สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ออกมาแถลง หลังดำเนินนโยบายให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้าและรถโดยสารประจำทางสาธารณะ (รถเมล์) ฟรีได้ 4 วัน ที่เริ่มเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา และจะไปจบสิ้นเดือนนี้ รวม 7 วัน เพื่อลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และช่วยลดปริมาณฝุ่นพิษ PM 2.5 ว่า
จำนวนรถยนต์ส่วนบุคคลที่วิ่งไปวิ่งมาใน กรุงเทพฯ 10 ล้านคัน โดยครึ่งหนึ่งหรือ 5 ล้านคัน เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหายไปจากท้องถนน 10% หรือราว ๆ 5 แสนคัน ตามข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
ก่อนที่ รมว.คมนาคม สรุปอย่างภาคภูมิว่า ในวันนี้ (28 ม.ค.68) ค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา หรือ ก่อนที่จะเริ่มให้ประชาชนได้ใช้บริการรถสาธารณะฟรี
คำแถลงดังกล่าวชัดว่า สุริยะต้องการสื่อว่า นโยบายขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ฟรีที่ใช้งบประมาณ 190.41 ล้านบาท แบ่งเป็น รถไฟฟ้าจำนวน 138.7 ล้านบาท และรถเมล์ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อีก 51.7 ล้านบาท และเตรียมขอเพิ่มเป็น 329 ล้านบาท สามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ได้ จริง จริ๊ง … ไม่ได้ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอย่างที่โจมตีกัน
ก่อนหน้านั้น ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 26 มกราคม 2568 ณ 07:00 น. ว่า สถานการณ์โดยรวมเกินเกณฑ์มาตรฐานหลายจังหวัด โดยภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 13.1 – 86.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ( มคก./ลบ.ม.)
พร้อมคาดการณ์ว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองทุกพื้นที่ของประเทศไทย มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังวันที่ 27 มกราคม เป็นต้นไป เนื่องจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่เอื้อต่อการระบายอากาศมากยิ่งขึ้น ลมที่พัดค่อนข้างแรง ประกอบกับอัตราการระบายอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น จะช่วยระบายฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ได้ ส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้น
ดูข่าว สุริยะ รมว.คมนาคม เปรียบเทียบกับรายงานของของศกพ. แล้วพอประเมินได้ว่า จริง ๆ แล้วปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ในกรุงเทพฯที่บรรเทาลงช่วงตรุษจีน นั้นพระเอกตัวจริงคือใคร
ฝุ่นพิษ PM 2.5 คือ หนี่งในปัญหาแห่งชาติของไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ปีนี้ประเทศไทยครองอันดับ 36 ประเทศที่มีปัญหาคุณภาพอากาศแย่ของโลก (จาก 193 ประเทศ) และอยู่อันดับที่ 5 ของอาเซียน โดยกรุงเทพฯ ครองอันดับ 37 ของเมืองที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดของโลก มีปริมาณฝุ่นพิษ PM 2.5 เฉลี่ยรายปี 21.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
แม้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ประกาศจากสั่งการจากเมื่องดาวอส ยกปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ไขฝุ่นควันทันที และมอบหมายให้ อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติให้บริหารสถานการณ์ฝุ่นควัน และเร่งจัดตั้งศูนย์ที่ทำหน้าที่สื่อสารให้ข้อมูลกับประชาชน
การประกาศให้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ ในช่วงปัญหาพีคสุด ๆ ของนายกฯ ทั้งที่รับรู้ว่าฝุ่นพิษ PM 2.5 คือปํญหาตามฤดูกาล สะท้อนถึงการบริหารที่ไม่ได้มองไปข้างหน้า และให้ความสำคัญต่อปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเรื่องอื่น
ดังที่ ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ไม่ได้อยู่ใน 10 นโยบายเร่งด่วนที่ รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาเมื่อเดือน กันยายน ปีที่แล้ว ในขณะที่ เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโน 10% คือหนึ่งในเรื่องเร่งด่วนและด่วนที่สุดในปัจจุบัน เช่นเดียวกับปีนี้ ที่ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ไม่ได้อยู่ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเช่นกัน
หากรัฐบาลจัดการปัญหาแบบ ขึงขังเมื่อฝุ่นมา ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่ทำลายทั้ง สุขภาพ และเศรษฐกิจ คงยกระดับเป็นวาระตลอดชาติ
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
ถ้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์มา โฉมหน้าเมืองเทวดาจะเป็นเช่นไร?
2568 จีดีพีทะลุ 3% พูดง่ายทำยาก
แก้ พ.ร.ก.โจรออนไลน์…อย่าเป็นแค่เสือกระดาษ