ท่ามกลางคลื่นปฏิวัติแห่งปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกอย่างรวดเร็ว หนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญจากประเทศไทยอย่าง “กรุงศรี ฟินโนเวต” (Krungsri Finnovate) กำลังเคลื่อนทัพในฐานะแม่ทัพหน้า ผลักดันสตาร์ตอัพเทคโนโลยีสู่สมรภูมิระดับภูมิภาคและระดับโลก การเคลื่อนไหวตลอดครึ่งปีแรกของปี 2568 ไม่เพียงสะท้อนบทบาทผู้นำด้านการลงทุน แต่ยังเผยให้เห็นวิสัยทัศน์ที่ต้องการปักธงให้ประเทศไทยเป็นมากกว่า “ผู้ใช้” แต่คือ “ผู้สร้าง” นวัตกรรม AI
เปิดพอร์ตลงทุน: หมากตัวสำคัญบนกระดานเทคโนโลยี
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา กรุงศรี ฟินโนเวต ได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนใน 3 สตาร์ตอัพที่มีศักยภาพสูงและหลากหลาย ได้แก่ SLEEK EV ผู้นำด้านโซลูชันยานยนต์ไฟฟ้า Doppio Tech ผู้พัฒนาหุ่นยนต์อัจฉริยะ และ Ascend Money ฟินเทคยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาค การตัดสินใจลงทุนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือการวางหมากเชิงกลยุทธ์ที่สะท้อนความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีแห่งอนาคต และตอกย้ำเป้าหมายในการสร้างแชมเปี้ยนที่สามารถขยายตลาดไปไกลกว่าแค่ในประเทศ
การลงทุนดังกล่าวส่งผลให้พอร์ตของกรุงศรี ฟินโนเวต แข็งแกร่งขึ้นด้วยสตาร์ตอัพรวม 26 บริษัท ภายใต้งบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท ความสำเร็จเชิงประจักษ์คือการปั้นยูนิคอร์น (สตาร์ตอัพที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์) ได้ถึง 4 ราย และยังมีอีก 7 รายที่กำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสายตาอันแหลมคมในการเลือกสนับสนุนสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพเติบโต
ขี่คลื่น AI โลก: จากเทรนด์สู่การลงทุนจริงจัง
การเดิมพันใน AI ของกรุงศรี ฟินโนเวต เกิดขึ้นบนฉากหลังของตลาด AI โลกที่กำลังเฟื่องฟูอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในปี 2567 ทั่วโลกมีสตาร์ตอัพหน้าใหม่ก้าวสู่สถานะยูนิคอร์นถึง 110 ราย โดยกว่า 44% คือบริษัทที่ใช้ AI เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ ตลาด AI ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 184 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ยปีละ 28.46% ไปจนถึงปี 2573 ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่สถิติ แต่คือสัญญาณที่บ่งชี้ว่าใครก็ตามที่ไม่ก้าวเข้าสู่สมรภูมินี้ อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
กรุงศรี ฟินโนเวต ไม่เพียงแค่มองเห็นโอกาส แต่ยังลงลึกถึงการประยุกต์ใช้จริง โดยเฉพาะเทคโนโลยี Generative AI และ Agentic AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ระบบสามารถคิด วิเคราะห์ วางแผน และลงมือทำได้ด้วยตัวเอง สอดคล้องกับโครงการภายในของกรุงศรีที่นำ AI มาใช้จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับการฉ้อโกงของคอลเซ็นเตอร์ การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าที่แม่นยำและปลอดภัย หรือแม้แต่แชทบอทอัจฉริยะที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้
ภารกิจ “AI อธิปไตย”: สร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีให้ชาติ
หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองที่สุด คือการที่กรุงศรี ฟินโนเวต เข้าไปมีบทบาทสนับสนุนแนวคิด “Sovereign AI”หรือ “AI อธิปไตย” ของประเทศไทย ผ่านความร่วมมือกับ SIAM.AI CLOUD ซึ่งเป็นพันธมิตรของ NVIDIA Cloud ที่ถือหุ้นโดยคนไทย 100%
นี่ไม่ใช่แค่ความร่วมมือทางธุรกิจ แต่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบนิเวศ AI โดยใช้ข้อมูลโครงสร้างพื้นฐาน และบุคลากรภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ และที่สำคัญคือการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศในระยะยาว ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยมีอำนาจอธิปไตยทางข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: สมรภูมิใหม่ที่โลกจับตา
ในมุมมองระดับภูมิภาค กรุงศรี ฟินโนเวต มองว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของนักลงทุนเทคโนโลยีทั่วโลก ด้วยจำนวนสตาร์ตอัพด้าน AI กว่า 1,671 ราย และมีเม็ดเงินลงทุนสะสมสูงถึง 7.56 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ภูมิภาคนี้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งโอกาสที่รอการค้นพบ การวางตำแหน่งของกรุงศรี ฟินโนเวต ในสมรภูมินี้จึงเป็นการช่วงชิงความได้เปรียบเพื่อการเติบโตในอนาคต
ปาลิดา อธิศพงศ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ และ Head of Portfolio Growth ของกรุงศรี ฟินโนเวต กล่าวว่า “ในครึ่งปีที่ผ่านมา เราได้เห็นพลังของสตาร์ตอัพไทยและอาเซียนที่นำ AI มาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์ ตั้งแต่การบริหารสินทรัพย์ไปจนถึงการควบคุมอุปกรณ์ด้วยคลื่นสมอง นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของนวัตกรรม แต่เป็นเรื่องของโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจและการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย เราจึงให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ AI”
เธอยังย้ำถึงพันธกิจระยะยาวว่า “เราไม่ได้ลงทุนเพื่อกำไรระยะสั้น แต่เพื่อวางรากฐานที่ทำให้ไทยสามารถมีบทบาทในเศรษฐกิจเทคโนโลยีโลกได้อย่างภาคภูมิ เราเชื่อมั่นว่าถ้าเราลงทุนอย่างถูกที่ ถูกเวลา และกับคนที่มีศักยภาพ ประเทศไทยจะไม่ใช่แค่ผู้ใช้นวัตกรรม แต่จะเป็นผู้สร้างมันได้ด้วยตัวเอง”
วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและการลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรมของกรุงศรี ฟินโนเวต กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า การลงทุนในวันนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อผลกำไรขององค์กร แต่คือการวางรากฐานทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้พร้อมทะยานไปในเวทีการแข่งขันระดับโลกได้อย่างยั่งยืน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
‘ปฏิกิริยาต่อ Crypto Week’ การผ่านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งสำคัญของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี
ศึกชิงอธิปไตยเศรษฐกิจดิจิทัล จาก ‘ผู้ตั้งรับ’ สู่ ‘ผู้รุก’ พลิกยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชาติ