บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด หรือ MFEC แนะนำว่าองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนควรให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี Generative AI และการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลควบคู่กันไป เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระยะยาว
แม้เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว แต่ภัยไซเบอร์ก็พุ่งแรง! ตลาด Cybersecurity ไทยโตทะลุ 1.4 หมื่นล้านบาทในปี 67 ภัยไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสร้างความเสียหายรุนแรงขึ้น ทำให้ตลาด Cybersecurity ในไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 14.10% ในปีนี้
ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องปรับตัวและหาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยเทคโนโลยี AI สำหรับ MFEC ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โต 11.4% แตะ 6,734 ล้านบาท ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่เติบโตแรง 25%
ตลาด Cybersecurity โตแรง ภัยไซเบอร์ทวีความรุนแรง องค์กรไทยต้องปรับตัว!
โลกยุคดิจิทัลนำมาซึ่งความสะดวกสบายและโอกาสใหม่ ๆ ในทุกภาคส่วน แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายจากภัยไซเบอร์ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลการวิจัยของ Cybersecurity Ventures ชี้ว่าความเสียหายจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ทั่วโลกอาจสูงถึง 10.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในปี 2568 ประเทศไทยเองก็ต้องเผชิญกับภัยคุกคามนี้เช่นกัน คาดว่ามูลค่าการลงทุนด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความจำเป็นในการป้องกันข้อมูลในยุคดิจิทัล
ด้าน Krungthai COMPASS คาดการณ์ว่าการลงทุนด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยทบต้นต่อปี (CAGR) ถึง 13% ส่งผลให้มูลค่าการลงทุนจะพุ่งไปแตะ 1.8 หมื่นล้านบาทในปี 2568 ทำให้รายได้รวมของอุตสาหกรรมถูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 4.4 พันล้านบาทในปี 2565 เป็น 6.3 พันล้านบาทในปี 2568 (CAGR 12.3%) โดยที่ธุรกิจให้บริการติดตั้งระบบไซเบอร์ซีเคียวริตี้มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น คาดการณ์ CAGR ของรายได้อยู่ที่ 14.5% ต่อปี
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าภัยไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
และการลงทุนด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้เป็นสิ่งจำเป็น องค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อปกป้องข้อมูลที่มีค่าในยุคดิจิทัลนี้
MFEC มองตลาดไอทีไทยฟื้นตัว แต่ภัยไซเบอร์ยังน่าห่วง ชู AI และบริการใหม่รับมือ
ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร MFEC กล่าวว่า แม้ตลาดไอทีในไทยจะเริ่มฟื้นตัว แต่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ลูกค้า MFEC ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ยังเติบโตได้ดี กลยุทธ์ MFEC คือเน้น Tech with Propose เพื่อรักษาฐานลูกค้า และใช้ AI พัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้น และมองว่าการลงทุนไอทีจะมาจาก Integration Solution, Enterprise Agreement และ Security Managed Services
แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงตลาดไซเบอร์ซีเคียวริตี้ จะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ลูกค้าหลายรายต้องปรับลดการลงทุน แต่ MFEC ก็ยังคงสามารถรักษาการเติบโตของธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบัน ทิศทางการลงทุนไอทีมีแนวโน้มมุ่งไปที่โซลูชันแบบครบวงจร (Integration Solution) ไม่ว่าจะเป็นการเป็นพันธมิตรหลักเพียงรายเดียว (Single Partner) ข้อตกลงระดับองค์กร (Enterprise Agreement) หรือบริการจัดการความปลอดภัย (Security Managed Services) เพื่อรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสในตลาด MFEC ใช้กลยุทธ์ “Tech with Propose” ที่ผสานเทคโนโลยีกับข้อเสนอที่ตรงใจลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจและรักษาฐานลูกค้าเดิม นอกจากนี้ ยังนำเทรนด์ AI มาต่อยอด พัฒนาเป็นบริการและโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
Generative AI: ดาบสองคมในโลกไซเบอร์
Generative AI คือเทคโนโลยีที่ทรงพลังและชาญฉลาด แต่ก็เปรียบเสมือนดาบสองคมในโลกของความปลอดภัยทางไซเบอร์ มันสามารถเป็นได้ทั้งเครื่องมือในการโจมตีและป้องกันภัยคุกคาม การใช้ Generative AI ในการโจมตีทางไซเบอร์ อาจทำให้ภัยคุกคามมีความซับซ้อนและยากต่อการรับมือมากขึ้น ในทางกลับกัน Generative AI ก็สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยได้เช่นกัน
AI คือ กุญแจสำคัญในการรับมือภัยคุกคามยุคใหม่ ด้วยเหตุนี้ องค์กรต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องปรับตัวด้วยโซลูชัน AI นำโซลูชันความปลอดภัยที่ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ตรวจจับและจัดการภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และต้องพัฒนาบุคลากรด้านไซเบอร์ ควรลงทุนในการพัฒนาทักษะและความรู้ของทีมรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้นได้
“Generative AI เป็นทั้งความท้าทายและโอกาสในโลกไซเบอร์ องค์กรที่สามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างชาญฉลาด จะเป็นผู้ที่สามารถยืนหยัดและเติบโตได้ในยุคดิจิทัลนี้”
AI: ผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้แทน พัฒนาคนให้เท่าทันเทคโนโลยี
ดำรงศักดิ์ รีตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของ MFEC กล่าวว่า เทคโนโลยี Generative AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล ค้นหาจุดผิดปกติในระบบ และปรับการใช้งานให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม AI ไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตัดสินใจที่ซับซ้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับจริยธรรม กฎหมาย และผลกระทบทางธุรกิจ ดังนั้น องค์กรจึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย การใช้ AI ในการต่อสู้กับภัยไซเบอร์เปรียบเสมือนการมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่การแทนที่มนุษย์โดยสิ้นเชิง
“การผสมผสานการใช้เทคโนโลยีไซเบอร์ซีเคียวริตี้และ AI เข้ากับการพัฒนาทักษะของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง คือ กุญแจสำคัญที่จะทำให้องค์กรสามารถรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้”
ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า MFEC มีทีม Cybersecurity Engineer กว่า 120 คนที่พร้อมให้บริการ และบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดและเติบโตในธุรกิจนี้ด้วยการเพิ่มฐานลูกค้าโดยเจาะกลุ่มองค์กรขนาดกลางมากขึ้น การบริการครบวงจร ให้บริการแบบ Managed Service ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และพัฒนาบุคลากรที่ไม่เพียงแค่เพิ่มทักษะเทคโนโลยี แต่ยังสนับสนุนให้ได้ Certificate มาตรฐานสากล
“การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง คือ หัวใจสำคัญที่ทำให้ MFEC มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ในโลกไซเบอร์ และเติบโตอย่างยั่งยืนในธุรกิจนี้”