Share on
×

Share

IBM เสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อกิจการ HashiCorp สร้างแพลตฟอร์มคลาวด์ไฮบริดแบบครบวงจร

IBM ประกาศเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ HashiCorp บริษัทผู้พัฒนาโซลูชันอัตโนมัติและระบบรักษาความปลอดภัย สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน ที่รองรับแอปพลิเคชันคลาวด์ไฮบริดและปัญญาประดิษฐ์กำเนิด (Generative AI) ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าเร่งนวัตกรรม เสริมสร้างความปลอดภัย และเพิ่มมูลค่าจากการใช้ระบบคลาวด์

ปัจจุบัน กว่า 75% ขององค์กรทั่วโลกใช้ระบบคลาวด์ไฮบริด ซึ่งรวมถึงคลาวด์สาธารณะจากผู้ให้บริการรายใหญ่และศูนย์ข้อมูลภายในองค์กร โครงสร้างพื้นฐานแบบนี้ช่วยให้เกิดนวัตกรรมผ่านแนวทางที่เป็นหนึ่งเดียว ในการพัฒนาและบริหารจัดการระบบคลาวด์ในระดับใหญ่ องค์กรต่าง ๆ กำลังมองหาวิธีบริหารจัดการและปรับปรุงระบบคลาวด์และความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ ไปจนถึงการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ภายในปี 2028 ปัญญาประดิษฐ์กำเนิดจะมีส่วนช่วยสร้างแอปพลิเคชันใหม่ที่ใช้ระบบคลาวด์เป็นหลักถึง 1 พันล้านรายการ การรองรับขนาดการใช้งานระดับนี้ต้องอาศัยระบบอัตโนมัติที่เหนือกว่าขีดความสามารถของแรงงานเพียงอย่างเดียว

ขยายขีดความสามารถของ IBM ด้วยเทคโนโลยีของ HashiCorp

Rob Thomas รองประธานอาวุโสฝ่ายซอฟต์แวร์และหัวหน้าเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ของ IBM กล่าวว่า “องค์กรทั่วโลกต้องการใช้งานแอปพลิเคชันที่รองรับระบบคลาวด์ไฮบริดสมัยใหม่ ซึ่งต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่สามารถทำงานอัตโนมัติในระดับขนาดใหญ่ การเข้าซื้อกิจการนี้ IBM ยังคงมุ่งมั่นลงทุนและขยายขีดความสามารถของ HashiCorp ร่วมกัน โดยจะนำเทคโนโลยีชั้นนำของ HashiCorp ผสานกับเครือข่ายนักพัฒนาขนาดใหญ่ ขยายศักยภาพผ่านเครือข่ายระดับโลกของ IBM และทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้เทคโนโลยีของ HashiCorp กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในทุกศูนย์ข้อมูล”

Dave McJannet ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ HashiCorp กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์และเครือข่ายของ IBM จะช่วยขยายการเข้าถึงของ HashiCorp เพื่อช่วยเหลือลูกค้า นักพัฒนา และพันธมิตรในการทำให้งานระบบคลาวด์มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

Armon Dadgar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ร่วมก่อตั้ง HashiCorp กล่าวเสริมว่า “HashiCorp เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์มาตั้งแต่ยุคแรก เราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้องค์กรทั่วโลกใช้แนวทางที่เน้นระบบคลาวด์เป็นศูนย์กลางสำหรับการจัดการวงจรชีวิตของโครงสร้างพื้นฐานและความปลอดภัย ผมตื่นเต้นที่ HashiCorp ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว IBM เพราะเรามีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานไฮบริดสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เราจะเดินหน้าลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อรองรับแอปพลิเคชันแห่งอนาคต”

รายละเอียดผลิตภัณฑ์และความพร้อมใช้งาน

เทคโนโลยีของ HashiCorp ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ระบบอัตโนมัติบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและความปลอดภัยแบบครบวงจร โดย HashiCorp Terraform เป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ ผลิตภัณฑ์ของ HashiCorp ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการระบบมัลติคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ IBM ที่เน้นการทำงานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม ทั้งผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ ชุมชนนักพัฒนา และโครงการโอเพ่นซอร์สเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านไฮบริดคลาวด์และ AI

Terraform และ Vault รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ HashiCorp พร้อมให้บริการผ่านพอร์ตโฟลิโอซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติของ IBM ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพของ IBM ในหลายด้าน เช่น Red Hat, watsonx, ความปลอดภัยของข้อมูล, ระบบอัตโนมัติด้านไอที และการให้คำปรึกษา ตัวอย่างเช่น Terraform ทำงานร่วมกับ Red Hat Ansible Automation Platform ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Terraform จัดการสร้างโครงสร้างพื้นฐานพื้นฐานในระบบคลาวด์หลายตัว ขณะที่ Ansible จัดการการกำหนดค่าแอปพลิเคชันและการปรับใช้ซอฟต์แวร์บนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว

นอกจากนี้ HashiCorp Vault เมื่อทำงานร่วมกับ Red Hat OpenShift จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการจัดการข้อมูลลับและความปลอดภัยในระบบคลาวด์ไฮบริด ขณะที่ Terraform สามารถใช้ในการพัฒนาและปรับใช้แอปพลิเคชัน IBM Z ในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดคลาวด์

ต่อยอดศักยภาพด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ IBM

การเข้าซื้อกิจการ HashiCorp เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ IBM ในซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้องค์กรปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้จ่ายด้านไอทีและลดต้นทุน รวมถึงซอฟต์แวร์ AI สำหรับการวิเคราะห์การทำงานของแอปพลิเคชัน การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจร การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบคลาวด์ และโซลูชันบริหารจัดการงบประมาณไอทีแบบเรียลไทม์

IBM ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายทั้งหมดของ HashiCorp ในราคาหุ้นละ 35 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นมูลค่ารวม 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

“เครื่องบินส่งมอบช้า” ฉุดการบินไทยขยายตลาด ลุ้นนำหุ้นกลับเข้าเทรด มิ.ย.นี้ หลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ

AI เปลี่ยนโลกธุรกิจ: แนะองค์กรเร่งปรับตัว เพิ่มทักษะ Digital-AI ให้พนักงาน

Future Trends Ahead Summit 2025 สำรวจเทรนด์การตลาด ผู้บริโภค และอนาคตธุรกิจ

×

Share

ผู้เขียน