บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน“Huawei Cloud Database Summit Thailand 2024” ภายในงาน หัวเว่ยผนึกกำลังร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรชั้นนำเปิดตัวโซลูชัน GaussDB เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยเข้าถึงเทคโนโลยีฐานข้อมูล AI-Native และเร่งกระบวนการพลิกโฉมสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ หัวเว่ย คลาวด์ยังเปิดตัวโครงการนำร่อง GaussDB Pioneer Program เพื่อผลักดันนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีฐานข้อมูลในประเทศไทย
เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวระหว่างพิธีเปิดว่า “การปฏิวัติด้านดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเรา โดยเราเห็นการใช้งาน AI มากขึ้นในธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งฐานข้อมูลนับเป็นพื้นฐานของการปฏิวัติทางดิจิทัล และการปลดปล่อยข้อมูลในยุคของบิ๊ก ดาต้าและ AI นั้นมีความท้าทายอยู่สี่ประเด็นหลัก คือ ประการแรก การประมวลผลข้อมูลปริมาณมากที่หลากหลายและกระจัดกระจายด้วยการใช้ฐานข้อมูล ประการที่สอง การคงประสิทธิภาพที่สูงในการประมวลผลข้อมูลมาก ๆ ในเวลาพร้อมกัน ประการที่สาม การรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั่วถึงและการจัดการกับการละเมิดข้อมูล และประการที่สี่ แนวโน้มดิจิทัลซึ่งได้รับความนิยมในทุกธุรกิจที่ต้องการอีโคซิสเต็มท้องถิ่นที่หลากหลายและเข้มแข็ง เราภูมิใจที่จะเสนอ GaussDB ฐานข้อมูลรุ่นต่อไปของเราให้กับประเทศไทย ซึ่งจะมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อปลดล็อกคุณค่าของข้อมูลอย่างเต็มที่ และ “ให้โลกมีตัวเลือกที่ดีกว่า” “
GaussDB ได้รับการพัฒนามานานกว่า 20 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 และได้รับการทดสอบผ่านการใช้งานจริง เช่น ฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ของหัวเว่ยถูกย้ายไปยัง GaussDB ช่วยลดเวลาการสร้างรายงานประจำปีจาก 30 วันเหลือเพียง 10 วัน และธนาคารชั้นนำแห่งหนึ่งของจีนใช้ GaussDB พลิกโฉมฐานข้อมูลเดิมให้กับระบบธุรกิจมากกว่า 150 ระบบ
6 ก้าวสำคัญที่ทำให้ GaussDB เป็นตัวเลือกสำหรับฐานข้อมูลแห่งอนาคต
บรูโน จาง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี หัวเว่ย คลาวด์ กล่าวถึง 6 ก้าวสำคัญที่ทำให้ GaussDB เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับฐานข้อมูลแห่งอนาคต 1) สถาปัตยกรรมขั้นสูง GaussDB ใช้สถาปัตยกรรมคลาวด์เนทีฟแบบ 3 เลเยอร์ (three-layer pooling) ให้บริการผู้ใช้หลากหลายองค์กร (Multi-Tenancy) และปลดล็อกประสิทธิภาพการทำงาน 2) GaussDB ให้บริการแบบมัลติ-โมเดล (multi-model) ผสานฐานข้อมูลแบบ HTAP, เวกเตอร์ และมัลติ-โมเดลขจัดสภาวะคอขวดของข้อมูล และสนับสนุนธุรกิจใหม่ได้มากขึ้น 3) ความพร้อมใช้งาน GaussDB ผสานการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อย่างลงตัว มาพร้อมดูอัล คลัสเตอร์ ทำงานสอดผสานกันอย่างเหนือชั้น จึงพร้อมใช้งานอยู่เสมอ 4) ความอัจฉริยะ GaussDB มาพร้อมแบบจำลองฐานข้อมูลขนาดใหญ่และมีระบบการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) แบบโต้ตอบทันที ลดข้อจำกัดด้านประสบการณ์ใช้งาน 5) การรักษาความปลอดภัย GaussDB มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบ E2E พร้อมการเข้ารหัสเต็มรูปแบบและระบบป้องกันการปลอมแปลง หมดกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว และ 6) อีโคซิสเต็มเปี่ยมศักยภาพ ฐานข้อมูลบุคคลที่สามสามารถโยกย้ายได้อย่างราบรื่นโดยอัตโนมัติและการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ช่วยลดข้อจำกัดของอีโคซิสเต็ม
ฐานข้อมูลหัวเว่ย คลาวด์วางรากฐานที่แข็งแกร่งพร้อมสร้างมูลค่าสูงสุดให้กับข้อมูล
เทคโนโลยีฐานข้อมูลเปลี่ยนไป 5 ทิศทางหลัก: จากฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ไปสู่แบบกระจาย, จากความน่าเชื่อถือของฮาร์ดแวร์เปลี่ยนเป็นความน่าเชื่อถือของซอฟต์แวร์, จากทรัพยากรคงที่ไปจนถึงการรองรับการขยายตัวแบบยืดหยุ่นบนคลาวด์, จากการบำรุงรักษาแบบแมนนวลเปลี่ยนเป็นระบบอัจฉริยะ, และเปลี่ยนจากการป้องกันความปลอดภัยจุดเดียวเป็นการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยรอบด้าน และเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของธุรกิจ หัวเว่ย คลาวด์ มอบบริการฐานข้อมูลชั้นนำระดับองค์กร 3 รูปแบบ ได้แก่ GaussDB, GaussDB for MySQL และ GeminiDB ซึ่งเป็นฐานข้อมูลแบบ multi-model NoSQL
GaussDB ผลักดันนวัตกรรมทางธุรกิจในอุตสาหกรรมการเงิน มอบระบบการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) แบบ deterministic และยกระดับความเสถียรและความน่าเชื่อถือของข้อมูลไปอีกขั้น
เปิดตัวโครงการ GaussDB Pioneer Program ในประเทศไทย
เซลีน เฉา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย คลาวด์ ประเทศไทย กล่าวในหัวข้อ “สร้างอนาคตดิจิทัลอัจฉริยะแบบก้าวกระโดดบนคลาวด์” โดยเน้นย้ำว่า “หัวเว่ย คลาวด์เป็นหนึ่งในสามผู้ให้บริการชั้นนำในตลาดคลาวด์สาธารณะในประเทศไทย และครองอันดับหนึ่งในตลาดไฮบริดคลาวด์ ทีมงานของเราทุ่มเทอย่างเต็มที่และผนึกกำลังร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อบ่มเพาะอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งในประเทศไทย”
ภายในงานครั้งนี้หัวเว่ย คลาวด์ ยังได้เปิดตัวโครงการนำร่อง GaussDB Pioneer Program ในประเทศไทย พร้อม 3 สิทธิพิเศษ ประการแรกลูกค้า 100 ท่านแรกจะได้รับสิทธิ์ทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน และได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญในช่วง 1 เดือนแรกของการใช้งาน ประการที่สองพาร์ทเนอร์ 100 รายแรก จะได้รับสิทธิ์ร่วมพัฒนาโซลูชันกับหัวเว่ย คลาวด์ พร้อมรับโอกาสทางธุรกิจและส่วนลดพิเศษ ประการที่สาม สำหรับสมาชิก คลาวด์ เนทีฟ อีลิท คลับ (Cloud Native Elite Club – CNEC) โดยสมัครสมาชิก CNEC และได้สิทธิ์เป็น 100 ท่านแรกที่เข้าร่วมกิจกรรมประจำเดือน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำทางความคิดระดับโลกและรับการฝึกอบรมพิเศษมากมาย
เปิดตัวคลาวด์ เนทีฟ อีลิท คลับ (Cloud Native Elite Club – CNEC) และ GaussDB (DWS) 3.0 ในไทย
หัวเว่ย คลาวด์ ยังได้จัดเสวนาระหว่างประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าจากองค์กรชั้นนำเพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายด้านฐานข้อมูล และคุณลักษณะที่จำเป็นของฐานข้อมูลในกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอัจฉริยะ โดยมีผู้นำจากธุรกิจและเทคโนโลยีชั้นนำกว่า 50 รายเข้าร่วม ได้แก่ ธุรกิจการเงิน ธุรกิจโทรคมนาคม และอินเทอร์เน็ตจากภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ในยุคแห่งอัจฉริยะ ความต้องการด้านข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นและมีความหลากหลายมากขึ้น การดำเนินธุรกิจเป็นแบบเรียลไทม์และเป็นระบบมากขึ้น ก่อให้เกิดความท้าทายใหม่ด้านความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของคลังข้อมูลที่รองรับการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ GaussDB (DWS) 3.0 เป็นบริการคลังข้อมูล (Data Warehouse Service – DWS) เจเนอเรชันใหม่บนคลาวด์ มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย ครอบคลุมตั้งแต่สถาปัตยกรรม, ความเข้ากันได้, ไปจนถึงการกำหนดการกู้คืนความเสียหายได้ตามความต้องการ
GaussDB มอบโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในยุคคลาวด์และ AI ซึ่งรวมถึงความพร้อมใช้งานสูง ช่วยลดอัตราการสูญหายและความขัดแย้งของข้อมูล พร้อมบริการกู้คืนข้อมูลสำคัญจากระยะไกลประสิทธิภาพและฟังก์ชันรองรับการขยายตัวของข้อมูลที่เหนือชั้น ทำให้สืบค้นข้อมูลที่ซับซ้อนจำนวนหลายพันล้านรายการได้ในไม่กี่วินาที ฐานข้อมูล GaussDB AI-native อัจฉริยะแบบ end-to-end มอบประสิทธิภาพการประมวลผลสูงขึ้นถึง 5 เท่า นอกจากนี้ ฐานข้อมูลที่เข้ารหัสด้วยซอฟต์แวร์เต็มรูปแบบทำให้ GaussDB ได้รับการรับรองความปลอดภัยระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม และที่สำคัญที่สุด GaussDB ติดตั้งและโยกย้ายข้อมูลได้ง่าย ทำให้ในปัจจุบันมีการใช้งานฐานข้อมูลของหัวเว่ย คลาวด์ มากกว่า 2,500 รายการในหลากหลายภาคส่วน รวมถึงธุรกิจการเงิน รัฐบาล ธุรกิจแบบดั้งเดิม อินเทอร์เน็ต และภาคการผลิต
ความสำคัญของ GaussDB ในประเทศไทย
- เอเชีย แปซิฟิค ไม่เพียงเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโลก แต่ยังเป็นแบบอย่างสำหรับภูมิภาคอื่น ๆ ในด้านความพยายามเข้าสู่การเป็นดิจิทัลและเติบโตในเศรษฐกิจดิจิทัล ศักยภาพในการเติบโตของภูมิภาคนี้ไม่เหมือนใคร และหัวเว่ยก็ได้รับเกียรติเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ โดยหลอมรวมโลกอัจฉริยะที่กำลังจะมาถึงด้วยกลยุทธ์ Al Intelligence ของเรา ซึ่งจะช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงอัจฉริยะของทุกอุตสาหกรรม เราต้องการให้ทุกสิ่งเชื่อมต่อกัน ทุกแอปพลิเคชันสามารถจำลองได้ และทุกการตัดสินใจสามารถคำนวณได้
- กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยได้ประกาศแผนในปี พ.ศ. 2567 เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลของประเทศ และยกระดับความแข็งแกร่งในเวทีนานาชาติ ภารกิจหลักของคณะกรรมการนี้ ซึ่งนำโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ มีกลยุทธ์รวมทั้งหมด 7 ด้าน ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมนวัตกรรม เสริมประสิทธิภาพบริการสาธารณะ และกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้งาน หนึ่งในนโยบายสำคัญคือนโยบาย Cloud First Policy ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคลาวด์ชั้นนำของภูมิภาค นโยบายนี้สนับสนุนให้มีการนำระบบคลาวด์มาใช้งานอย่างแพร่หลายเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิจิทัล ยกระดับคุณภาพการให้บริการของภาครัฐ และส่งเสริมการใช้งานข้อมูลขนาดใหญ่ อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือ กำหนดแผน AI Agenda ซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้าง AI ของประเทศไทย
(ที่มา (https://opengovasia.com/2024/02/16/thailands-digital-roadmap-for-2024/) - Huawei Cloud GaussDB ถือเป็นฐานข้อมูลที่มั่นคงสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการยกระดับสู่ความอัจฉริยะของการให้บริการทางภาครัฐ อุตสาหกรรมการธนาคาร องค์กร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม บริษัทอินเทอร์เน็ต และธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย ไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในยุค AI และการประมวลผลคลาวด์
เหตุผลที่ GaussDB ของหัวเว่ย เป็นวิธีที่ดีกว่าในการจัดการฐานข้อมูล และเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับฐานข้อมูล
- ความท้าทายในการจัดการฐานข้อมูล
- การรับมือกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณข้อมูลที่สำคัญ การขยายตัวอย่างรวดเร็วของจำนวนข้อมูลที่เข้ามาจากเซ็นเซอร์ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกัน และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ทำให้ผู้ดูแลฐานข้อมูลต้องทำงานอย่างหนักเพื่อจัดการและจัดระเบียบข้อมูลของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่สูงขึ้น เนื่องจากการรั่วไหลของข้อมูลเกิดขึ้นได้ทุกที่ในปัจจุบัน และบรรดาแฮกเกอร์ก็กำลังพัฒนาวิธีการโจมตีที่ไม่สามารถคาดคิดได้มากขึ้น
- การตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริษัทหรือองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เพื่อตอบสนองการตัดสินใจอย่างทันท่วงทีและใช้ประโยชน์ในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ
- การบริหารจัดการและบำรุงรักษาฐานข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ฐานข้อมูลมีความซับซ้อนมากขึ้นและปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้น บริษัทต่าง ๆ ต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรเพิ่ม เพื่อคอยตรวจสอบและปรับแต่งฐานข้อมูลขององค์กร
- การขจัดอุปสรรคจากการขยายตัวของธุรกิจ ธุรกิจมีการขยับขยายตลอดเวลา การเติบโตของธุรกิจและการจัดการข้อมูลของธุรกิจต้องเติบโตไปพร้อมกัน
- การรักษาความเป็นเจ้าของข้อมูล การควบคุมการเข้าถึงข้อมูล หรือการตอบสนองต่อความล่าช้า บางองค์กรมีฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสมกับการดูแลรักษาระบบด้วยตัวเอง สำหรับกรณีเหล่านี้ วิศวกรรมของระบบที่สามารถตั้งค่าไว้ล่วงหน้าและปรับแต่งเพื่อจัดการฐานข้อมูลจึงเหมาะที่สุด
หัวเว่ย Cloud GaussDB เป็นฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับภารกิจที่สำคัญ โดยมีความสามารถในการให้บริการที่ให้ความเสถียรสูง มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย รองรับการขยายตัวของข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นได้ และมีความอัจฉริยะซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนี้ ยังมีความสะดวกในการติดตั้งและย้ายข้อมูลไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย LINK
- จุดเด่นหลัก / ความสามารถในการแข่งขัน
- ความพร้อมใช้งาน: โซลูชันความสอดคล้องกันแบบคลัสเตอร์คู่ที่มีความเสถียรสูง การกู้คืนข้อมูลจากระยะไกลเมื่อเกิดเหตุรุนแรงอย่างมาก ซึ่งอยู่ห่างไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร โดยไม่มี RPO (recovery point objective) ฐานข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญสูงมากต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งความพร้อมใช้งานสูงมากเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง และไม่ก่อให้เกิดความผิดพลาดที่ทำให้เกิดการสูญเสียข้อมูล ความไม่สอดคล้องหรือการตอบสนองช้า ความพร้อมใช้งานของแอปพลิเคชันยังเกี่ยวเนื่องอย่างมากกับฐานข้อมูล จึงเป็นเหตุผลที่ความพร้อมใช้งานเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับฐานข้อมูลหัวเว่ย คลาวด์
- ประสิทธิภาพ: สูงสุดถึง 1.5 ล้าน tpmC สำหรับโหนดเดียวและ 15 ล้าน tpmC เมื่อใช้โหนด 32 สามารถค้นหาบันทึกหลายสิบพันล้านได้ในไม่กี่วินาที
- ความปลอดภัย: ฐานข้อมูลที่เข้ารหัสแบบซอฟต์แวร์อย่างเต็มรูปแบบ ได้รับการรับรอง CC EAL4+ ระดับสูงสุดด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรม ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: การรับประกันความทนทานของข้อมูลสูงถึงสิบสองตัวเลข (99.9999999999%) มั่นใจได้ว่าข้อมูลมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้
- การรองรับการขยายตัวของข้อมูล: การขยายจากโครงสร้างเดิมที่มีทางออนไลน์ในเวลาไม่กี่นาที ทำให้สามารถมีโหนดมากกว่า 1,000 โหนดในอินสแตนซ์แบบกระจายเดี่ยว จึงง่ายต่อการจัดการการใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนมากและการสืบค้นข้อมูลที่ซับซ้อน
- ความอัจฉริยะ: ฐานข้อมูลที่เป็น AI-native พร้อมความสามารถในการวิเคราะห์แบบ end-to-end ที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์สูงขึ้น 5 เท่าหรือมากกว่านั้น
- การติดตั้งและย้ายฐานง่าย
- การติดตั้งที่ยืดหยุ่นและเบา: คุณสามารถสร้างตัวอย่างฐานข้อมูลที่ประกอบด้วยโหนดหลักเพียงหนึ่งโหนด โหนดสแตนด์บายเพียงหนึ่งโหนด และโหนดบันทึกเพียงหนึ่งโหนด เพื่อประหยัดพื้นที่ในหน่วยเก็บข้อมูลและการประมวลผล และต้นทุนการติดตั้งยังลดลงได้ถึง 1/3 ส่วน
- การบริหารจัดการที่ถูกปรับปรุง: ทรัพยากรถูกกำหนดและแยกกันโดยผู้เช่า และสามารถจัดการ vCPU แต่ละตัวได้อย่างเหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร
- โซลูชันการย้ายฐานแบบครบวงจร: GaussDB ใช้เทคนิคการประเมินก่อนการย้ายฐานและเทคนิคการย้ายโครงสร้างของ UGO เพื่อแปลงโครงสร้างของฐานข้อมูลหลักเป็นโครงสร้างของ GaussDB โดยอัตโนมัติ และใช้ DRS เพื่อย้ายข้อมูลของฐานข้อมูลที่ไม่เหมือนกันผ่านทางออนไลน์
GaussDB ของหัวเว่ยถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย เพิ่มความสามารถในการแข่งขันสำหรับอุตสาหกรรม
มีการใช้งานฐานข้อมูลของหัวเว่ย คลาวด์ มากกว่า 2,500 รายแล้วในหลายส่วนธุรกิจต่าง ๆ เช่น การเงิน รัฐบาล ธุรกิจดั้งเดิม อินเทอร์เน็ต และการผลิต ปัจจุบัน แอปพลิเคชันหลักภายในของหัวเว่ยทำงานได้อย่างราบรื่นบน GaussDB และฐานข้อมูลของหัวเว่ย คลาวด์ ถูกนำไปใช้งานในระบบหลักของธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก เช่น ธนาคารอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของจีน ธนาคารเกษตร และธนาคารออมสินของจีน
กรณีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ GaussDB
- ธนาคารชั้นนำของจีนเปลี่ยนสู่การใช้งานดิจิทัลด้วย GaussDB: ธนาคารชั้นนำแห่งหนึ่งของจีนใช้ GaussDB เพื่อประมวลผลธุรกรรมมากถึง 2 พันล้านรายการต่อวัน และ 67,000 รายการต่อวินาทีในช่วงเวลาสูงสุดสำหรับลูกค้ารายบุคคลมากกว่า 650 ล้านคน ในสาขามากกว่า 40,000 แห่ง ความเร็วในการเชื่อมต่อเฉลี่ยถูกเร่งขึ้นเป็น 65 มิลลิวินาที ระยะเวลาประมวลผลเมื่อสิ้นสุดวันลดลงเหลือเพียง 197 นาที และการตั้งค่าดอกเบี้ยรวมใช้เวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น
- GaussDB ช่วยให้กรมการคลังส่วนภูมิภาคปรับปรุงการให้บริการสำคัญโดยใช้ระบบกระจาย (จังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งในภาคเหนือของประเทศจีน): ข้อมูลหลักด้านการให้บริการถูกจัดการและแบ่งปันโดยใช้ระบบศูนย์กลาง เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการของบริการชำระเงินได้ถึง 60% ศูนย์ข้อมูลที่เป็นระบบเดี่ยวรองรับแผนกการเงินมากกว่า 140 แห่ง และสำนักงบประมาณมากกว่า 30,000 แห่ง ให้ความมั่นใจในการดำเนินการผ่านทางออนไลน์ของผู้ใช้ 20,000 คนพร้อมกันในช่วงเวลาสูงสุด และการชำระเงินที่มีความปลอดภัยมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านหยวน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ม.พระจอมเกล้าธนบุรี ชูงานวิจัย แปรรูปเศษสับปะรดภูแล สกัดเป็นน้ำตาลหายาก เพิ่มมูลค่า ช่วยลดขยะอาหาร
