จากสถานการณ์ข่าวปลอมที่เกิดขึ้นในสังคม สร้างผลกระทบทางลบต่อผู้รับสาร เกิดการถูกหลอกลวง และสร้างความสูญเสียแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนไม่น้อย
ตัวเลขจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุว่าในปี 2565 มีการรับแจ้งเบาะแสและติดตามการสนทนาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับข่าวปลอม พบว่ามีข้อความข่าวที่ต้องคัดกรอง517,965,417 ข้อความ หลังจากคัดกรองพบข้อความข่าวที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ14,859 เรื่องแบ่งเป็น โดยหมวดหมู่นโยบายรัฐ 3,772 เรื่อง ตามมาด้วย หมวดหมู่สุขภาพ 2,344 เรื่อง หมวดหมู่เศรษฐกิจ 634 เรื่อง และหมวดหมู่ภัยพิบัติ 450 เรื่อง
ล่าสุด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมมือกับธนาคาร 16 แห่ง สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ การแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์และข่าวปลอม แก่ประชาชนผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร เพื่อร่วมกันเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารที่ถูกต้องต่อประชาชนและสาธารณชน เป็นการเพิ่มช่องทางในการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันการหลอกลวงออนไลน์ และข่าวปลอม ป้องกัน และยับยั้งการถูกหลอกลวง ลดความสูญเสียของประชาชนในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการขยายผลการดำเนินการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการรู้เท่าทันมิจฉาชีพ จากการที่กระทรวงดิจิทัลฯ ได้นำร่องจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยในการใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งมีประชาชนใช้งานกว่า 40 ล้านคน เป็นช่องทางแจ้งเตือนภัยออนไลน์ ในช่วงปลายปี 2565 โดยจะเชื่อมโยงข้อมูลจากฐานข้อมูลข่าวปลอม ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (AFNC) ที่ดําเนินงานโดยกระทรวงดิจิทัลฯ ไปยังแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ เพื่อให้มีการเผยแพร่การแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางการเงิน หรืออาชญากรรมทางการเงิน (Financial Fraud) ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งทางออนไลน์และข่าวปลอมแก่ประชาชน เพื่อให้รับทราบและเท่าทันต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
สำหรับ 16 ธนาคารที่เข้าร่วมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารเกียรตินาคินจำกัด (มหาชน), ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน), ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน), ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน), ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน), ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน), ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน
ความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อต้องการลดอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีการออกมาตรการต่าง ๆ ตามมา อาทิ ธนาคารงดส่งลิงก์ทุกประเภทผ่าน SMS อีเมล, ธนาคารต้องแจ้งเตือนบน Mobile Banking ก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง, กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์ปิดกั้น SMS และเบอร์ Call Center รวมกว่า 167,000 เบอร์, สำนักงาน ปปง. ได้ส่งรายชื่อบุคคลพฤติกรรมเสี่ยงสูง หรือต้องเฝ้าระวัง กรณีบัญชีม้า (รหัส HR-03) ผ่านระบบให้ธนาคารเฝ้าระวัง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แคสเปอร์สกี้ แนะ 11 ข้อ ปกป้องธุรกิจไทยจากภัยออนไลน์ ช่วง WFH ภัยคุกคามเพิ่ม 42.34%
Google จัดกิจกรรม ‘Safer Songkran’ ให้ความรู้ความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ ใจกลางสยาม