ไฮเออร์ เผยยอดขายในไทยครึ่งปีแรก 2563 โต 31% โควิด-19 ดันยอดสั่งสินค้าออนไลน์โต 400% ครี่งปีแรก เตรียมรุกตลาดสมาร์ทโฮมในปี 2563 นำทัพด้วยเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า พร้อมเปิดตลาดใหม่ เจาะกลุ่มธุรกิจ B2B ตั้งเป้าโกยรายได้เพิ่ม 500 ล้านบาทต่อปี ผุดแคมเปญใหม่ Haier “เย็นดีแค่ 4 บาท” ตอบสนองกับความต้องการของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า คาดตัวเลขครึ่งปีหลังยอดขายโตตามเป้ากว่า 34% หรือประมาณ 2,630 ล้านบาท
มร. จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงาน Haier Press Conference 2020 ว่า ไฮเออร์ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยคาดการณ์รายได้รวมทุกหมวดผลิตภัณฑ์ประมาณ 6,205 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 38% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 2,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ตู้เย็น 1,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เครื่องซักผ้า 835 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% ตู้แช่ 590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% และผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ 322 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 65% และได้เตรียมรุกตลาดในช่วงครึ่งปีหลังอย่างแข็งแกร่ง พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้น 38 %
ประเทศไทยมีการเติบโตที่ดี ไม่ได้รับผลกระทบมากโดยเฉพาะในเดือนเมษายน-พฤษภาคม ขณะที่ประเทศอื่นได้รับผลกระทบมาก ส่วนหนึ่งเพราะไฮเออร์มีจุดเด่น คือ มีการศึกษาผู้บริโภคคนไทยก่อนจะผลิตสินค้าออกมา และเป็นแบรนด์ 3in1 คือ วิจัย ผลิต และขาย เพราะฉะนั้นจะทำให้บริษัทรู้ความต้องการของคนในประเทศไทย
“เราตั้งเป้าเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศไทย ที่จะเป็นสินค้าสมาร์ทโฮมภายใน 3 ปี ในแง่ยอดขายรวม 1 หมื่นล้านบาท เรามียอดขายตู้เย็นออนไลน์ติดอันดับ 1 และขายเครื่องซักผ้าผ่านออนไลน์ อันดับ 3 ในประเทศไทย”
ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมายอดสั่งสินค้าไฮเออร์ผ่านออนไลน์โตขึ้นเกือบ 400% โดยเฉพาะแอร์โตขึ้นถึง 150% รายได้จากสั่งสินค้าออนไลน์โตสูงสุด 12% ในเดือนเมษายน ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ในภาพรวมเพิ่มขึ้นเป็น 7%
ไฮเออร์ เตรียมทุ่มงบการตลาด 170 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการขายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ขยายช่องทางการตลาด เจาะกลุ่มธุรกิจ B2B ปรับภาพลักษณ์ร้านตัวแทนจำหน่าย และพัฒนาบริการทั้งก่อนและหลังการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตั้งเป้ามีรายได้จากกลุ่มนี้ที่ 4-5% จากยอดขายรวม หรือประมาณ 500 ล้านบาท
“ถึงแม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ไฮเออร์ยังมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้ 6,205 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 จากปี 2563”
ไฮเออร์ เปิดตัวแคมเปญรูปแบบใหม่ Smart Sharing AC “เย็นดีแค่ 4 บาท” ที่ให้ทุกคนสามารถติดแอร์ที่บ้านได้ โดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นชั่วโมงที่ใช้ ที่ 4 บาท/ต่อชั่วโมง พร้อมบริการและอุปกรณ์ติดตั้งฟรี มีบริการหลังการขาย เมื่อใช้ครบ 5,200 ชั่วโมง ภายในระยะเวลาสัญญา 3 ปี รับเครื่องปรับอากาศฟรี โดยไฮเออร์ได้ดึงเอานวัตกรรม NB-IoT มาใช้ โดยเครื่องจะเชื่อมต่อกับสัญญาณ NB-IoT ของ AIS ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศแบบอัตโนมัติ พร้อมกับบันทึกและส่งข้อมูลทุกอย่างแสดงผลที่ Smart Sharing AC แอปบนสมาร์ทโฟน สามารถควบคุม ตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศเราได้ทุกอย่างจากทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน เช่น การตั้งค่า เปิดปิดเครื่อง ไปจนถึงการควบคุมเครื่อง ปรับทิศทางลม ปรับอุณหภูมิ บริการเซอร์วิสเรียกช่างก็สามารถเรียกผ่านแอปได้
นอกจากนี้ ยังเตรียมแฟรนไชน์ร้านซักผ้าในไทยภายในเดือนสิงหาคม หลังจากเปิดที่ จีน ญี่ปุ่น และ อินเดีย ไปแล้ว โดยไฮเออร์จะเปิดร้านให้เป็นมาตรฐานและมีตัวแทนหลักของบริษัทเพียงเจ้าเดียว
“ด้านการตลาดในครึ่งปีหลังนี้ 2563 นี้เรายังคงเน้นทำการตลาดแบบครบวงจร ทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ เพิ่มโฆษณาทางโทรทัศน์ให้กับผลิตภัณฑ์ตู้เย็น และยังคงใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ในการสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์เช่นเดิม พร้อมทั้งเสริมกลยุทธ์ผลักดันภาพลักษณ์แบรนด์ด้วย Haier Brand Shop ซึ่งปัจจุบันเรามีร้านไฮเออร์แบรนด์ช็อปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในกรุงเทพฯ แล้ว โดยจะทำการขยายช่องทางการขายต่อไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่องทางธุรกิจ B2B และปรับภาพลักษณ์ร้านตัวแทนจำหน่ายไฮเออร์ รุกช่องทางการตลาดใหม่ ๆ ที่จะช่วยผลักดันธุรกิจของไฮเออร์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” มร.จาง เจิ้งฮุ้ย กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-No way Win-Win บทเรียน CPTPP จากชาติภาคีถึง ไทยแลนด์
-ทีเอ็มบี และธนชาต ชวนคนไทยช่วยคนไทย ก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19
-NECTEC ดัน IDA ยก อุตสาหกรรม 4.0
-ลาซาด้าจับมือโว้ก สนับสนุนแบรนด์แฟชั่นไทยชื่อดัง ตอบโจทย์เทรนด์แฟชั่นยุคดิจิทัล
-อสังหาฯ ไทยไปต่อไม่ไหว ถ้าไม่รู้ใจผู้บริโภค