ค บางกอก จำกัด

วุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพาร์ค บางกอก จำกัด ผู้ประกอบกิจการสยามอะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) นายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจ และอดีตประธานสมาคมสวนสนุกโลก บอกว่า สวนสนุกคือจุดหมายสำคัญของครอบครัว

“สวนสยามไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ความบันเทิง แต่คือสนามเด็กเล่นแห่งการเรียนรู้ ที่ช่วยเสริม Soft Skills ผ่านประสบการณ์จริง เช่น การต่อคิว รู้จักแบ่งปัน การเผชิญกับความกลัว และการตระหนักเรื่องความปลอดภัย ผสานเครื่องเล่น สวนน้ำและกิจกรรมกลางแจ้งเข้ากับกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น ค่ายลูกเสือและกิจกรรมตามฤดูกาล เพื่อให้เด็กและเยาวชนสนุกพร้อมเรียนรู้”

เมื่อสวนสนุกเชื่อมโยงกับพิพิธภัณฑ์ ชุมชน หรือสถานศึกษา จะเกิดเครือข่าย Fun & Learn ที่ทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นการเติบโตทั้งด้านความรู้ ทักษะชีวิต และจิตใจอย่างแท้จริง สวนสนุกจึงควรถูกมองเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจครอบครัวและสังคมในระยะยาว

เซ็นทารา: พื้นที่แห่งความทรงจำของครอบครัว

พินิดา เพชรธนะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เล่าว่า เซ็นทารา คือ แบรนด์โรงแรมสายเลือดไทยที่เติบโตมาจากธุรกิจครอบครัว และดำเนินธุรกิจด้วยการยึดถือปณิธาณดั้งเดิมของครอบครัว คือการส่งมอบบริการที่อบอุ่นควบคู่ไปกับมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้ทุกการเข้าพักไม่ได้เป็นเพียงการพักค้างคืน แต่คือการเดินทางเพื่อสร้างประสบการณ์และความทรงจำร่วมกัน

“การท่องเที่ยวแบบครอบครัวมีส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจการท่องเที่ยว จึงพยายามผสมผสานกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับทุกๆ โรงแรมของเรา ผ่านทั้งการดีไซน์ การให้บริการอาหารท้องถิ่น รวมถึงการจ้างงานในชุมชนเพื่อกระจายรายได้อย่างยั่งยืน โรงแรมทุกแห่งในเครือได้รับการออกแบบให้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน พร้อมมอบความสะดวกสบายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบครัวยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด Family-Oriented Hospitality”

หนึ่งในบทพิสูจน์ของความสำเร็จที่ชัดเจนคือ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีชรีสอร์ท พัทยา ธีมโรงแรมที่ได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวจากทั่วทุกมุมโลก จนสามารถต่อยอดสู่การเปิดให้บริการโรงแรมภายใต้ธีม Mirage อื่นๆ ในเวลาต่อมา อาทิ ดูไบ เวียดนาม และล่าสุดในมัลดีฟส์

โรงแรมและรีสอร์ทเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน แต่ยังเป็นสถานที่ในการใช้เวลาร่วมกันอย่างลึกซึ้ง ภายใต้สโลแกน ‘Centara – The Place to Be’ เพื่อให้เซ็นทาราเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความสุขของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

AWC: จุดหมายแห่งจินตนาการและการเรียนรู้

อานนท์ วิทยะสิรินันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น และ Jurassic World: The Experience เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น (AWC) เล่าว่า อสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ไม่ใช่แค่พื้นที่ทางกายภาพ แต่เป็นพื้นที่แห่งจินตนาการ การเรียนรู้ และความสุขของครอบครัว

AWC จึงพัฒนา ‘เอเชียทีค’ ให้เป็น Mixed-use Destination ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ความบันเทิง การศึกษาและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกันอย่างมีความหมาย

ล่าสุด การเปิดตัว ‘Jurassic World: The Experience’ จึงเป็นก้าวสำคัญของการเชื่อมโยง Global IP กับบริบทไทยอย่างสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่ที่เด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุสามารถเรียนรู้ร่วมกันได้อย่างสนุกสนานและปลอดภัย ผ่านการออกแบบที่เข้าถึงง่าย เป็น Inclusive Space สำหรับทุกคนในครอบครัว

นอกจากนี้ AWC ยังลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างพื้นที่ Hatch Dome และนิทรรศการ Better World, Better Future ที่นำเสนอเรื่องสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยมีเป้าหมายพัฒนาให้เอเชียทีคเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวและเมืองสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ในทุกช่วงเวลา นับเป็นการลงทุนในความสัมพันธ์และอนาคตอย่างยั่งยืน

มิวเซียมสยาม: จากพิพิธภัณฑ์สู่พื้นที่เรียนรู้

สุขุมาล ผดุงศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)
สุขุมาล ผดุงศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)

สุขุมาล ผดุงศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) บอกว่า จากอดีต พิพิธภัณฑ์ถูกมองว่าเป็นเพียงสถานที่จัดแสดงวัตถุและประวัติศาสตร์ แต่มิวเซียมสยามได้พลิกบทบาทสู่การเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ต้นแบบของไทย ด้วยแนวคิด ‘Play and Learn’ ที่เน้นสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการเล่นและทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและเข้าถึงง่ายสำหรับทุกเพศทุกวัย

บทบาทของพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบันไม่ใช่แค่สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่เป็นพื้นที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และทักษะชีวิตให้กับสมาชิกครอบครัวอย่างมีคุณภาพ การท่องเที่ยวเชิงครอบครัวจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะครอบครัวยุคใหม่ต้องการประสบการณ์ที่สนุกและมีสาระควบคู่กันอย่างแท้จริง

มิวเซียมสยามมองเห็นโอกาสในการขยายบทบาทเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจครอบครัวและเศรษฐกิจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมและนิทรรศการที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ร่วมกันในครอบครัว ทั้งยังส่งเสริมการเป็นพื้นที่สาธารณะ (Civic Space) ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ปัจจุบัน กลุ่มผู้เข้าชมมิวเซียมมีทั้งไทย และต่างชาติ ในสัดส่วน 50:50 แม้เศรษฐกิจไม่ดี แต่ยอดเข้าชมมิวเซียมกลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ท่องเที่ยวซบยาวจากโควิดเป็นต้นมา

วุฒิชัย เล่าถึงธุรกิจของบริษัทว่า รายได้รวมในภาพใหญ่ลดลงประมาณ 40-50% การใช้จ่ายลดลงในเกือบทุกหมวดหมู่ ยกเว้นภาคราชการ เช่น ค่ายลูกเสือ และงานของพนักงานภาครัฐที่ยังคงอยู่ในระดับปกติ

ส่วนภาคเอกชน โดยเฉพาะการจัดเลี้ยง มีปัญหาอย่างมาก ทั้งในเรื่องของจำนวนงานที่หายไปและการใช้จ่ายที่ลดลง ตัวอย่างเช่น โรงงานที่เคยจัดเลี้ยงแบบเต็มวันพร้อมโต๊ะจีนและแจกทอง ตอนนี้เหลือเพียงแค่เที่ยวทั้งวันและเลี้ยงอาหารกลางวันเท่านั้น

ปัญหาใหญ่ของปีนี้คือ สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จากการที่ฝนมาเร็วตั้งแต่เดือนมีนาคม และตกหนักในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะฝนที่ตกในตอนเช้าส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจกลางแจ้ง

นอกจากนี้ แม้กำลังซื้อจะเริ่มฟื้นตัวและมีผลชัดเจนขึ้นประมาณหลังสงกรานต์ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เป็นลูกค้าหลัก 70% ของบริษัทหายไป คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่ม เช่น จีน กัมพูชาลดลง แต่โดยพื้นฐานแล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมไม่ได้ลดลงมากนัก

จำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเห็นคือ 800,000 – 1 ล้านคนเท่ากับช่วงก่อนโควิด แต่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 500,000-600,000 คน ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายมาก

พึ่งพาโปรโมชั่น-เล็งผ่อนจ่าย

ดังนั้น หากไม่มีแฟลชเซลล์ หรือโปรโมชั่น จะเป็นเรื่องยากมากที่จะรักษายอดขายหรือปริมาณลูกค้า ธุรกิจจึงต้องใช้แคมเปญกระตุ้นราคาและโปรโมชั่นตลอดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจมีกำไร “บาง” ลงอย่างมาก ราคาบัตร ณ ตอนนี้จำเป็นต้องลดต่ำลงมากเพื่อดึงดูดลูกค้า

จากกำลังซื้อที่ลดลง ทางสวนสนุกกำลังพิจารณาการผ่อนชำระค่าบัตรเข้าชม โดยได้ตัวอย่างมาจากแคมเปญของร้านสุกี้ และรูปแบบสมาชิกแบบรายเดือน (Subscription) คล้าย Netflix เพื่อให้ลูกค้าแบ่งจ่ายเงินก้อนเล็กลง ตัดสินใจง่ายขึ้น จากที่มีบัตรสมาชิกรายปี จ่ายครั้งเดียว 1,500 บาท มีสมาชิกประมาณ 20,000 กว่าคน

หนักกว่าปีที่แล้ว

วุฒิชัย บอกว่า ปีนี้ถือว่า “ยากลำบากมาก” และ “หนักกว่า” ปีที่แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการจำนวนมากได้ใช้ “ไขมัน” หรือเงินสำรองที่มีในช่วงที่ถูกปิดจากโควิด และยังไม่สามารถสะสมคืนได้ ช่วงนี้จึงถูกผลกระทบอีกรอบ ทำให้ตอนนี้ผู้ประกอบการทุกคนเงินตึง และมีความต้องการในการเข้าถึงเงินทุนหรือกระแสเงินสดเข้ามา สภาวะโดยรวมไม่ใช่ “แย่” แต่กระแสเงินสดตึงตัว

ทางสวนสนุกมีหนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 7-8 ล้านบาทต่อเดือน แต่ได้ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงเทพ ทำให้สามารถจ่ายดอกเบี้ยเพียงบางส่วนและมีเงินบางส่วนเหลือสำหรับนำไปลงทุนได้

ทั้งนี้ บริษัทลงทุนเพิ่ม เช่น การรื้อถอนอาคารเก่าที่ใช้มา 45 ปีตั้งแต่เริ่มเปิด (ยกตัวอย่าง อาคารเปลี่ยนเสื้อผ้า) เพื่อนำเครื่องเล่นใหม่มาลง คือ สไลเดอร์ มูลค่าลงทุน 100-200 ล้านบาท และมองหาซัพพลายเออร์รายใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ของจากโซนอเมริกาเหนือเช่นเดิม แต่มองหาโซนเอเชียที่ได้รับการยอมรับ และมีผู้ใช้รายอื่นแนะนำ

ย้ายที่ตั้ง แก้หลายปัญหา

การย้ายที่ตั้ง (Relocate) วุฒิชัย บอกว่า เป็นเรื่องที่พูดถึงกันมานานหลายปี แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ ซึ่งที่ดินในทำเลที่ตั้งของสวนสยามมีมูลค่าสูง และเวลาที่ผ่านไป ทำให้มีปัญหาเสียงดัง รถติด จากชุมชนเข้ามาล้อมรอบ หากย้ายไปที่ใหม่ จะมีเงินทุนล้างหนี้ โลเคชั่นใหม่จะออกแบบได้เต็มที่ พื้นที่หนึ่งที่มองไว้คือ EEC

อีกทางหนึ่งคือ การทำสวนสนุกขนาดเล็กลง หรือแบบ Hybrid ที่รวมอยู่กับโรงแรม หรือศูนย์ประชุม

บางกอกเวิลด์ลงทุนผิดเวลา

ส่วนของโครงการ “บางกอกเวิลด์” พื้นที่พาณิชย์ด้านหน้าสวนสนุก วุฒิชัย มองว่า เป็นการลงทุนที่ “ผิดเวลา” มากกว่า “ผิดพลาด” เนื่องจากสร้างขึ้นก่อนโควิด-19 แต่นักท่องเที่ยวไม่กลับมาเท่าเดิม จึงไม่น่าดึงดูดเท่าที่ควร

โครงการดังกล่าวมีพื้นที่ขายประมาณ 30,000 ตารางเมตร บนที่ดินประมาณ 70 ไร่

การลงทุนของบริษัทจะเน้นไปที่สวนน้ำก่อน เพราะมีเสน่ห์เรื่องความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสวนสนุกต่างประเทศที่ค่าใช้จ่ายสูงกว่ามาก และมีกิจกรรมที่เปิดกว้าง ให้อิสระในการทำกิจกรรมหลากหลาย (เช่น ทะเลเทียม) ซึ่งตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่น นักท่องเที่ยวจะใช้เวลาที่สวนน้ำเฉลี่ย 3-4 ชั่วโมง สวนสนุกประมาณ 5-6 ชั่วโมง

ธุรกิจที่เริ่มต้นจากความรักของผู้ก่อตั้ง แม้เผชิญความท้าทายมาโดยตลอด แต่ยืนยันว่า จะไม่หยุดทำสวนสยาม ณ ตอนนี้

รายรับไม่พลาดเป้านัก

พินิดา แห่งเซ็นทารา บอกว่า สถานการณ์โดยรวมในปีนี้เป็นไปตามเศรษฐกิจทั่วโลก คือมีบางส่วนที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ (forecast) แต่ภาพรวมก็ยังคงเติบโตสูงกว่าปีที่แล้ว รายรับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (year to date) ไม่ได้พลาดเป้าหมาย (budget) มากนัก ยังสามารถหาตลาดอื่นมาทดแทนได้ คาดว่า ถึงสิ้นปีจะทำได้ตามที่คาดการณ์ไว้ จากคนยังคงเดินทางท่องเที่ยวและช่วงฤดูท่องเที่ยว (high season) ยังมีคนจองล่วงหน้า (on the book) ไม่ลดลงเลย ลูกค้าหลักเป็นคนไทย 70% ซึ่งยังใช้จ่าย

ขณะที่ กลุ่มตลาดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์โลก เช่น ช่วงที่จีนมีข่าวมากๆ หรือช่วงที่มีสถานการณ์ในอิสราเอล แต่ก็มีตลาดอื่นเข้ามาทดแทน เช่น ตลาดตะวันออกกลาง

ธุรกิจโรงแรมครอบคลุมตั้งแต่ระดับ luxury ไปถึง budget ซึ่งกลุ่ม luxury ยังคงเดินทางท่องเที่ยวเหมือนเดิม และอาจมียอดใช้จ่ายต่อหัวสูงขึ้นด้วย แม้จำนวนการจองอาจน้อยลง แต่ ADR (Average Daily Rate) สูงขึ้น และตลาด MICE ยังเติบโตดี

ส่วนของการเปิดโรงแรมใหม่ภายในสิ้นปีนี้ มีทั้งไทย และต่างประเทศ ได้แก่ เนปาล สมุย เวียดนาม

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

การบินไทย ยกเลิกแผนฟื้นฟู ประกาศเดินหน้าต่อ กลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ 4 สิงหานี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โปรตีนแมลง-นมมะม่วงหิมพานต์: นวัตกรรมอาหารแบรนด์ไทยพร้อมบุกตลาดโลก

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง