Share on
×

Share

สวนทางยุค Pet Parent? เปิดวิกฤติคุณภาพชีวิตสัตวแพทย์ไทย ที่สังคมต้องรู้

ในยุคที่ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงลึกซึ้งขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และความต้องการโปรตีนจากปศุสัตว์เพื่อความมั่นคงทางอาหารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บทบาทของ “สัตวแพทย์” ได้ทวีความสำคัญขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่เบื้องหลังวิชาชีพที่ดูแลชีวิตสัตว์และสุขภาพของคนทั้งประเทศ กลับซ่อนความจริงอันน่าตกใจที่สัตวแพทย์ต้องเผชิญ ทั้งชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความรู้สึกไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมอย่างที่ควรจะเป็น นี่คือภาพสะท้อนอันทรงพลังจากรายงาน “White Paper” ที่จัดทำโดยบริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (Boehringer Ingelheim) ซึ่งได้จุดประกายให้ทุกภาคส่วนต้องหันกลับมาทบทวนถึงอนาคตที่ยั่งยืนของวิชาชีพนี้อย่างจริงจัง

ในงานเสวนา “Going Beyond: สร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับสัตวแพทย์ไทย” ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของสัตวแพทย์และบุคลากรในคลินิกกว่า 335 คน จาก 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย เพื่อทำความเข้าใจถึงความท้าทายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความเสียสละของพวกเขา

เบื้องหลังรอยยิ้ม: ความจริงที่สัตวแพทย์ไทยต้องเผชิญ

ผลสำรวจได้ฉายภาพความท้าทายที่สัตวแพทย์ไทยกำลังเผชิญอย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนผ่านตัวเลขและเสียงสะท้อนที่น่ากังวลหลายประการ

  • ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานที่สุดในภูมิภาค: สัตวแพทย์ไทยจำนวนมากทำงานหนักมากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชั่วโมงการทำงานที่หนักหน่วงนี้นำไปสู่ภาวะเหนื่อยล้า (Burnout) และความเครียดสะสม จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต
  • ความรู้สึกไม่ได้รับการชื่นชม: ตัวเลขที่น่าตกใจที่สุดคือ มีสัตวแพทย์ในประเทศไทยเพียง 16% เท่านั้น ที่รู้สึกว่าอาชีพของตนได้รับการชื่นชมจากสังคม ซึ่งสวนทางกับบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งสุขภาพสัตว์ สุขภาพคน และความปลอดภัยทางอาหาร ความรู้สึกนี้บั่นทอนกำลังใจและทำให้เกิด “ความท้อแท้” ในการทำงาน
  • วงจรของค่าใช้จ่ายและความไม่เข้าใจ: ปัญหาใหญ่ที่สัตวแพทย์กว่า 70% ต้องเจอคือ การที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงขาดความเข้าใจในเรื่องสุขภาพสัตว์ ทำให้มักพาสัตว์มารักษาเมื่ออาการหนักแล้ว ส่งผลให้ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นตามความซับซ้อนของโรค และบ่อยครั้งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงตัดสินใจไม่ทำการรักษาต่อเมื่อเห็นค่าใช้จ่าย ซึ่งสร้างความยากลำบากใจให้กับสัตวแพทย์ที่ต้องพยายามรักษาสมดุลระหว่างการรักษาที่ดีที่สุดกับข้อจำกัดทางการเงินของเจ้าของ

ความท้าทายที่ถาโถมเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาวะของสัตวแพทย์ จนทำให้บางส่วนเริ่มมองหาเส้นทางอาชีพอื่น หรือแม้กระทั่ง “พิจารณาลาออกจากวิชาชีพ” ซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข อาจนำไปสู่วิกฤติการขาดแคลนบุคลากรที่มีความสำคัญต่อสังคมในอนาคต

6 ข้อเสนอจากใจ: สู่หนทางสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

จากผลการศึกษดังกล่าว เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ได้เสนอแนวทาง 6 ประการเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม

  1. สร้างความเข้าใจในสังคม: จัดทำแคมเปญเพื่อสื่อสารให้สังคมได้เข้าใจถึงบทบาทที่แท้จริงและคุณค่าของสัตวแพทย์ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การรักษาสัตว์เลี้ยง แต่ยังรวมถึงการดูแลสัตว์เศรษฐกิจ การป้องกันโรคระบาด และการส่งเสริมสาธารณสุขภายใต้แนวคิด “สุขภาพหนึ่งเดียว” (One Health)
  2. รักษาบุคลากรคุณภาพ: พัฒนาเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพให้ชัดเจน พร้อมส่งเสริมทักษะและจัดสวัสดิการที่เหมาะสม รวมถึงค่าตอบแทนที่คุ้มค่า เพื่อสร้างความมั่นคงและแรงจูงใจให้บุคลากรยังคงอยู่ในวิชาชีพอย่างมีความสุข
  3. ส่งเสริมสุขภาวะที่ดี (Wellness Program): จัดตั้งโครงการที่ช่วยให้สัตวแพทย์สามารถจัดการกับความเครียดและดูแลสุขภาพจิตของตนเองได้ดียิ่งขึ้น อาจเป็นการจัดอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ได้พูดคุยแลกเปลี่ยน
  4. ลดภาระค่าใช้จ่ายและส่งเสริมการป้องกัน: หารือแนวทางเพื่อลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของเจ้าของสัตว์เลี้ยง เช่น การส่งเสริม “ธุรกิจประกันภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง” และรณรงค์ให้เกิดการดูแลสัตว์ในเชิงป้องกัน (Preventive Care) เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อลดโอกาสการเจ็บป่วยรุนแรงและค่าใช้จ่ายที่สูงในระยะยาว
  5. สร้างการยอมรับและยกย่อง (Recognition Program): จัดให้มีโครงการเชิดชูเกียรติหรือยกย่องสัตวแพทย์ในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และทำให้สังคมเห็นถึงคุณค่าและความทุ่มเทของวิชาชีพมากขึ้น
  6. รวมพลังเพื่อสร้างเสียงที่เป็นหนึ่งเดียว: ส่งเสริมให้สมาคมและองค์กรวิชาชีพต่าง ๆ ร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง เพื่อสร้างพลังในการเจรจาต่อรองกับภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพโดยรวม
รศ.สพ.ญ.ดร.จารุวรรณ คำพา เลขาธิการสัตวแพทยสภาแห่งประเทศไทย
รศ.สพ.ญ.ดร.จารุวรรณ คำพา เลขาธิการสัตวแพทยสภาแห่งประเทศไทย

รศ.สพ.ญ.ดร.จารุวรรณ คำพา เลขาธิการสัตวแพทยสภาแห่งประเทศไทย ได้กล่าวเปิดงานโดยย้ำว่า วิชาชีพสัตวแพทย์กำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนจึงหมายถึงการสร้างระบบนิเวศที่เกื้อหนุนให้สัตวแพทย์ไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ขณะที่ เภสัชกร อภิศักดิ์ คุณเวช Head of Animal Health บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ แอนิมอล เฮลท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว White Paper ในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการนำเสนอข้อมูล แต่เป็นการเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันแสวงหาแนวทาง เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อวงการสัตวแพทย์ไทยอย่างแท้จริง โดยเป็นเพียง “จุดเริ่มต้น” ของความร่วมมือที่จะต้องอาศัยเวลาและความมุ่งมั่นจากทุกฝ่ายเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกันต่อไป

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

จุฬาฯ จับมือ ไปรษณีย์ไทย เปิดบริการส่งยาสัตว์เลี้ยงถึงบ้านผ่านระบบ EMS

TikTok สานต่อ ‘คนไทยรู้ทันปี 2’ ผนึก 12 พันธมิตรยกระดับสู้ภัยไซเบอร์

วิสัยทัศน์ Sea (ประเทศไทย) กับ AI เครื่องมือสร้างอนาคตที่ยั่งยืน และกุญแจสู่การสื่อสารกับ ‘สรรพสัตว์’

×

Share

ผู้เขียน