สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมาย GENIUS และร่างกฎหมาย CLARITY เปรียบได้กับชัยชนะของโลกคริปโทฯ และสองพรรคการเมืองที่เหนือความคาดหมาย ถือเป็นยุคใหม่ของการกำกับดูแลคริปโทเคอร์เรนของสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2025 สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล 3 ฉบับ ซึ่งผู้นำอุตสาหกรรมต่างยกให้เป็นการพัฒนาด้านกฎระเบียบที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่มีการสร้าง Bitcoin การลงคะแนนเสียงครั้งนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของการสนับสนุนมาหลายปี และแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนไปสู่การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะองค์ประกอบหลักของอนาคตทางการเงินของอเมริกา
กฎหมาย 3 ฉบับที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี
- GENIUS Act เป็นกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin ได้ถูกส่งต่อไปยังประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากทั้งสองพรรค ร่างกฎหมายนี้จะกลายเป็นกฎหมายสกุลเงินดิจิทัล ฉบับแรกที่รัฐสภาออก โดยกำหนดให้มีการกำกับดูแลระดับรัฐบาลกลางสำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่หนุนด้วยเงินดอลลาร์ ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อัปเดตเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2025 – ที่มา DefiLlama)
- CLARITY Act กำลังจะถูกส่งไปยังวุฒิสภา ซึ่งประธานคณะกรรมการการธนาคาร Tim Scott ได้ให้คำมั่นว่าจะเร่งรัดการผ่านให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน กฎหมายนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาที่ค้างคามานานว่าสินทรัพย์ดิจิทัลควรถูกกำกับดูแลเป็นหลักทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะให้ความแน่นอนด้านกฎระเบียบที่อุตสาหกรรมนี้ต้องการมานานกว่าทศวรรษ
- Anti-CBDC Surveillance State Act หรือมาตรการต่อต้าน CBDC ที่แม้ว่า แนวโน้มในวุฒิสภาจะยังไม่แน่นอนก็ตาม ข้อกำหนดต่อต้าน CBDC จะถูกแนบไปกับร่างกฎหมาย National Defense Authorization Act ที่ต้องผ่าน หลังจากการเจรจาอย่างเข้มข้นกับ House Freedom Caucus เนื่องจากร่างฉบับนี้เป็นความพยายามในการห้ามธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ให้ออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) สำหรับประชาชนโดยตรง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ชัยชนะจาก Crypto Week
French Hill ประธานคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะของ pro-cryptocurrency แสดงความพึงพอใจอย่างมากระหว่างการ แถลงข่าวหลังการลงคะแนนเสียง โดยประกาศว่าเขาได้แซงหน้าร่างกฎหมาย FIT21 ของปีที่แล้วในด้านขอบเขตและผลกระทบ โดย Hill กล่าวว่า “ผมเดิมพันกับตัวเองว่าจะเอาชนะ FIT21 และผมชนะ” นอกจากนี้ยังมีกลุ่มพันธมิตรจากสองพรรคซึ่งเป็นผู้ผลักดันร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณาในคณะกรรมการและการอภิปรายในสภามานานหลายเดือน
การแสดงออกถึงความเป็นเอกภาพของสองพรรคที่หาได้ยากนี้ปรากฏให้เห็นในการนับคะแนนเสียง โดยทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันต่างร่วมมือกัน แม้จะมีความแตกแยกทางการเมืองที่กว้างขึ้นก็ตาม ประธานคณะกรรมการเกษตรของสภาผู้แทนราษฎรอย่าง GT Thompson, วิปเสียงข้างมากอย่าง Tom Emmer, Brian Steil และ Dusty Johnson ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลัก ได้เน้นย้ำว่ากฎหมายนี้อยู่เหนือเส้นแบ่งพรรคการเมือง
ฟีดแบคของผู้คนในโลกคริปโทเคอร์เรนซีและผู้กำกับดูแลเป็นอย่างไร
ปฏิกิริยาจากผู้บริหารในตลาดคริปโทฯ แสดงออกมาในแนวทางบวกและมีความยินดี โดยหลายคนกล่าวว่าช่วงเวลานี้เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินของอเมริกา
- Dante Disparte ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Circle ผู้ออกเหรียญ USDC ยกย่องการลงคะแนนเสียง GENIUS Act ว่า “เป็นการยืนยันความพยายามในการสนับสนุนของอุตสาหกรรมมาหลายปี เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าอเมริกาจะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการชำระเงินที่หนุนด้วยเงินดอลลาร์”
- Nathan McCauley ซีอีโอของ Anchorage Digital ผู้ออกเหรียญ USDtb ของ Ethena เน้นย้ำถึงนัยทางเศรษฐกิจในวงกว้าง “จะทำให้ชาวอเมริกันทุกคนได้รับประโยชน์จากกฎหมายนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะถือคริปโทหรือไม่ก็ตาม เรากำลังเสริมสร้างการเข้าถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากทั่วโลกพร้อมกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแห่งอนาคต”
- Ji Hun Kim ซีอีโอของ Crypto Council for Innovation ร่วมแสดงความยินดีในชัยชนะครั้งนี้ “นี่คือการประกาศของอเมริกาว่าเราจะเป็นผู้นำการปฏิวัติสินทรัพย์ดิจิทัล การผ่านร่างกฎหมาย GENIUS ไม่ใช่แค่เพียงนโยบาย แต่เป็นการเปิดตัวยุคทองใหม่ของนวัตกรรมบล็อกเชน”
แม้จะมีกลุ่มคนที่สนับสนุนและร่วมแสดงความยินดีกับการร่างกฎหมาย GENIUS Act แต่ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่แสดงท่าทีแตกต่างกัน โดยพวกเขาส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับนวัตกรรมมากกว่าการคุ้มครอง
- Chuck Bell จาก Consumer Reports เตือนว่าร่างกฎหมาย GENIUS Act ยังขาดหลักประกันที่จำเป็น “ผู้บริโภคสมควรได้รับการคุ้มครองที่แท้จริงเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่เหมือนเงินสดดิจิทัล กฎหมายนี้ไม่ได้ให้ความปลอดภัย”
- Mark Hays จาก Americans for Financial Reform วิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน โดยกล่าวว่า “ลงคะแนนเสียงครั้งนี้เป็นชัยชนะของการล็อบบี้ของอุตสาหกรรมคริปโทเหนือผลประโยชน์ของผู้บริโภคการใช้จ่ายทางการเมืองจำนวนมหาศาลของอุตสาหกรรมกำลังจะได้รับการกำกับดูแลแบบผ่อนปรน ซึ่งจะทำให้ปัญหาที่ฝังแน่นของคริปโทกลายเป็นเรื่องปกติทั่วทั้งระบบการเงิน”
การเดินหน้าสู่ด่านของวุฒิสภา
ท่ามกลางความยินดี แต่คงต้องไม่ลืมว่าการผ่านร่างกฎหมายนี้ยังคงมีอีกหนึ่งด่านที่ต้องผ่านไปให้ได้คือ วุฒิสภา โดยจะต้องผ่านคณะกรรมการการธนาคารและการเกษตรของวุฒิสภา ซึ่งเป็นความท้าทายด้านอำนาจศาลที่ซับซ้อนซึ่งทำให้กฎหมายคริปโทฯ ฉบับก่อนหน้าต้องล้มเหลว
Tim Scott ประธานคณะกรรมการการธนาคารของวุฒิสภาได้ให้คำมั่นว่าจะผ่านร่างกฎหมายนี้ภายในเดือนกันยายน แต่กรอบเวลาของคณะกรรมการเกษตรยังไม่ชัดเจน โครงสร้างคณะกรรมการคู่สะท้อนให้เห็นถึงการถกเถียงอย่างต่อเนื่องว่าสินทรัพย์ดิจิทัลควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลหลักทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์
ผลกระทบต่อตลาดและผลกระทบระดับโลก
ตลาดการเงินตอบสนองเชิงบวกต่อความคืบหน้าด้านกฎหมาย โดยสกุลเงินดิจิทัลหลักๆ มีกำไรเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ถึงความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบที่ลดลง ตลาด Stablecoin ที่อ้างอิงสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งถูกครอบงำโดย USDC ของ Circle และ USDT ของ Tether มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเมื่อความชัดเจนเกี่ยวกับการกำกับดูแลของรัฐบาลกลางใกล้เข้ามา
นอกจากนี้ยังสามารถเห็นความซับซ้อนอีกประการได้คือเรื่องความซับซ้อนทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากสหรัฐฯ พยายามรักษาความเป็นผู้นำในการเงินโลกท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากหยวนดิจิทัลของจีนและกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงต่อไปในระยะยาวด้วยเช่นกัน คือ ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งหาเสียงด้วยนโยบายที่เอื้อต่อคริปโทฯ ที่มีการลงนามในร่างกฎหมาย GENIUS Act อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สำหรับกฎหมายสกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาลกลาง พิธีลงนามดึงดูดผู้นำอุตสาหกรรมและบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการทำให้อเมริกาเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับนวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
ทางด้าน CLARITY Act การผ่านวุฒิสภายังคงเป็นบททดสอบที่สำคัญ ผู้ล็อบบี้อุตสาหกรรมกำลังระดมกำลังเพื่อรณรงค์อย่างเข้มข้น ในขณะที่กลุ่มผู้บริโภคเตรียมพร้อมสำหรับการผลักดันการสนับสนุนของตนเอง ผลลัพธ์จะกำหนดว่า “Crypto Week” นี้จะนำมาซึ่งกรอบการกำกับดูแลที่ครอบคลุมที่อุตสาหกรรมต้องการมานานได้อย่างยั่งยืนหรือไม่
คำเตือน คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
ประเทศปลอดภาษีกำไรจากการขายทรัพย์สินดิจิทัล (Capital Gains) ทั่วโลกข้อมูลและแนวโน้มสำหรับปี 2025