บ้านรองรับแผ่นดินไหว ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นมาก หลังเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่มีศูนย์กลางในประเทศเมียนมา แต่มีแรงสะเทือนถึงประเทศไทยหลายพื้นที่รวม 63 จังหวัด โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง สร้างความเสียหายอันถึงแก่ชีวิต และอาคารบ้านเรือนบางแห่งร้าว หรือหนักสุดคือ พังถล่ม ก่อให้เกิดความวิตกกังวลแก่คนทั่วไป
ครอบครัวที่มีกำลังซื้อเริ่มมองหาที่พักอาศัย หรือบ้านที่ก่อสร้างโดยมีโครงสร้างพื้นฐานมั่นคง เป็นที่ปกป้องคุ้มครองกรณีเกิดภัยที่ไม่คาดฝัน
ล่าสุด SCG HEIM ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง เอสซีจี และบริษัท เซกิซุย (Sekisui) ประเทศญี่ปุ่น นำสื่อมวลชนไปชมนวัตกรรมบ้านรองรับแผ่นดินไหว มาตรฐานญี่ปุ่น ณ โรงงานอำเภอหนองแค จ.สระบุรี โดยตลอดเวลา 16 ปีของความร่วมมือนี้ ได้สร้างบ้านในประเทศไทยไปแล้วกว่า 1,500 หลัง เฉลี่ย 75% อยู่ในเขตภาคกลางรวม กทม. อีก 25% กระจายจากเหนือจรดใต้ และหลังเหตุแผ่นดินไหวมีเจ้าของบ้านบางหลังติดต่อให้เข้าตรวจสอบ ปรากฏว่า ไม่พบความผิดปกติใด ๆ
ผลิตด้วยหุ่นยนต์-โครงสร้างแข็งแรง
Masatoshi Kifuji Managing Director, SEKISUI – SCG INDUSTRY CO.,LTD. ให้ข้อมูลจุดเด่นของบ้าน SCG HEIM 4 ด้าน คือ
- บ้านทุกหลังผลิตด้วยระบบโมดูลาร์ โดยใช้หุ่นยนต์ขั้นสูงในโรงงาน ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพการต่อ-เชื่อม-ประกอบได้ดี และคุมระยะเวลาก่อสร้างได้ตามแผน มีชิ้นส่วนวัสดุเหลือทิ้งน้อยที่สุด มีผู้ตรวจสอบทุกขั้นตอนการผลิต รวมถึงทุกชิ้นส่วนที่ผลิตเสร็จแล้วเพื่อป้องกันความผิดพลาด
- ระบบ Air Factory System หมุนเวียนอากาศ และ Air Tightness System รูปแบบเฉพาะของ SCG HEIM เพิ่มคุณภาพการอยู่อาศัย ทำให้อากาศภายในบ้านสะอาด ลดฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรค จากคุณสมบัติการกรองฝุ่นได้ละเอียดถึง 0.3 ไมครอน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดี พร้อมทั้งการออกแบบและเลือกใช้วัสดุเฉพาะ ช่วยลดเสียงรบกวนและความวุ่นวายจากภายนอกบ้านเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยระบบดังกล่าวเป็นระบบปิด แนะนำให้เปิดใช้งานระบบอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยมีค่าไฟประมาณ 2-3 บาทต่อวัน
- ใช้เข็ม ระบบฐานราก และโครงสร้างเหล็ก ZAM คุณภาพสูงชนิดเดียวกับที่ใช้ในงานโครงสร้างอาคารสูง ทนต่อการกัดกร่อนได้มากกว่าเหล็กกล้าหลายสิบเท่า ทำให้บ้านแข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่น รองรับแผ่นดินไหวตามมาตรฐาน เซกิซุย ญี่ปุ่น แม้บ้านที่มีระดับความสูงต่ำกว่า 10 เมตรของประเทศไทยปกติแล้วไม่ได้กำหนดให้ต้องออกแบบรองรับแรงจากแผ่นดินไหว
โดยบ้านที่สร้างจะตรงตามกฎกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2550 เรื่องกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และประกาศกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2564 เรื่องการออกแบบและคำนวณโครงสร้างอาคารเพื่อต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ให้สามารถต้านทานความเร่งของการสั่นสะเทือนที่ปลอดภัยได้มากกว่า 1,200 แกล (gal) - รับประกัน 20 ปี พร้อมบริการหลังการขายตลอดระยะเวลารับประกัน โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านเป็นระยะ ๆ ตามกำหนดเวลาดังกล่าว เพื่อความมั่นใจในการอยู่อาศัย

ข้อแตกต่างระหว่างไทย-ญี่ปุ่น
พื้นดินประเทศญี่ปุ่นจะแข็งกว่าประเทศไทย ดังนั้น การตอกเสาเข็มของไทยจึงลึกกว่ามาก ญี่ปุ่นลึกประมาณ 2 เมตร แต่ไทยบางแห่งต้องลึกถึง 20 เมตร ซึ่งก่อนออกแบบบ้านทุกหลังต้องเจาะสำรวจพื้นที่ให้เรียบร้อย
ทั้งนี้ บริษัทจะทำหน้าที่สร้างบ้านครบวงจร ตั้งแต่ปรึกษาออกแบบบ้านตามความต้องการของลูกค้า ผลิตบ้าน แล้วยกไปประกอบถึงที่ดินของเจ้าของบ้าน โดยระยะเวลาการออกแบบแก้ไขแบบจะกินเวลาประมาณ 6-7 เดือน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วทางโรงงานจะสั่งซื้อวัสดุมาสร้างทุกชิ้นส่วนให้เสร็จ รวมทั้งการวางระบบไฟฟ้าภายในโรงงาน ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 7 วัน จากนั้นยกไปประกอบติดตั้งเสร็จภายใน 1-3 วันขึ้นกับขนาด และรายละเอียดของบ้าน ส่วนการตอกเสาเข็มทางทีมงานจะเตรียมไว้ล่วงหน้า
ราคาบ้านเปล่าที่รับสร้างเริ่มต้นที่ 5.8-5.9 ล้านบาท ไม่รวมการตกแต่งภายในและที่ดิน พื้นที่ให้บริการทั่วประเทศ แต่ไม่รวม 3 จังหวัดชายแดน
โชว์ประสิทธิภาพรับแรงสะเทือน
พร้อมกันนี้ ได้เปิดให้ทดสอบจำลองการสั่นสะเทือนของบ้าน ซึ่งพบว่า เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ผนังบ้านอาจขยับบ้าง แต่ไม่เกิดอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการออกแบบรองรับไว้ก่อนแล้ว
ภายหลังเหตุแผ่นดินไหว ทาง SCG HEIM ได้รับการติดต่อจากลูกค้าแสดงความสนใจบ้านของบริษัทจำนวนมากขึ้น โดยบริษัทมีแบบบ้านให้เลือก 5 ซีรีส์ 5 ดีไซน์
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทีเส็บ จุดพลุ MICE Day 2025 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทยสู่ความยั่งยืน