บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารตะวันตกเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย ร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 ชวนผู้เข้าชมงานร่วมชมนิทรรรศการ นำเสนอเรื่องราว KCG ตลอด 60 ปี พร้อมเผยภาพลักษณ์ และบริการใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “Food Innovation, Best One Stop Service Solutions” บริษัทที่ให้บริการครบวงจรด้านนวัตกรรมอาหาร
ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ เป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อ 3 สิงหาคม 2566 ครั้งนี้ถือเป็นการออกงาน THAIFEX ครั้งแรก โดยมีเป้าหมายคือการทำให้ KCG เป็นผู้นำด้าน Food Innovation รวมถึงการสร้างสรรค์ Menu Creation ร่วมกับคู่ค้าที่เป็นสัญชาติไทยช
ในงาน ThaiFex ครั้งนี้บูธ KCG จะบอกเล่าถึงเรื่องราว Smart solution ผ่านงานจัดแสดงภายในบูธ KCG เพื่อดึงคู่ค้าใหม่เข้ามาร่วมพูดคุย รวมถึงตอกย้ำคู่ค้าพันธมิตรเดิม ให้มีความเชื่อมั่นในการต่อยอดพัฒนา และคิดค้นโปรดักส์ใหม่ไปพร้อมกับ KCG โดยภายในบูธจะแบ่งนิทรรศการออกเป็น 5 โซน ดังนี้
- โซน KCG Corporate: จะมีการนำเสนอเนื้อหาทั้งหมด 4 หัวข้อได้แก่ หัวข้อที่หนึ่ง: Innovation & Award-Winning Products จัดแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของ KCG เพื่อตอบรับเทรนด์การบริโภคอาหารในอนาคต ร่วมถึงแสดงผลิตภัณฑ์ของ KCG ที่ได้รับรางวัล Superior Taste Awards รางวัลการันตีด้านรสชาติมาตรฐานระดับโลก จากสถาบัน International Taste Institute จาก Brussel ประเทศเบลเยียมที่นับว่าเป็นเครื่องหมายการันตีรสชาติอาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านการทดสอบและประเมินจากเชฟและผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มชั้นนำ ซึ่งในปี 2567 KCG ได้รับรางวัลประเภทผลิตภัณฑ์บิสกิต ได้แก่ ผลิตภัณฑ์คุกกี้เดนมาร์กได้รับรางวัล 2 ดาว และโรซี่แครกเกอร์ได้รับรางวัล 3 ดาว หัวข้อที่สอง: Sustainability นำเสนอเรื่องราวความเติบโตขององค์กรที่ควบคู่กับการสร้างความรื่นรมย์ในรสชาติ ให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย และสังคมอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG หัวข้อที่สาม Supply chain management: นำเสนอเรื่องราวของ KCG Logistics Park ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าครบวงจรแห่งใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิต ขานรับอุตสาหกรรมอาหารตะวันตกและเบเกอรี่ที่กำลังเติบโตขึ้น หัวข้อที่สี่ KCG chefs: นำเสนอเรื่องราวของเชฟของ KCG ที่เป็นผู้คิดค้นและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ KCG
- โซน KCG Products Highlight : จัดแสดง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สินค้าไฮไลต์ และโปรโมชันภายในงานอาทิ Allowrie (อลาวรี่) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เนยและชีสยอดขายอันดับ 1 ยาวนานถึง 8 ปีซ้อน และ BISCUITS Imperial อิมพิเรียล บัตเตอร์คุกกี้สไตล์เดนมาร์ก และบิสกิตหลายหลายความอร่อย
- โซน KCG Business Solutions : นำเสนอข้อมูลทาง Solutions สร้างประสบการณ์ และการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่จัดหาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการลูกค้า ให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPD) อย่างใกล้ชิด จนถึงการเสนอความร่วมมือเชิงกลยุทธ์โอกาสในการสร้างแบรนด์ เพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจร่วมกันระหว่าง KCG และพันธมิตร
- โซน Indoguna Thailand : บูธ บริษัท อินโดกูนา (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจนำเข้าเนื้อสัตว์ และอาหารซีฟู้ด ซึ่ง “อินโดกูนา” ถือเป็นบริษัทซัพพลายเออร์ให้บรรดาร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำ ภัตตาคาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และ โรงงานผลิตอาหาร
- โซน Demonstration : โซนที่จะนำนวัตกรรมอาหารวัตถุดิบที่ผลิตและนำเข้าโดย KCG หลากหลายชนิด มารังสรรค์และสาธิตเมนูโดย KCG Ambassador chefs
นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุลกล่าวต่อไปว่า การจัดบูธในปีนี้เรามุ่งเน้นให้ผู้เข้าชมได้ทราบถึงเรื่องราวในทุกแง่มุมของการดำเนินธุรกิจของ KCG เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้า และผู้บริโภค อีกทั้ง KCG เรามุ่งมั่นทรานส์ฟอร์มองค์กรให้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ยกระดับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นบริการใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค และผู้ประกอบการ
เปิดตัว แก้วกาแฟกินได้ และ ชีสสไลซ์แผ่นรสกะเพรา

ภายในงานทาง KCG เปิดตัว 2 นวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG รวมถึง การสร้างสรรค์รสชาติและประสบการณ์ใหม่ ให้แก่ผู้บริโภค ด้วยกัน 2 ผลิตภัณฑ์ คือ IMPERIAL Edible Cookie Cup นวัตกรรมแก้วกาแฟกินได้ สามารถใช้ใส่เครื่องดื่ม และตัวแก้วสามารถทานได้ โดยตัวแก้วทำจากคุกกี้อิมพีเรียลสูตรพิเศษ ที่ช่วยเพิ่มรสสัมผัสในการดื่ม และไม่เหลือขยะทิ้งไว้ให้โลก เพื่อลด Food waste
อีกหนึ่งนวัตกรรมคือ DAIRYGOLD ผลิตภัณฑ์ชีสสไลซ์แผ่นรสกะเพรา ผสมผสานความเป็นตะวันออกกับตะวันตกอย่ลงตัว เพื่อตอบรับ Modern Lifestyle โดยผสมชีสแท้กับรสชาติผัดกะเพรา เมนูยอดฮิตของคนไทย ได้รสชาติลงตัวด้วยความมันนัวของชีส กับกลิ่นหอมและรสชาติแบบไทยๆ ของใบกระเพราและความเผ็ดร้อนจัดจ้าน
“ปัจจุบันเราดำเนินงานด้วยนโยบายการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์บนกรอบของการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมใหม่ในทุกกลุ่มสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่องค์กรเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน” ดำรงชัย ทิ้งท้าย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
3 พันธมิตรเปิดแบรนด์ ‘หม่ำแซ่บXปุ้มปุ้ย’ ปลากระป๋อง-หอยลายเอาใจคนรักเมนูอีสาน
MK Group โชว์ 6 ไฮไลต์พอร์ตธุรกิจ เปิดรับคู่ค่าในไทยและต่างประเทศ ร่วมเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน