Share on
×

Share

‘อุทยานมิตรผล ด่านช้าง’ ตั้งเป้าลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในวิกฤติสภาวะแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก หลายองค์กรพยายามช่วยกันชะลอภาวะโลกร้อนด้วยทกวิถีทางที่จะทำได้ กลุ่มมิตรผล เองก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่ดึงเอาศักยภาพที่หลากหลายของกลุ่มธุรกิจในเครือออกมาใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และได้แชร์ประสบการณ์จาก 2 โครงการที่น่าสนใจในงาน Sustainability Expo 2022 คือ อุทยานมิตรผลด่านช้าง และขอนแก่นอินโนเวชั่นเซ็นเตอร์

อุทยานมิตรผลด่านช้าง ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการทำไร่อ้อยอย่างแพร่หลาย และการทำไร่อ้อยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะจากการเผาไร่อ้อยหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งในแต่ละปีมีการเผาไร่อ้อยถึงร้อยละ 70-80 ซึ่งทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในจังหวัดสุพรรณบุรี สูงถึงประมาณ 3 ล้านตันคาร์บอนเทียบเท่า

ภาครัฐและเอกชนในจังหวัดสุพรรณบุรีจึงได้ร่วมมือกันตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 อุทยานมิตรผลด่านช้าง เองเป็นส่วนหนึ่งของแผนการนี้โดยที่มีการตั้งเป้าหมายว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 10 หรือประมาณ 3 แสนตัน

ด้วยความร่วมมือจากจังหวัดสุพรรณบุรี ชุมชนในพื้นที่ กรมป่าไม้ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อุทยานมิตรผลด่านช้าง ดำเนินการ 6 ด้านเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ การใช้พลังงานสะอาด การนำโมเดล BCG มาใช้ การทำ Green Cane ซึ่งลดการเผาอ้อยด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรตัดอ้อยสดและการที่กลุ่มมิตรผลรับซื้อใบอ้อยในราคาตันละ 1,000 บาท รวมทั้งยังมีการจัดการน้ำและขยะจากอุตสาหกรรม การปลูกป่า และการชดเชยคาร์บอน

อุทยานมิตรผลด่านช้าง เปลี่ยนระบบการบำบัดน้ำเสียจากบ่อ pre-treatment ที่ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนระหว่างกระบวนการบำบัดมาเป็นระบบเร่งการตกตะกอน ทำให้นำน้ำเสียที่บำบัดแล้วสามารถนำกลับมาใช้ได้ทั้งหมด รวมทั้งยังแบ่งน้ำครึ่งหนึ่งให้เกษตรกรใช้ในการทำไร่ มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แบบลอยน้ำที่ช่วยลดการระเหยของน้ำ ส่วนเศษดินที่มาพร้อมกับอ้อยจะนำไปใช้ปลูกพืช คาดว่าการดำเนินการทั้ง 6 ด้าน จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 89,500 ตัน

ธนพงศ์ อุดมศิลป์ ผู้อำนวยการด้านโรงงานน้ำตาลมิตรผลด่านช้าง กล่าวว่า มีการส่งเสริมการปลูกป่าในพื้นที่โรงงาน ในไร่ ป่าเสื่อมโทรมและป่าสงวน โดยในปีแรกของโครงการได้ปลูกป่าไปแล้ว 1,500 ไร่ และตั้งเป้าจะปลูกให้ได้ 15,000 ไร่ภายใน 10 ปี

“สิ่งที่สำคัญคือเราไม่ได้ปลูกป่าแล้วทิ้ง แต่เราติดตามความต่อเนื่องเพื่อให้ป่าเป็นป่า และทุกกิจกรรมที่เราทำ เราคำนึงถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเสมอจนกลายเป็นดีเอ็นเอของเรา”

นอกจากกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรซึ่งเป็นธุรกิจพื้นฐานของกลุ่มแล้ว กลุ่มมิตรผลยังได้สนับสนุนการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนด้วย โดยมี โครงการขอนแก่นอินโนเวชั่นเซ็นเตอร์เป็นแกนหลัก ซึ่ง โครงการขอนแก่นอินโนเวชั่นเซ็นเตอร์ เกิดจากการนำโครงการอาคารเก่าที่ถูกทิ้งร้างจากสมัยวิกฤติต้มยำกุ้งมาปรับโฉมใหม่ เป็นการสร้างคุณค่าใหม่ให้ของที่เคยไร้ประโยชน์ (Turn Waste to Value) โดยปรับปรุงมาเป็นโครงการอเนกประสงค์เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และอาคารในย่านศรีจันทร์ในขอนแก่นแห่งนี้ ถูกวางตำแหน่งไว้ให้เป็นโครงการขับเคลื่อนศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของจังหวัด

โครงการนี้มีองค์ประกอบของการเป็นเมืองอัจฉริยะครบทั้ง 7 ด้าน คือ Smart Environment, Smart Energy, Smart People, Smart Governance, Smart Economy, Smart Mobility และ Smart Living

ทักษ์ ศรีรัตโนภาส ผู้อำนวยการโครงการขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ บริษัท ขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า จากแนวคิด Smart หรืออัจฉริยะ ไม่จำเป็นต้องทันสมัยล้ำยุคมาก แต่ต้องมีในสิ่งที่จำเป็นครบ นี้ โครงการขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จึงถูกปรับปรุงใหม่ให้มีการใช้งานแบบอเนกประสงค์ โดยพื้นที่ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็นส่วนโรงแรม สำนักงาน พื้นที่ co-working space และที่สำคัญคือเป็น incubation center ที่เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาใช้ทดลองสร้างสรรค์นวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร อาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ งานสร้างสรรค์เช่น ดนตรี ศิลปะ และงานวิจัยในด้านต่าง ๆ

“SMART หรืออัจฉริยะ ไม่จำเป็นต้องทันสมัยล้ำยุคมาก แต่ต้องมีในสิ่งที่จำเป็นครบ”

ความ “สมาร์ท” ของโครงการ เริ่มตั้งแต่การออกแบบพื้นที่ เช่นในชั้นบนสุดที่เป็นโรงแรม มีการปรับปรุงอาคารให้ลมผ่านได้มาก อาศัยแสงและลมธรรมชาติเพื่อลดการใช้ไฟฟ้าทำให้ไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศเลย รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบ้านปูมาติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในโครงการ การให้บริการ Wi-Fi และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตในโครงการ เช่น การจองห้องและเช็คอินโรงแรมผ่านแอปพลิเคชันก่อนรับกุญแจดิจิทัลขึ้นไปเปิดห้องพักได้เองทันที การจองรถหรือมอเตอร์ไซค์ผ่านแอปพลิเคชันที่สามารถดูได้ว่ามีมอเตอร์ไซค์ว่างให้ใช้ไหม จอดที่จุดไหน สามารถรับมาใช้และคืนได้ที่จุดไหน ชาร์จไฟได้ที่จุดไหน ระบบที่สามารถเชื่อมโยงกับชุมชนโดยรอบได้เพื่อค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการต่าง ๆ ในบริเวณชุมชนรอบโครงการ ระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถจดจำใบหน้าและป้ายทะเบียนรถได้ เป็นต้น ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการวางระบบที่เชื่อมโยงคนและระบบต่าง ๆ เพื่อให้มีการเชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น

“ความร่วมมือระหว่างขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์กับมหาวิทยาลัยขอนแก่นจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการนำผลงานวิจัยในห้องแล็บมาสร้างให้เกิดรูปธรรมและใช้งานได้จริง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่จะสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมและเปิดโลกการสร้างสรรค์อย่างจริงจัง” ทักษ์กล่าว

การดึงเอาศักยภาพในธุรกิจที่หลากหลายของมิตรผลมาใช้เพื่อวางรากฐานและขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่ถูกเล่าต่อและสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่เข้าชมงาน Sustainability Expo 2022 ได้มองเห็นช่องทางในการสร้างความยั่งยืนในรูปแบบต่าง ๆ กระตุ้นให้เกิดการลงมือทำจริง และสร้างสมดุลเพื่อโลกที่ดีกว่าสำหรับทุกคน

×

Share

ผู้เขียน