กลับมาอีกครั้งกับงาน Trend Micro Risk to Resilience World Tour ปี 2024 ภายใต้ธีม Innovation meets Adrenaline งานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้จาก Trend Micro ที่จัดขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
งานนี้ Trend Micro ฉายภาพนักพัฒนาที่แข่งขันเพื่อเอาชนะภัยคุกคาม หรือ “Race against Threats” เพราะโลกธุรกิจในวันนี้มีภัยคุกคามซ่อนอยู่ทั่วทุกมุม ผู้นำองค์กรจะต้องทำงานเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตี โดยเฉพาะปัจจุบันอาชญากรไซเบอร์ได้นำ AI เข้ามาเป็นเครื่องมือหลักในการโจมตีช่องโหว่ต่าง ๆ มากขึ้น
จากปัจจัยข้างต้น Trend Micro จึงเดินหน้าวิสัยทัศน์ AI for Security โดยนำ Generative AI เข้ามายกระดับแพลตฟอร์ม Vision One เพื่อตรวจจับภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์ธุรกิจในยุค GenAI
ดัณยา ทักการ์, รองประธานอาวุโสฝ่ายขายและการตลาดทั่วโลก เทรนด์ไมโคร กล่าวว่า “ตั้งแต่บริษัท Trend Micro ได้ก่อตั้งเมื่อ 35 ปีที่แล้ว เราได้พัฒนาแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์มาตลอด โดยยึด 2 มิติหลักเป็นสิ่งสำคัญ คือ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การเกิดขึ้นของสมาร์ทโฟนได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ขณะที่คลาวด์เข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทุกครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงบริษัทจะต้องมีโซลูชันใหม่ ๆ เข้ามาตอบโจทย์”
“วันนี้ AI เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคและโครงสร้างพื้นฐาน สร้างผลกระทบกับการทำธุรกิจ คนหันมาใช้ AI ช่วยทำงานมากขึ้น ขณะที่องค์กรขนาดใหญ่เริ่มติดตั้ง LLM หรือ Large Language Models โมเดลพื้นฐานการประมวลผลของ Generative AI แบบ Private กันมากขึ้น ด้านอาชญากรไซเบอร์ได้เปลี่ยนรูปแบบการโจมตีโดยอาศัย AI เป็นเครื่องมือหลัก ทำให้เกิดเคสการโจมตีใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น สร้างความท้าทายกับผู้ป้องกัน”
จับมือ Nvidia พัฒนา AI for Security
จากความท้าทายของการโจมตีรูปแบบใหม่ ๆ ทำให้ Trend Micro จับมือกับ Nvidia หนึ่งในบริษัทผู้นำด้าน AI ที่มีนวัตกรรมทั้ง GPU และ Data Center ร่วมลงทุนทั้งเงินทุนและทรัพยากรต่าง ๆ พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ดัณยา กล่าวว่า การร่วมมือกับ Nvidia ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม NVIDIA Morpheus ให้ตรวจจับภัยคุกคามได้รวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยลงใน NVIDIA NIM โซลูชันดังกล่าวจะเข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจที่ใช้ Public Cloud รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าที่ใข้ Private Cloud เช่นหน่วยงานภาครัฐที่ต้องปกป้องฐานข้อมูลภายในประเทศไม่ให้รั่วไหลออกไป
“เราเชื่อว่าองค์กรต่าง ๆ กำลังมองหาระบบรักษาความปลอดภัยที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดจากภัยคุกคาม แทนที่จะต้องอยู่กับความเสี่ยงกับการโจมตี”
พร้อมดึง AI โซลูชันตอบโจทย์ธุรกิจในไทย
ด้าน ปิยธิดา ตันตระกูล กรรมการผู้จัดการ เทรนด์ไมโคร กล่าวถึงการนำแพลตฟอร์ม Vision One ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เข้ามาช่วยองค์กรในไทยว่า ปัจจุบันองค์กรในไทยเริ่มนำ AI เข้ามาช่วยยกระดับการทำธุรกิจ ทำให้ต้องพิจารณาถึงระบบการป้องกันภัยที่ดีด้วยเช่นกัน ซึ่ง Trend Micro ประเทศไทย ได้เดินหน้านำแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI เข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจ เพราะช่องทางการโจมตีองค์กรในวันนี้มีความหลากหลายมากขึ้นทั้งผ่านทางสมาร์ทโฟน แพลตฟอร์มประชุมทางไกล อีเมล แอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น ด้านการเงิน หรือแม้แต่แอปฯ ฝ่ายบุคคล (HR)
ฉะนั้นในมิติของการป้องกันจึงต้องถูกยกระดับเป็นแพลตฟอร์มที่ป้องกันได้หลากหลายช่องทาง และฉลาดมากขึ้นในการป้องกัน ไม่ว่าจะถูกโจมตีด้วย Deepfake หรือพวก Prompt Injections ระบบจะต้องระบุได้ว่าใครคือผู้บุกรุก ซึ่งเป็นสิ่งที่ Trend Micro ประเทศไทย นำเสนอให้กับลูกค้าปัจจุบัน
นอกจากแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI บริษัทยังมีการเทรนนิ่งทีมงานให้มีความเข้าใจด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้มากขึ้น ยกระดับพนักงานให้เป็น Trusted Advisory ที่สามารถพูดคุยกับลูกค้าในด้านเทคนิค และวางแผนงาน 3-5 ปี ให้กับลูกค้าได้
“เทรนด์ไมโคร มีทีมที่สามารถนำเทคนิคต่าง ๆ มาปรับแต่งให้เหมาะสมกับประเทศไทย มีทีมวิเคราะห์ว่าลูกค้าประสบปัญหาด้านใดมากที่สุด คอยระมัดระวังและคอยปกป้องลูกค้า และทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ” ปิยธิดา กล่าว
“Trend Micro มีลูกค้ากว่า 500,000 รายทั่วโลกที่มั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของเรา ถึงแม้วันนี้การโจมตีจะเข้ามาจากหลากหลายช่องทาง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องมองเห็นทุกๆ การโจมตี ซึ่งเรายังคงลงทุน R&D จำนวนมากในแต่ละปีเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ในทุกมิติ เพราะคู่แข่งของเราไม่ใช่บริษัทที่ทำแพลตฟอร์มไซเบอร์ซีเคียวริตี้ แต่เป็นอาชญากรไซเบอร์” ดัณยา กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
AI ดาบสองคม ใช้งานได้ดี อย่าลืมป้องกันจุดอ่อน
กรุงไทยชี้เทคโนโลยี AI ช่วยลด Food Loss ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี