Share on
×

Share

กรุงศรีออโต้เปิดศึกรถมือสอง ลั่นชิงแชร์ 1 ใน 3 ผ่าน Go Auto Station

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางและกำลังซื้อที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดสินเชื่อยานยนต์มือสองอย่างหนัก กรุงศรี ออโต้ ได้เคลื่อนไหวครั้งสำคัญเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว ด้วยการเปิดตัว “Go Auto Station” แพลตฟอร์มตลาดรถมือสองออนไลน์ภายใต้แนวคิด “เรื่องเงิน เรื่องรถ ครบจบในที่เดียว”

คงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้าหมายที่จะครองความเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อรถยนต์มือสองด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 1 ใน 3 พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม โดย Go Auto Station จะเป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อลูกค้าและพันธมิตรดีลเลอร์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด โดยลูกค้าจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว และมั่นใจในคุณภาพรถ ขณะที่ดีลเลอร์จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ตลาดรถมือสองและเศรษฐกิจไทยเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

Go Auto Station บนแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto พัฒนาเพื่อกระตุ้นตลาดและตอบโจทย์เทรนด์ของลูกค้าที่ใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น กรุงศรี ออโต้ ตั้งใจให้ Go Auto Station เป็นตลาดรถมือสองที่ครบวงจรแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

โดยชูจุดเด่นสำคัญคือความ สะดวก (Convenient) ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหารถ เปรียบเทียบข้อมูล และใช้ฟิลเตอร์กรองตัวเลือกต่าง ๆ เช่น แบรนด์ รุ่นรถ ราคา และปี ได้อย่างละเอียด ทำให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

ตามมาด้วยความ รวดเร็ว (Fast) ที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบวงเงินและขอสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล “พร้อมสตาร์ท” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ไวภายใน 30 นาที และทำให้สามารถออกรถจากเต็นท์ได้ทันที

ปิดท้ายด้วยความ ครบจบ (Complete) ด้วยการรวบรวมรถยนต์กว่า 218,000 คันจากดีลเลอร์ทั่วประเทศ ซึ่งเติบโตขึ้นจาก 130,000 คันในปีที่แล้ว พร้อมด้วยรถที่ผ่านการตรวจสภาพและจัดเกรด (Quality Grading) จากพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงบริการสินเชื่อ ประกันภัย และการดูแลรักษาแบบครบวงจร

ภาพรวมตลาดรถมือสอง

คงสิน กล่าวว่า ตลาดรถยนต์มือสองในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ยอดขายรถมือสองลดลงประมาณ 5% แต่สินเชื่อรถมือสองกลับลดลงถึง 23% และคาดว่าตลอดทั้งปีจะยังคงลดลง 19% คิดเป็นมูลค่าตลาดสินเชื่อรวมประมาณ 6 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ปริมาณรถยนต์มือสองในตลาด (Supply) ยังลดลงไปราว 10% ด้วย 3 เหตุผลหลัก คือ ยอดขายรถใหม่ที่ชะลอตัวทำให้ไม่มีรถเก่ามาเทิร์น คุณภาพของลูกค้าที่ดีขึ้นทำให้ไม่ต้องการขายรถ และนโยบายของสถาบันการเงินที่เน้นการช่วยเหลือลูกค้ามากกว่าการยึดรถ

สำหรับทิศทางของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มือสองนั้นยังคงต้องรอเวลา แม้กระแสรถยนต์ไฟฟ้าจะมาแรง แต่สำหรับตลาดรถมือสองยังถือเป็นเรื่องอนาคต

ปัจจุบันรถ EV บนแพลตฟอร์ม Go Auto Station ยังมีสัดส่วนที่น้อยมาก เหตุผลหลักคือรถ EV ที่จำหน่ายในประเทศไทยส่วนใหญ่เพิ่งเริ่มได้รับความนิยมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และยังไม่ครบวงจรอายุการใช้งานปกติซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5-7 ปี ทำให้รถเหล่านี้ยังไม่ถูกเปลี่ยนมือเข้าสู่ตลาดรองมากนัก

กรุงศรี ออโต้ คาดการณ์ว่าจะเริ่มเห็นรถ EV มือสองในตลาดมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2571 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ดีลเลอร์รถมือสองยังมีความไม่มั่นใจในการตั้งราคาขายต่อของรถ EV ทำให้รถยนต์ส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มยังคงเป็นรถยนต์สันดาป โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด

ด้านแนวโน้มดอกเบี้ย กรุงศรี ออโต้ จะยังคงอิงตามกลไกตลาดเป็นหลัก แต่ในสภาวะปัจจุบัน บริษัทไม่ได้มุ่งเน้นการแข่งขันด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคในขณะนี้ คือ “โอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อ” มากกว่า ดังนั้น กลยุทธ์ของบริษัทจึงมุ่งไปที่การเพิ่มโอกาสทางการเงิน (Financial Inclusion) ให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีข้อจำกัด หรือกลุ่มที่อาจไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อรถใหม่ได้ เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพและดำรงชีวิตได้

โมเดลรายได้หลักของ Go Auto Station นั้นมาจากากรปล่อยสินเชื่อที่เกิดขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ดีลเลอร์ที่อาจมีความยากลำบากในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มดิจิทัลที่ปัจจุบันมีสัดส่วนสูงถึง 80% ของผู้ซื้อรถมือสอง ขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับกรุงศรี ออโต้ ไปพร้อมกัน

เพื่อตอกย้ำการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค กรุงศรี ออโต้ เปิดเผยว่าปัจจุบันสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทอยู่ที่ 44% และด้วยแนวโน้มที่คนไทยหันมาทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น บริษัทจึงตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการผลักดันสัดส่วนนี้ให้เติบโตเกิน 50% ในอนาคตอันใกล้ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำและตอบสนองความต้องการของตลาดยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

แรงขับเคลื่อนสำคัญ (Driving Force) 2 ประการที่มีอิทธิพลต่อตลาดยานยนต์ในปัจจุบัน คือ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปกับการเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจ

ข้อมูลล่าสุดจาก We are Social ระบุว่า ประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสูงถึง 94.3% และน่าสนใจอย่างยิ่งว่า คนไทยครองอันดับ 1 ของโลกในการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ถึง 68.2% โดยในตลาดรถมือสอง พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนจากการค้นหาออนไลน์และไปจบที่ออฟไลน์ (O2O) มาเป็นการทำธุรกรรมทั้งหมดผ่านช่องทางออนไลน์ถึง 80%

การคาดการณ์จาก Goldman Sachs Research ชี้ว่า GDP ของไทยในปีนี้จะเติบโตเพียง 2.1% และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงในช่วงปลายปี ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ต้องยั่งยืน: แก่นคิดการตลาดยุคใหม่

กลยุทธ์มัดใจลูกค้า Gen Z: ถอดบทเรียนจาก WGSN กูรูเทรนด์โลก

×

Share

ผู้เขียน