Share on
×

Share

สกสว. ทุ่ม 1.9 หมื่นล้าน ปั้น ‘งานวิจัยกินได้’ แก้ปัญหาปากท้อง

สกสว. ประกาศทิศทางงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) ประจำปี 2570 วงเงินราว 19,000 ล้านบาท มุ่งเป้าปฏิรูปการจัดสรรทุนครั้งใหญ่ เน้นสร้าง “งานวิจัยที่จับต้องได้” แก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ ตั้งแต่หนี้ครัวเรือน PM2.5 ไปจนถึงการสร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พร้อมตั้งเป้าผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย 3.9 เท่า ขับเคลื่อน GDP ประเทศ

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการจัดทำคำของบประมาณปี 2570 แก่หน่วยงานในระบบววน. ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการเปลี่ยนโฉมหน้างบประมาณด้านการวิจัยของไทยให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม

ทลายกรอบงบประมาณเดิมสู่การลงทุนที่ยืดหยุ่น

ศาสตราจารย์ดร.นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) เปิดเผยว่า การจัดสรรงบประมาณปี 2570 จะเปลี่ยนจากการให้ทุนแบบรายปีที่อาจไม่ต่อเนื่อง ไปสู่รูปแบบที่ยืดหยุ่นขึ้น เช่น การจัดสรรงบประมาณแบบหลายปี (Multi-year Funding) และ การให้เงินทุนแบบก้อน (Block Grant) เพื่อให้หน่วยงานวิจัยสามารถวางแผนโครงการระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อน และมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์สุดท้ายที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ

“เราต้องการให้แน่ใจว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงไปในงานวิจัย จะต้องสร้างผลลัพธ์ที่มองเห็นได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน หรือการแก้ปัญหาสังคมที่เรื้อรัง” ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าว

ชูธงกลยุทธ์ ‘SILK’ ขับเคลื่อนงานวิจัยสู่เป้าหมาย

ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวเสริมว่า เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “SRI for All” ที่มุ่งเสริมศักยภาพให้ทุกภาคส่วน สกสว. จะขับเคลื่อนภารกิจผ่านกลยุทธ์หลักที่เรียกว่า “SILK” ประกอบด้วย:

  • S (Synergy & Boundaryless): ผสานพลังความร่วมมืออย่างไร้รอยต่อ สร้างเครือข่ายนักวิจัยและผู้ใช้งานทั้งในและต่างประเทศ
  • I (Intelligent SRI System): พัฒนาระบบบริหารจัดการที่ชาญฉลาด รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
  • L (Leap Technology Investment): ลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้าง New S-Curve ใหม่ๆ ให้กับประเทศ เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
  • K (Knowledge Governance): ผลักดันให้นำองค์ความรู้และงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริงในระดับพื้นที่และระดับประเทศ

9 เป้าหมายรูปธรรมที่คนไทยจะได้รับ

ไฮไลต์สำคัญของการจัดสรรงบประมาณครั้งนี้ คือการตั้งเป้าหมายเชิงผลลัพธ์ที่ชัดเจนและวัดผลได้ เพื่อให้ประชาชนเห็นภาพว่างานวิจัยจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นได้อย่างไร ตัวอย่างเป้าหมายสำคัญ ได้แก่:

  • นวัตกรรมการแพทย์: สร้างรายได้ 1,500 ล้านบาท จากการผลิตและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และยาที่ผลิตในไทย ทำให้คนไทยกว่า 8.5 ล้านคนเข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีขึ้น
  • สุขภาพคนไทย: ลดการเสียชีวิตจากมะเร็งท่อน้ำดี และตั้งเป้าให้ประเทศไทยปลอดโรคพยาธิใบไม้ตับในพื้นที่เสี่ยง
  • เกษตรส่งออก: ช่วยให้สินค้าเกษตร 7 ชนิด มูลค่าส่งออกกว่า 26,000 ล้านบาท ผ่านมาตรฐาน EUDR ของสหภาพยุโรปได้แบบไร้อุปสรรค
  • ลดความเหลื่อมล้ำ: เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและครัวเรือนชนบทกว่า 32,000 ครัวเรือน ผ่านเทคโนโลยีที่เหมาะสม
  • สู้ภัยฝุ่น PM2.5: ลดจำนวนวันที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และลดจุดความร้อน (Hotspot) จากการเผาให้เหลือน้อยกว่า 5,000 จุดต่อปี
  • จัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง: แก้ปัญหาใน 100 ตำบล 10 จังหวัด ลดผลกระทบต่อประชาชนกว่า 120,000 ครัวเรือน และประหยัดงบประมาณรัฐได้ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท
  • ปั้นคนสู่อนาคต: พัฒนากำลังคนทักษะสูงด้าน Semiconductor, EV และ AI ให้ตรงตามความต้องการของตลาด
  • สร้างธุรกิจนวัตกรรม: สนับสนุนให้เกิดธุรกิจที่สร้างรายได้จากนวัตกรรมรวมกว่า 5,000 ล้านบาท
  • พัฒนาเยาวชน: ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และสมรรถนะสูงให้เด็กและเยาวชน 20,000 คนใน 7 จังหวัดเป้าหมาย

“เวทีนี้ไม่ใช่แค่การชี้แจงงบประมาณ แต่เป็นการส่งสัญญาณว่า ระบบวิจัยและนวัตกรรมของไทยพร้อมที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสมดุลและยั่งยืน เรามุ่งหวังให้เกิดการเติบโตบนฐานของประสิทธิภาพ (Efficiency Growth) เพื่อยกระดับประเทศไทยในเวทีโลก” ศ.ดร.สมปอง กล่าวสรุป

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

‘บอทน้อย’ เปิดวิสัยทัศน์ ‘AI Agent’ พลิกโฉมวงการสาธารณสุขไทย

Girl in STEM: ปลดล็อกศักยภาพปั้นนักนวัตกรรมหญิงไทยสู่วงการวิทย์

×

Share

ผู้เขียน