“คอนเทนต์” คือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ของเหล่าครีเอเตอร์ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนเสพข่าวสาร ข้อมูล คอนเทนต์จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ อาวุธติดมือของเหล่าผู้สร้างสรรค์เรื่องราวเพื่อดึงดูดผู้ชมให้เข้ามาสนใจ ซึ่งที่ผ่านมามีคอนเทนต์หลายประเภทที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้มหาศาล หนึ่งในนั้นคือคอนเทนต์ประเภทวิดีโอที่มาแรง และคาดว่าในปี 2025 วิดีโอคอนเทนต์ก็ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการสื่อสารที่สามารถสร้างความสนใจและมีส่วนร่วมกับผู้ชมต่อไปได้
เป็นที่มาของการเรียนรู้เทคนิค เพื่อนำไปสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่นของกลุ่มครีเอเตอร์ ภายในงาน ICREATOR 2024 ในหัวข้อ “CONTENT CREATION MASTERY สูตรลับปั้นคอนเทนต์สไตล์ Go Went Go” ได้บาส-ภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ มาเปิดเทคนิคพิเศษที่จะช่วยผู้สร้างคอนเทนต์ทั้งหลายคิดไอเดียสร้างวิดีโอกันได้ง่ายขึ้นจาก 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ หนึ่งสถานที่ หลายมุมมอง (One Place, Many Perspectives), ถ่ายทอดความเรียลผ่านการถ่ายแบบ Vlog, การใช้ Storytelling และการสร้าง Visual ให้ดึงดูด แต่ละอย่างจะมีรายละเอียดอย่างไรไปดูกันเลย
รู้จักช่อง Go Went Go กันก่อน
ช่อง Go Went Go จากภาณุภัทร์โดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวรอบโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจผ่านมุมมองและการนำเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ สไตล์การถ่ายทำแบบ Vlog ท่องเที่ยวทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมกับประสบการณ์จริง ทั้งยังมีการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ ผสมผสานเกร็ดความรู้เกี่ยวกับสถานที่ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ จุดเด่นอีกประการคือคุณภาพของภาพและวิดีโอที่สวยงาม ซึ่งถ่ายทอดความประทับใจของสถานที่ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ช่องยังแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยหลีกเลี่ยงการนำเสนอเนื้อหาที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อพื้นที่หรือชุมชน
Content is King ใช้ไปตลอดไป
ต้องขอย้อนกลับไปตั้งแต่อดีตมาว่า คอนเทนต์ล้วนเคยเกิดขึ้นมามากมายแล้วบนโลก นั่นหมายความว่าการจะสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ สมัยนี้นั้นมีจำนวนน้อย ทำได้ค่อนข้างยาก เทคนิคที่คนส่วนใหญ่ใช้จึงเป็นการผสมผสนหรือปรับเปลี่ยนแง่มุมของคอนเทนต์นั้น ๆ ให้แปลกใหม่เพื่อเล่าออกมาแทน
ภาณุภัทร์เชื่อว่าไม่ว่าคุณจะถ่ายทำไม่เก่ง หรือไม่ได้มีทีมโปรดักชัน (Production) ใหญ่โต ถ้าคอนเทนต์มีคุณค่าและน่าสนใจ คนดูก็จะชื่นชอบและช่วยผลักดันให้ช่องเติบโตได้ไกล ความท้าทายอยู่ที่การทำคอนเทนต์ในโลกปัจจุบันที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรใหม่
ภาณุภัทร์เสนอให้แบ่งคอนเทนต์ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่
- คอนเทนต์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อย่างช่อง Go Went Go ถ้าให้ยกตัวอย่างคอนเทนต์ประเภทนี้ก็อย่างเช่น การไปสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักหรือเคยไปมาก่อน สถานที่ที่เดินทางยากหรือมีความอันตราย ร้านอาหารหรือสถานที่เปิดใหม่ การทำคอนเทนต์ลักษณะนี้แม้จะยากและใช้ความพยายามสูง แต่ก็เป็นโอกาสที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับช่องได้ เช่น กรณีที่คุณบาสไปถ่ายทำเมืองจีนโบราณที่มีน้ำตก ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่กลุ่มคนไทยยังไม่เคยนำเสนอมาก่อน
- คอนเทนต์ที่มีอยู่แล้วแต่นำเสนอมุมมองใหม่ (Rewrite Content) คือการนำเรื่องราวหรือแนวคิดที่มีอยู่แล้วบนโลก มาตีความใหม่หรือสื่อสารในมุมที่แตกต่าง ตัวอย่างเช่น การนำเสนอทริป “เที่ยวโตเกียว 2024 แบบไม่มีแพลน” ซึ่งเน้นความเรียลและประสบการณ์ที่ไม่คาดคิด ผลคือยอดวิวพุ่งเกือบล้าน เพราะผู้ชมรู้สึกว่าน่าสนใจและใกล้เคียงชีวิตจริง ได้ลุ้นผลลัพธ์ที่ออกมาจากการเที่ยวแบบไม่มีการวางแผน
ภาณุภัทร์ย้ำว่า “Content is King หรือคอนเทนต์คือหัวใจสำคัญของทุกสิ่ง” ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ใหม่หรือคอนเทนต์ที่มีอยู่แล้ว จึงได้นำเทคนิคพิเศษมาฝากเหล่าครีเอเตอร์ทุกคน เกี่ยวกับ 4 องค์ประกอบที่สำคัญหากอยากสร้างวิดีโอคอนเทนต์ให้ผู้ชมชื่นชอบ แม้จะไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัวแต่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะเรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับช่องของตนเอง
4 เทคนิคสร้างและ Rewrite คอนเทนต์แบบ Go Went Go
สำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์หรืออยากพัฒนาช่องของตัวเองอยากให้ลองเรียนรู้เทคนิคที่ใช้จริงในช่อง Go Went Go ใช้ตลอดการสร้างวิดีโอคอนเทนต์เพื่อสร้างมุมมองใหม่ให้คอนเทนต์โดดเด่นและเชื่อมโยงกับผู้ชม ได้แก่
- หนึ่งสถานที่ หลายมุมมอง (One Place, Many Perspectives) : หัวใจสำคัญของการรีไรท์คอนเทนต์คือการมี Main Idea ที่เป็นแกนหลักของเรื่องราวตัวอย่างเช่น หากคุณเดินทางไปยังกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย คุณสามารถสร้างคอนเทนต์หลากหลายจากมุมมองเดียว เช่น การสำรวจอาหารสตรีทฟู้ดที่ไม่เหมือนใคร การเยี่ยมชมสถานที่ลึกลับหรือเรื่องเล่าที่น่ากลัว หรือการเดินตามรอยภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศอินเดีย เป็นการมองสถานที่เดิมในมุมใหม่เพิ่มมิติและความน่าสนใจให้กับวิดีโอเล่าเรื่องที่ทำให้ผู้ชมมองสถานที่นั้นแตกต่างออกไปและได้รับความสนุกไปพร้อมๆ กัน
- ถ่ายทอดความเรียลผ่านการถ่ายแบบ Vlog : จุดเด่นของการถ่ายแบบ Vlog คือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมและผู้สร้าง ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนได้สำรวจสถานที่ไปพร้อมกับคุณ อีกทั้งยังช่วยให้คอนเทนต์ดูจริงใจและเป็นธรรมชาติไม่ใช่แค่การเดินถือกล้องแล้วบอกเล่าเรื่องราว แต่คือการเชื่อมโยงความรู้สึกของผู้ชมกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง คุณบาสเล่าว่าทุกครั้งที่ถือกล้องออกไปถ่ายทำจะไม่ไปสำรวจพื้นที่จริงก่อนเพราะอยากเก็บบรรยากาศและความรู้สึก ณ ช่วงเวลานั้นไว้จริงๆ ทำให้เหมือนได้ไปในสถานที่นั้นครั้งแรกพร้อมกับผู้ชม
- เติมเสน่ห์ด้วย Storytelling : การใช้การเล่าเรื่องเป็นส่วนที่ช่วยให้คอนเทนต์มีมิติและดึงดูดความสนใจจากผู้ชมมากขึ้น เพียงเล่าเรื่องแบบสั้นๆ สนุก แทรกไปกับวิดีโอคอนเทนต์ที่กระชับแต่จับใจ จะช่วยให้วิดีโอแตกต่างและเพิ่มคุณค่ามากขึ้นกว่าการบอกเล่าเพียงแค่สิ่งที่เห็น เช่น เพิ่มเกร็ดความรู้เกี่ยวกับสถานที่ เช่น ประวัติศาสตร์หรือเรื่องเล่าที่น่าสนใจ หรือใช้เทคนิคการตัดต่อ โมชั่นกราฟิก เพื่อช่วยให้ข้อมูลดูเข้าใจง่ายขึ้น
- ใช้ Visual ที่ดึงดูดและแสดงมุมบวก : การนำเสนอเรื่องราวที่สวยงามภาพที่ตรงใจเสมือนการสร้างปกหนังสือให้น่าอ่านมันจะช่วยทำให้คอนเทนต์วิดีโอของเราดึงดูดผู้ชมได้มากขึ้น อย่างการถ่ายภาพมุมกว้างที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่ให้เหมือนผู้ชมได้เข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ การถ่ายวิดีโอที่เน้นความสวยงามและสื่อสารเรื่องเชิงบวก ลดการพูดถึงมุมลบของสถานที่เพื่อป้องกันผลกระทบต่อพื้นที่
หลังจากสร้างคอนเทนต์แล้ว ขั้นตอนสำคัญคือการส่งต่อให้ผู้ชมในแบบที่สะท้อนตัวตนของคุณ อย่าลืมใส่เอกลักษณ์ของคุณลงไปในวิดีโอ เช่น สไตล์การพูด มุมมองเฉพาะตัว หรือเทคนิคการเล่าเรื่องที่ถนัดเข้าไปด้วย
สุดท้าย ภาณุภัทร์ย้ำว่าไม่ว่าคุณจะใช้แนวทางใด การลองผิดลองถูกและปรับให้เหมาะสมกับตัวตนและช่องของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด “คอนเทนต์ทุกอย่างอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน แต่ทุกคนสามารถใช้โอกาสนี้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ได้” คอนเทนต์ที่ดีไม่ได้มาจากความสมบูรณ์แบบเสมอไป แต่เป็นการสร้างสรรค์ที่มีเอกลักษณ์และโดนใจผู้ชม หากครีเอเตอร์มีความตั้งใจ เรีบนรู้ทดลองหาแนวทางที่ตนเองถนัดแล้วสื่อสารออกมาให้ผู้ชมชื่นชอบ จะสามารถเติบโตในวงการสื่อสารคอนเทนต์ที่โดดเด่นได้อย่างแน่นอน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล” แห่ง BDI กับความท้าทายบนเส้นทาง Data Driven Nation
เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และชุมชน รากฐานของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน