Share on
×

Share

เปิด 3 เหตุผล หนุนหุ้นจีนทำ New High ไปได้ต่อ

หลายปีที่ผมเชียร์หุ้นจีน ทั้งที่เวลานั้นไม่มีใครพูดถึงตลาดหุ้นแดนมังกรสักเท่าไร และมักจะได้รับคำถามกลับมาเสมอ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนะครับ เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนถือเป็น ‘ตลาดที่น่าผิดหวัง’ สำหรับนักลงทุนจำนวนไม่น้อย เพราะต้องเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจภายในประเทศ วิกฤติในภาคอสังหาริมทรัพย์ และความไม่แน่นอนด้านนโยบายของภาครัฐ  หลายคนที่เคยลงทุนหุ้นจีนมาก่อนหน้าต่างก็ยังมีบาดแผล

แต่การลงทุนระยะยาว คือบททดสอบความอดทน  และรางวัลของความอดทน สวยงามเสมอจริงไหมครับ

เพราะในปี 2568 นี้เอง หลายคนได้เห็นภาพที่เปลี่ยนแปลงไป… หุ้นจีนทะยานขึ้นทำจุดสุดสูงใหม่ (New High) ในรอบ 10 ปี สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดโลก

  • ดัชนี SSE (Shanghai Stock Exchange) ปรับขึ้นมาแล้ว 19.03% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) โดย ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2568 SSE ยังทำ New High ต่อเนื่องที่ระดับ 3,883.56 จุด สูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558
  • ดัชนี CSI 300 (Shanghai Shenzhen CSI 300) ที่เป็นศูนย์รวมหุ้นจีนยักษ์ใหญ่ ปรับขึ้นมาแล้ว 16.98% YTD โดย ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2568 CSI 300 ยังทำ New High ต่อเนื่องที่ระดับ 4,469.22 จุด สูงสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565

เวลานี้ผมได้รับคำถามที่แตกต่างไปจากเดิมแล้วครับ เพราะสิ่งที่คำถามที่นักลงทุนส่วนใหญ่สงสัยก็คือ… ตอนนี้หุ้นจีนยังลงทุนได้อยู่หรือไม่?

ผมจะมาไขคำตอบพร้อมอธิบายว่าทำไมหุ้นจีนยังน่าจับตาอย่างยิ่งในระยะข้างหน้า

หุ้นจีน ‘ยังถูก’ 

แม้ดัชนีตลาดหุ้นจีนจะขยับขึ้นแรง แต่เมื่อมองจากมุมมองระดับราคา (Valuation) หุ้นจีนยังถือว่า ‘ราคาถูก’ เมื่อเทียบกับตลาดหลักทั่วโลก

การขึ้นของดัชนีครั้งนี้ไม่ได้สะท้อนถึงการแพงเกินจริง แต่ต้องถือว่าเป็นการ ‘กลับมาใกล้เคียงมูลค่าที่ควรจะเป็น’ มากกว่า นี่จึงเป็นสัญญาณว่านักลงทุนยังมี ‘โอกาสขาขึ้น’ (Upside) ในการเข้ามาลงทุนหุ้นจีน

พามาดูปัจจัยที่ทำให้หุ้นจีนยังถูก

  1. เศรษฐกิจจีนยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว: การเติบโต GDP ยังต่ำกว่าศักยภาพของประเทศ และอยู่ในช่วงตอบรับกับมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล มีโอกาสฟื้นและเติบโตได้อีกในอนาคต
  2. มูลค่ายังค่อนข้างถูก (Valuation Discount): นักลงทุนทั่วโลกประเมินมูลค่าหุ้นจีนต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับตลาดอื่น เนื่องจากความเสี่ยงด้านนโยบาย (Policy Risk Discount) ของรัฐบาลจีนที่คาดเดาได้ยาก และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk Discount) อย่างสงครามการค้ากับสหรัฐ

    ทำให้ตลาดหุ้นจีน ซื้อขายที่ระดับ P/E Ratio ต่ำกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดพัฒนาแล้วอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าบริษัทจีนจำนวนมากจะมีอัตราการเติบโตของกำไรที่สูงกว่าก็ตาม

    ผมยังได้ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์เรื่องนี้ โดย Market Prediction ซึ่งเป็น AI ของ Jitta Wealth ที่ใช้วิเคราะห์ความถูกแพงของตลาดหุ้นโดยการดูสัดส่วนหุ้นคุณภาพที่ราคาถูกต่อหุ้นคุณภาพที่ราคาแพงแล้วในตลาด  ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2568  ซึ่ง AI ก็พบว่าเวลานี้ตลาดหุ้นจีนมีสัดส่วนหุ้นถูกมากกว่าหุ้นแพงถึง 7 เท่า  
  3. กระแสเงินในประเทศ และ Smart Money หนุนตลาด หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ตลาดหุ้นจีนพุ่งทำ New High คือ กระแสเงินทุน (Fund Flow) ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง  จากพฤติกรรมของคนจีนที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเองครับ

หากยังจำกันชื่อของ Evergrande กันได้ น่าจะพอนึกภาพการล้มละลายในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ส่งผลกระทบลุกลามตามมาอีกมากในครั้งนั้น  ทำให้พฤติกรรมชาวจีนเปลี่ยนแปลงไป จากในอดีตที่ชาวจีนนิยมลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่เมื่อเกิดวิกฤติในตลาดอสังหาฯ  ทำให้นักลงทุนโยกเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นแทน  ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดต่ำลง ทำให้นักลงทุนหันมามองตลาดหุ้นเป็นทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น

Smart Money ชี้ว่าจุดต่ำสุดผ่านไปแล้ว

Smart Money หรือเงินทุนของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างนักลงทุนสถาบัน เช่น ธนาคาร หรือกองทุนรวมต่างๆ เริ่มกลับเข้ามาในตลาดและให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นจีน

หากอิงตาม ‘วัฏจักรการลงทุน’ (Market Cycle) กระแสเงินทุนก้อนนี้เป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่า หุ้นจีนผ่านช่วงเวลาแห่ง ‘ความท้อแท้’ (Despondency) ไปแล้ว และพร้อมจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง

ผมยังเชื่อว่าตลาดหุ้นจีนยังมีโอกาสเติบโตในระยะยาว หากคุณเป็นนักลงทุนระยะยาวแล้วการจะเข้าลงทุนตอนนี้ผมก็เชื่อว่ายังทันแน่นอน

เพราะแม้ตลาดหุ้นจีนอย่าง SSE จะพุ่งทำ New High ในรอบ 10 ปีแล้ว แต่มันไม่ได้หมายความว่า ‘โอกาสหมดไป’ ตรงกันข้าม ปัจจัยหลายอย่างยังบอกชัดว่ามีโอกาสเติบโตได้อีก ไม่ว่าจะเป็นในแง่มูลค่าหุ้น (Valuation) ที่ยังถูก Fund Flow จากนักลงทุนภายในประเทศ และเม็ดเงินจากต่างชาติที่เริ่มกลับเข้าตลาดหุ้น

ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวในหุ้นต่างประเทศ หุ้นจีนยังคงเป็น ‘ทางเลือกที่น่าสนใจ’ ครับ

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

พาพอร์ตฝ่าทุกวิกฤติสงคราม ด้วย Mindset แบบ Warren Buffett

โต้คลื่นการลงทุนอย่างมั่นใจ ด้วยหลักคิดแบบ Surfer Mindset

×

Share

ผู้เขียน