AIS ผนึก กระทรวงสาธารณสุข ติดอาวุธ อสม. นักรบเสื้อเทา เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบครบวงจร ตั้งแต่ระดับรากฐานไปจนถึงการรายงานผลภาพรวมในระดับประเทศ โดยการพัฒนาใหม่ฟีเจอร์บนแอปพลิเคชัน อสม. ออนไลน์
-โควิด-19 กระทบสตาร์ตอัพทั้งอีโคซิสเต็มส์ ‘เงินทุน-บุคลากร-ตลาด’
-กลุ่มทรู เผย EBITDA โตร้อยละ 12 จากปีก่อน ผู้ใช้บริการรายเดือนพุ่ง 8.6 ล้านราย
ช่วย อสม. ให้สามารถ เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง คัดกรอง และติดตามกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ได้แบบเรียลไทม์ พร้อมมอบ “ซิมฮีโร่” พิเศษเพื่อสมาชิก อสม. ให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้แบบไม่มีสะดุด พร้อมส่งความห่วงใยมอบฟรีประกันภัยโควิด-19 เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจป้องกันการแพร่ระบาดรอบ 2
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า “นับจากวันที่ เอไอเอส ได้ประกาศวิสัยทัศน์ในการนำพลานุภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ 5G สนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล ยกระดับงานสาธารณสุขให้สามารถทำงานเชิงรุก ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น
ปัจจุบันเราได้ทยอยส่งมอบการสนับสนุนดังกล่าว เป็นงบประมาณกว่า 177 ล้านบาท สู่ทีมแพทย์ พยาบาลด่านหน้าในการรับมือวิกฤติในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายเครือข่ายติดตั้งสัญญาณ 5G ในโรงพยาบาลที่รับตรวจโควิด-19 แล้วกว่า 161 โรงพยาบาลทั่วประเทศ และตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Labs พัฒนา Robot for Care หุ่นยนต์ผู้ช่วยแพทย์ทำหน้าที่ตรวจรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ช่วยรักษาระยะห่างระหว่างหมอและคนไข้ ส่งมอบแล้ว 23 ตัว ให้กับโรงพยาบาล 22 แห่ง ซึ่งสามารถช่วยแบ่งเบาภารกิจของทีมแพทย์ พยาบาลได้อย่างดี”
“แม้วันนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทย จะผ่านจุดวิกฤตมาแล้ว จากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลเริ่มคลายล็อกดาวน์ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้ ในทางกลับกันก็อาจเป็นการเพิ่มโอกาสความเสี่ยงที่จะเพิ่มปริมาณผู้ติดเชื้อในระลอก 2 ได้ ดังนั้นการเฝ้าระวัง ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ในชุมชนทั่วประเทศ จากการทำงานของกลุ่ม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ฉายา “นักรบเสื้อเทา” ที่มีอยู่กว่า 1 ล้าน 5 หมื่นราย จึงมีความสำคัญสูงสุด ในการสกัดกั้นการระบาดในระลอกที่ 2”
โดยล่าสุด เพื่อร่วมแบ่งเบาและเสริมขีดความสามารถของ อสม.ยุคดิจิทัล ในสถานการณ์โควิด-19 เอไอเอส จึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลโซลูชันมาสนับสนุนการทำงานของ อสม. นักรบเสื้อเทาเพิ่มเติม ดังนี้
1.พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ “คัดกรองและติดตาม COVID-19” บนแอปพลิเคชัน อสม. ออนไลน์ สนับสนุนแนวทางการทำงาน ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพที่จัดกิจกรรม “อสม.เคาะประตูบ้านต้านโควิด-19” เพื่อให้ อสม.ใช้เป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังความเสี่ยง คัดกรอง และติดตามผลกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ด้วยรูปแบบรายงานดิจิทัลที่
อสม.สามารถบันทึกได้ง่าย สะดวก รวดเร็วในการติดตามผล และเรียลไทม์ ทางมือถือ ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต. สาธารณสุขอำเภอ และสาธารณสุขจังหวัด สามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นๆ, สมาชิกในบ้านที่อาจมีความเสี่ยง รวมถึงการติดตามกลุ่มเฝ้าระวัง 14 วัน ในแต่ละครัวเรือนที่ได้อย่างเป็นระบบและทันต่อเหตุการณ์
พร้อมเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ รายงานการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต เพื่อช่วยติดตาม ผู้ที่มีความเสี่ยงปัญหาสุขภาพจิตจากสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งแสดงคำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อให้ อสม. ได้แนะนำความรู้ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเบื้องต้น รวมทั้งเป็นเครื่องมือเชิงรุกในการค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างทันท่วงที่ โดยจะเปิดให้บริการฟีเจอร์นี้ภายในเร็วๆนี้
2.มอบ “ซิมฮีโร่” เพื่อสมาชิก อสม. ให้ใช้งานแอปฯ อสม. ออนไลน์ ได้ ค่าโทรราคาพิเศษ สนับสนุน “ซิมฮีโร่” ให้แก่ อสม. ทั่วประเทศ มอบอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งานบนแอปพลิเคชัน อสม. ออนไลน์ ได้ฟรีไม่จำกัด ที่ความเร็ว 1 Mbps เล่นเน็ตไม่รั่ว ที่ความเร็ว 128 kbps โทรทุกเครือข่ายวินาทีละ 2 สตางค์ ทุกเครือข่าย ตลอด 24 ชั่วโมง นานสูงสุด 1 ปี
3.มอบฟรี ประกันภัย ให้นักรบเสื้อเทา เพิ่มความอุ่นใจในการปฏิบัติงาน ให้ อสม. ที่มีอายุระหว่าง 16 – 85 ปี ทั่วประเทศ ฟรี! โดยมีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน คุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี 50,000 บาท และรับความคุ้มครองชดเชยรายวัน 400 บาท/วัน สูงสุดไม่เกิน 15 วัน เมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยในจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ดูเงื่อนไขบริการได้ที่ http://www.ais.co.th/aorsormor)
โดย อสม. ที่ใช้บริการเครือข่าย เอไอเอส หรือ อสม. ที่รับซิมฮีโร่ สามารถรับลิงก์ลงทะเบียนความคุ้มครองได้โดยกด *268*เลขบัตรประชาชน 13 หลัก# และกดเครื่องหมายโทรออก สมาชิก อสม. ที่ลงทะเบียนถูกต้องจะได้รับข้อความ SMS ยืนยันความคุ้มครอง ระยะเวลาเอาประกันภัย 30 วัน (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) จากบริษัทประกันฯ ภายในระยะเวลา 5 วันทำการ