ท่ามกลางความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าและถนนที่คลาคล่ำไปด้วยรถยนต์ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเปรียบเสมือนโอเอซิสอันล้ำค่าที่ช่วยเยียวยาชีวิตและสร้างสมดุลให้เมืองหลวงแห่งนี้ กลุ่มดุสิตธานี เจ้าของตำนานโรงแรมระดับโลก ร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา เตรียมเปิด Thailand’s Largest Urban Roof Park สวนลอยฟ้าใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่ 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) ภายในโครงการมิกซ์ยูสระดับโลก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค สวนแห่งนี้ไม่เพียงเป็นพื้นที่สีเขียวที่เชื่อมต่อกับสวนลุมพินีอย่างลงตัว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง แลนด์มาร์กแห่งความสุขที่โอบรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยว พร้อมเทียบชั้นสวนสาธารณะระดับโลกอย่าง Central Park ในนิวยอร์ก และ Hyde Park ในลอนดอน
แรงบันดาลใจจากอดีต สู่พื้นที่แห่งอนาคต
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เผยถึงเบื้องหลังการสร้างสรรค์ Roof Park แห่งนี้ว่า เกิดจากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของทีมผู้บริหารที่ต้องการพัฒนาพื้นที่มิกซ์ยูสของโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ให้เป็นมากกว่าพื้นที่เชิงธุรกิจบน Prime Location แต่เป็นพื้นที่ที่ตอบแทนสังคม ต้อนรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย รองรับทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อมอบความสุขพร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและคุณภาพเมืองที่ดีให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก
“แรงบันดาลใจของโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค คือการเชื่อมต่อระหว่างคุณค่าของสิ่งที่เคยเป็นมาในอดีตและเติมด้วยสิ่งที่ต้องเป็นไปในอนาคตให้มีความลงตัวมากที่สุด” ศุภจีกล่าว
“เราวางเป้าหมายให้ Roof Park เป็น ‘สวนลอยฟ้าใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (Thailand’s Largest Urban Roof Park)’ เทียบเคียงสวนสาธารณะระดับโลกอย่าง Central Park ในมหานครนิวยอร์ก และ Hyde Park ในมหานครลอนดอน ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานของทุกคนที่ตั้งอยู่บน Prime Location ใจกลางเมือง”
การออกแบบสวนลอยฟ้าแห่งนี้จึงไม่เพียงตอบโจทย์ด้านฟังก์ชัน แต่ยังมุ่งสร้างพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพกายใจของผู้มาเยือน และยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติทางเศรษฐกิจที่ดึงดูดชาวไทยและนักท่องเที่ยวให้มาเยือน มิติทางสังคมที่มอบพื้นที่ให้ทุกคนได้ใช้งานตามไลฟ์สไตล์ และมิติด้านระบบนิเวศเมืองที่ช่วยเพิ่มออกซิเจน ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ดักจับและลดฝุ่น PM10 และ PM2.5
“เราตั้งใจให้สวนแห่งนี้ช่วยลดอุณหภูมิโลกลง 1-2 องศา และให้ต้นไม้ในสวนช่วยดูดซับคาร์บอนและลดฝุ่นละออง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ต้องอาศัยการวิจัยและคัดเลือกพันธุ์ไม้อย่างพิถีพิถัน” ศุภจีกล่าว
สวนลอยฟ้าที่มากกว่าแค่พื้นที่สีเขียว

“เราตั้งใจทำพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นประสบการณ์ที่ไร้ขีดจำกัด แม้พื้นที่ในเมืองมีจำกัดก็ตาม แต่ประสบการณ์ดี ๆ ไม่ควรถูกจำกัดไปด้วย” ศุภจีกล่าว นอกจากจะเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแล้ว ยังเป็นพื้นที่สำหรับการพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหาร สนามเด็กเล่น และ Amphitheatre ที่สามารถรองรับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงงานศิลปะ ดนตรี หรือมินิอีเว้นต์ต่างๆ
สวนลอยฟ้าแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย ธัชพล สุนทราจารย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Landscape Collaboration จำกัด ด้วยแนวคิด 3 ด้านหลัก คือ
- การสานต่อมรดกอันงดงาม (Heritage & Legacy) โดยนำอัตลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในอดีตมาผสานในบริบทร่วมสมัย เช่น การสร้างน้ำตก การเลี้ยงปลา และการปลูกต้นลีลาวดี
- การนำ Universal Design ผสาน Inclusive Design for All โดยมุ่งออกแบบเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ หรือใช้เวลากับครอบครัวและสัตว์เลี้ยง
- Urban Sanctuary & Ecosystem สร้างระบบนิเวศที่มีความเฉพาะตัวผ่านการเลือกสรรพันธุ์ไม้จากหลากหลายกลุ่ม ทั้งไม้พุ่ม ไม้ยืนต้น ไม้น้ำ และไม้คลุมดิน โดยมีการศึกษาจากวรรณคดีไทย เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศสุพรรณบุรี และ นิราศเมืองแกลง เพื่อทำความเข้าใจพันธุ์ไม้ไทยเดิม ต้นไม้ประจำถิ่น และไม้มงคล เช่น มะกอกน้ำ ที่มาของชื่อบางกอก นอกจากนี้ ทีมออกแบบยังคัดเลือกพันธุ์ไม้ที่สามารถดักจับฝุ่นละออง เน้นการสร้างระบบนิเวศที่ปราศจากสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง หรือคลอรีน ทำให้สวนแห่งนี้เป็นบ้านของนก แมลงที่เป็นประโยชน์ เช่น แมลงปอ แมลงทับ ผีเสื้อ และกระรอก รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติสำหรับทุกวัย
สิ่งที่โดดเด่นอีกประการคือการนำหลัก “สภาวะน่าสบาย (Thermal Comfort)” เข้ามาเสริม ทำให้พื้นที่แห่งนี้ นอกจากจะผลิตออกซิเจน ดูดซับฝุ่น และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังมอบร่มเงาจากต้นไม้และความสดชื่นชุ่มชื้นจากละอองน้ำตก ทำให้เกิดอากาศเย็นสบายและบรรยากาศแห่งความสุขและความรื่นรมย์ที่สามารถใช้เวลาอยู่ได้ทั้งวัน
หัวใจของ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค
ดุสิต เซ็นทรัล พาร์คซึ่งมีมูลค่ารวม 46,000 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนระหว่าง บมจ.ดุสิตธานี และ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา พัฒนาพื้นที่ 23 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสีลม ตรงข้ามสวนลุมพินี โครงการประกอบด้วยโรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า เซ็นทรัล พาร์ค โดยมีสวนสาธารณะบนชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สีเขียวพิเศษขนาดใหญ่ 7 ไร่
สวนลอยฟ้าจะเปิดให้บริการพร้อมกับการเปิดศูนย์การค้า “เซ็นทรัล พาร์ค” ในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 การเดินทางสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง และรถไฟใต้ดิน MRT สถานีสีลม ผู้ที่ต้องการเข้าใช้บริการจะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเพื่อมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย และที่สำคัญ สวนแห่งนี้ยังเป็น Pet Friendly โดยมีช่องทางพิเศษเข้าสวนสำหรับผู้ที่พาน้องหมาน้องแมวมาด้วย
แคมเปญประกวดตั้งชื่อสวนลอยฟ้า
เพื่อต้อนรับการเปิดตัว Roof Park และเชิญชวนคนไทยทั่วโลกให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์กับพื้นที่สีเขียวคุณภาพหน้าใหม่ของกรุงเทพฯ ทางโครงการฯ ได้จัดแคมเปญ Roof Park at Dusit Central Park: The Landmark of Thai Pride ประกวดตั้งชื่อ Roof Park ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568
การประกวดนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ภายใต้ข้อกำหนดที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของสวนลอยฟ้าแห่งนี้ คือ
- การเป็นพื้นที่สีเขียวที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ (Accessibility)
- ความเป็นจุดหมายสำคัญของเมือง (Landmark)
- ผสานความเป็นธรรมชาติกับความเป็นเมือง (Nature meets urban)
- ความเป็นไทยร่วมสมัย (Contemporary Thai)
- การเชื่อมต่อกับผู้คนและชุมชน (Community Connection)
ผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลแพ็คเกจตั๋วเครื่องบิน 2 ที่นั่งพร้อมที่พักโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น 3 วัน 2 คืน และรางวัลชมเชย บัตรรับประทานอาหารที่ห้องอาหาร Pavilion โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ มูลค่า 3,000 บาท จำนวน 5 รางวัล โดยจะประกาศผลบนช่องทาง https://dusitcentralpark.com/roofparknamingcampaign
ส่อง 10 สวนสาธารณะใหญ่สุดในกรุงเทพฯ
จากรายงานฐานข้อมูลและระบบติดตามประเมินผลการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานคร พบว่าสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่เป็นที่นิยมและมีพื้นที่มากที่สุด ได้แก่
- สวนสาธารณะศูนย์กีฬาบึงหนองบอน ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 มีพื้นที่ 644 ไร่ ถือเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
- สวนหลวง ร.9 มีพื้นที่ 500 ไร่ เป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
- สวนเบญจกิติ ย่านโรงงานยาสูบ มีพื้นที่ 450 ไร่ เป็นสวนป่าแห่งแรกของกรุงเทพฯ
- สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) มีพื้นที่ 375 ไร่ เป็นที่นิยมในการปั่นจักรยานและทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- สวนลุมพินี มีพื้นที่ 360 ไร่ เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ และเป็นที่รู้จักในฐานะพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง
- สวนเสรีไทย มีพื้นที่ 208 ไร่ เป็นสวนสาธารณะธรรมชาติที่ถูกใช้เป็นพื้นที่เก็บกักน้ำในการแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ด้วย
- สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อยู่ติดกับสวนรถไฟ มีพื้นที่ 196 ไร่ เป็นสถานที่รวบรวมและอนุรักษ์พันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการศึกษาและสืบทอดการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชท้องถิ่นไทยที่หาได้ยาก
- สวนจตุจักร พื้นที่ 155 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นสนามหญ้า เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ
- สวนวารีภิรมย์ ถนนประชาร่วมใจ 47 มีพื้นที่ 121 ไร่ เป็นพื้นที่แก้มลิงรับน้ำของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
- สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (บางบอน) มีเนื้อที่ 100 ไร่ เป็นปอดแห่งใหม่ของคนฝั่งธนบุรี ดำเนินการออกแบบภายใต้แนวคิด “สวน 9 เนิน เดินตามรอยพ่อ”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ไปรษณีย์ไทย – จุฬาฯ เปิด e-Transcript ขอใบรับรองผ่าน Prompt Post แห่งแรก
ผลสำรวจ Microsoft ชี้องค์กรไทย ‘ตึงเครียด’ ผู้นำคาดหวังสูง-พนักงานหมดไฟ