Share on
×

Share

Apple เปิดตัว iPhone 13 สีเขียว, New iPhone SE และ New iPad Air

HIGHLIGHT

  • Apple เปิดตัวสีใหม่ในโทนเขียวสวยสะดุดตาสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13
  • Apple เปิดตัว iPhone SE ใหม่ ในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมชิป A15 Bionic และ 5G
  • Apple เปิดตัว iPad Air มาพร้อมชิป M1 และ 5G

เปิดตัว iPhone 13สี ใหม่โทนเขียว

  • iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max สีเขียวอัลไพน์ นำเซรามิกโลหะหลายชั้นที่บางระดับนาโนเมตรมาเคลือบลงบนพื้นผิว เข้ากับขอบสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรมและด้านหลังแบบกระจกผิวด้านได้เป็นอย่างดี
  • iPhone 13 และ iPhone 13 mini สีเขียวมาพร้อมกับกรอบอะลูมิเนียมหรูหราที่สีเข้ากันและกระจกด้านหลัง
  • iPhone 13 Pro และ iPhone 13 ได้รับการขับเคลื่อนด้วยพลังประมวลผลของชิป A15 Bionic ซึ่งมอบสุดยอดประสบการณ์อย่างโหมดภาพยนตร์ กราฟิกอันน่าทึ่ง และทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกับ iOS 15

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

  • iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีวางจำหน่ายในสีเซียร์ร่าบลู, สีกราไฟต์, สีทอง และสีเงิน และจะมีจำหน่ายในสีเขียวอัลไพน์ใหม่ โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB ในราคาเริ่มต้นที่ 38,900 บาท และ 42,900 บาท ตามลำดับ iPhone 13 และ iPhone 13 mini มีวางจำหน่ายในรุ่น (PRODUCT)RED,6 สีสตาร์ไลท์, สีมิดไนท์, สีน้ำเงิน และสีชมพู และจะมีวางจำหน่ายในสีเขียวใหม่ โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ 128GB, 256GB และ 512GB ในราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท และ 25,900 บาท ตามลำดับ
  • ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ล่วงหน้าในสีเขียวอัลไพน์ และ iPhone 13 และ iPhone 13 mini ในสีเขียวได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 18 มีนาคมและจะมีวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม
  • ลูกค้าสามารถซื้อ iPhone 13 Pro ในราคา 3,890 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 เดือนก่อนการแลกซื้อ, iPhone 13 Pro Max ในราคา 4,290 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 เดือนก่อนการแลกซื้อ, iPhone 13 ในราคา 2,990 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 เดือนก่อนการแลกซื้อ และ iPhone 13 mini ในราคา 2,590 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 เดือนก่อนการแลกซื้อได้จาก apple.com/th/storeในแอป Apple Store® และที่ร้าน Apple Store7
  • iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max, iPhone 13 และ iPhone 13 mini ยังมีวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์อีกหลายรายด้วย
  • iOS 15.4 จะเปิดให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีตั้งแต่สัปดาห์หน้า
  • Apple มีบริการหลายประเภทให้แก่ลูกค้าทั้งในร้านและทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือและคำแนะนำเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายจาก Apple Specialists จนถึงบริการจัดส่งและรับสินค้าที่ร้านที่สะดวกสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพราะ Apple ตั้งใจให้ Apple Store apple.com/th/store เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั่นเอง

เปิดตัว iPhone SE ใหม่

  • iPhone รุ่นที่เป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุด มาพร้อมชิป A15 Bionic (แบบเดียวกับที่ใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13), 5G, ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น
  • iPhone SE ซเป็น iPhone ใหม่ที่ทรงพลังในดีไซน์เอกลักษณ์และกะทัดรัด ทนทาน ทำงานร่วมกับ iOS 15
  • iPhone SE มาในสามสีใหม่อันน่าทึ่ง — มิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ รุ่น (PRODUCT)RED
  • iPhone SE จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม
  • iPhone SE เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้ปัจจุบันของ Apple และสำหรับลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ iPhone

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

  • iPhone SE จะวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ในสีมิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED ในราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท
  • ลูกค้า จะสามารถสั่งซื้อ iPhone SE ล่วงหน้าได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม
  • ลูกค้าสามารถซื้อ iPhone SE ในราคา 1,590 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 10 เดือน ก่อนการแลกซื้อที่ apple.com/th/store, ในแอป Apple Store® และที่ร้าน Apple Store7
  • นอกจากนี้ iPhone SE ยังวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์บางรายด้วย
  • Apple มีบริการหลายประเภทให้แก่ลูกค้าทั้งในร้านและทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือและคำแนะนำเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายจาก Apple Specialists จนถึงบริการจัดส่งและรับสินค้าที่ร้านที่สะดวกสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพราะ Apple ตั้งใจให้ Apple Store apple.com/th/store เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั่นเอง

Apple เปิดตัว iPad Air ใหม่

  • iPad Air ใหม่มาพร้อมชิป M1, 5G , กล้องหน้าใหม่พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง”
  • พอร์ต USB-C ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเพิ่มขึ้น 2 เท่า และ 5G ที่เร็วสุดแรงในรุ่นเซลลูลาร์
  • ชิป M1 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับแอปและเวิร์กโฟลว์ที่ต้องใช้พลังประมวลผลหนัก ๆ ได้ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ช่วยให้ตัดต่อวิดีโอระดับ 4K หลายสตรีม ไปจนถึงการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนัก ๆ การออกแบบห้องใหม่ในรูปแบบ 3 มิติ หรือสัมผัสประสบการณ์ความจริงเสริม (AR) ที่สมจริงยิ่งขึ้น
  • CPU แบบ 8-core ประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้น 60% และ GPU แบบ 8-core มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่เร็วขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Air รุ่นก่อนหน้า
  • กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” จะแพนตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในเฟรมเสมอ
  • iPad Air ใหม่ใช้ได้กับ Magic Keyboard และ Apple Pencil® (รุ่นที่ 2)
  • iPad Air ใหม่มาในหลากหลายสี ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้าใหม่

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

  • iPad Air ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อเร็วๆนี้ทางapple.com/th/store
  • iPad Air รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท iPad Air ใหม่ รุ่นความจุ 64GB และ 256GB มาในสีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้า
  • iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ จะมีมาให้ในเครื่องพร้อมกับ iPad Air ใหม่ iPadOS 15 พร้อมให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ iPad Air 2 และใหม่กว่า
  • ราคาส่งเสริมการศึกษาสามารถใช้ได้กับนักศึกษาที่กำลังศึกษาหรือเพิ่งเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและผู้ปกครอง รวมถึงอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ iPad Air ใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 19,200 บาท Apple Pencil รุ่นที่ 2 มีวางจำหน่ายในราคา 4,190 บาท, Smart Keyboard Folio มีวางจำหน่ายในราคา 5,300 บาท และ Magic Keyboard มีวางจำหน่ายในราคา 9,300 บาท สำหรับนักศึกษา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th-edu/shop
  • Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ที่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา4,490 บาท
  • Magic Keyboard สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในสีดำและสีขาวในราคา 9,990 บาท ซึ่งมาพร้อมเลย์เอาท์กว่า 30 ภาษา
  • Smart Keyboard Folio สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในราคา 5,990 บาท
  • Smart Folio สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท โดยมาในสีดำ สีขาว สีส้มอิเล็คทริค สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีมารีนบลู
  • ลูกค้าสามารถนำ iPad เครื่องปัจจุบันมาแลก เพื่อรับเครดิตสำหรับใช้ซื้อเครื่องใหม่ได้ เมื่อ Apple ได้รับและตรวจสอบอุปกรณ์แล้ว เราจะคืนเครดิตให้ลูกค้าผ่านทางวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าเลือก
  • สลักอิโมจิผสมกับชื่อ ตัวย่อ และตัวเลขที่มีความหมายลงบน iPad ทั้งหมดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ apple.com/th/store หรือในแอป Apple Store เท่านั้น
  • Apple มีบริการหลายประเภทให้แก่ลูกค้าทั้งในร้านและทางออนไลน์ ทั้งความช่วยเหลือและคำแนะนำเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายจาก Apple Specialists จนถึงบริการจัดส่งและรับสินค้าที่ร้านที่สะดวกสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพราะ Apple ตั้งใจให้ Apple Store และ apple.com/th/store เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั่นเอง
×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน