Share on
×

Share

วีซ่าเผย 4 เทรนด์สำคัญ พลิกโฉมโลกการชำระเงินแห่งอนาคต

ภูมิทัศน์ของการชำระเงินกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้แรงขับเคลื่อนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วีซ่าเผย 4 เทรนด์สำคัญที่จะกำหนดอนาคตการชำระเงินให้สะดวก ปลอดภัย และไร้รอยต่อยิ่งขึ้น

เทรนด์ที่ 1: พลัง AI ต้านภัยการฉ้อโกง

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยและประสบการณ์การชำระเงิน ด้วยอัลกอริทึม Deep Learning ที่ซับซ้อนขึ้น AI สามารถวิเคราะห์รูปแบบธุรกรรมและระบุความเสี่ยงการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์

วีซ่าลงทุนกว่า 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงสร้างพื้นฐาน AI และระบบข้อมูล ล่าสุดเปิดตัว 3 โซลูชันใหม่ภายใต้ Visa Protect ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดการฉ้อโกงในธุรกรรมระหว่างบัญชี (A2A) และธุรกรรมที่ไม่ใช้บัตร (CNP) ทั้งภายในและภายนอกเครือข่าย ช่วยให้สถาบันการเงินและพันธมิตรตรวจจับและป้องกันความเสี่ยงได้แบบเรียลไทม์ มอบประสบการณ์ที่ปลอดภัยและราบรื่นแก่ผู้บริโภค

เทรนด์ที่ 2: ตัวตนแบบดิจิทัล เพิ่มความสะดวกให้การยืนยันตัวตน

การยืนยันตัวตนในโลกดิจิทัลกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ ด้วยการใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ เช่น ใบหน้าและลายนิ้วมือ แทนรหัสผ่านหรือคำถามยืนยันตัวตนแบบเดิม ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและยากต่อการปลอมแปลง

วีซ่ามีโซลูชันอย่าง Click to Pay และ Visa Payment Passkey ที่ช่วยลดการพึ่งพารหัสผ่าน PIN โดย Click to Pay ช่วยลดขั้นตอนการชำระเงินออนไลน์ที่ยุ่งยาก ขณะที่ Visa Payment Passkey ให้ผู้ใช้งานตั้งค่าเพียงครั้งเดียวเพื่อยืนยันตัวตนผ่านข้อมูลไบโอเมตริกซ์กับอุปกรณ์โดยตรง ทำให้การชำระเงินออนไลน์ปลอดภัยและสะดวกยิ่งขึ้น ในอนาคต การใช้ไบโอเมตริกซ์ร่วมกับนโยบายความปลอดภัยของข้อมูลและการกำกับดูแล AI จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ระบบการชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

เทรนด์ที่ 3: ธุรกรรมข้ามพรมแดนที่รวดเร็วขึ้นและตอบโจทย์มากกว่าเดิม

การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำธุรกรรมระหว่างธุรกิจ (B2B) อีกต่อไป แต่ยังรวมถึงการโอนเงินระหว่างบุคคล (P2P) หรือระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ที่ทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การโอนเงินกลับประเทศ (Remittances) และการชำระเงินรูปแบบใหม่ๆ เช่น การจ่ายเงินให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ สะท้อนถึงการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไร้พรมแดน

วีซ่านำเสนอ Visa Direct โซลูชันที่เชื่อมต่อและดำเนินการธุรกรรมข้ามพรมแดนได้แบบเรียลไทม์ ปลอดภัย และเชื่อมต่อกับปลายทางการชำระเงินกว่า 7,000 ล้านจุดทั่วโลก ไม่ว่าจะผ่านบัตร บัญชีธนาคาร หรือดิจิทัลวอลเล็ต เป้าหมายของ Visa คือการสร้างพันธมิตรและขยายเครือข่ายให้ครอบคลุม เพื่อให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

เทรนด์ที่ 4: การชำระเงินแบบเรียลไทม์เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ (RTP) คาดว่าจะมีมูลค่ารวมสูงถึง 58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 สะท้อนความต้องการธุรกรรมที่รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่ซับซ้อนของทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

วีซ่าให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค จึงได้ออกโซลูชัน Visa Protect สำหรับระบบการชำระเงินระหว่างบัญชี (A2A) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงในเครือข่าย RTP และระบุพฤติกรรมที่อาจเป็นการฉ้อโกงได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบ (Interoperability) ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสนับสนุนการค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยภาครัฐและภาคเอกชนกำลังร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น

ในอนาคต เทรนด์เหล่านี้จะเข้ามาพลิกโฉมวิธีการชำระเงิน ให้เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ปลอดภัย และครอบคลุมสำหรับทุกคน ทุกที่ ทั่วโลก

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

‘AI’ ดาบสองคมปฏิวัติภาคการผลิตไทย พลิกโฉมสู่ความล้ำสมัย แต่แฝงภัยไซเบอร์ร้ายแรง

วงเสวนาชำแหละ ‘วิกฤติสื่อไทย’ เมื่อความน่าเชื่อถือขายไม่ได้ และนโยบายรัฐอุ้มไม่เป็น

×

Share

ผู้เขียน