ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวแบบ Sideways Down ไร้แรงส่งและวอลลุ่มในตลาดไม่เป็นใจ การลงทุนหรือการหาจังหวะเก็งกำไรในหุ้นไทยอาจเป็นเรื่องยากและมีความท้าทาย แต่รู้หรือไม่ ปัจจุบันมีเครื่องมือการลงทุนชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Coupon) อย่างสม่ำเสมอ โดยที่นักลงทุนไม่ต้องนั่งเทรดหุ้นเอง
วันนี้หลักทรัพย์บัวหลวง อยากจะชวนให้ทุกคนรู้จักผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีชื่อว่า FCN หรือ Fixed Coupon Note ซึ่ง FCN เป็นเครื่องมือการลงทุนที่สามารถ
- สร้างกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยคงที่ ตอบโจทย์ภาวะตลาดผันผวนและมีการแกว่งตัวในกรอบมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนหุ้นกู้ทั่วไป เฉลี่ย 7-15% ต่อปี
- เลือกรับดอกเบี้ยเป็นกระแสเงินสดรายเดือน หรือ ทุก ๆ สองสัปดาห์ผลตอบแทนอ้างอิงกับการเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวใน SET50 สามารถตั้งราคากรอบล่าง (Knock In) ช่วยลดความเสี่ยงหากราคาหุ้นปรับตัวลงในระดับหนึ่ง ลงทุนได้ในอายุที่ค่อนข้างสั้น โดยมีระยะเวลาของสัญญาให้เลือกที่ 3-9 เดือน
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมายังคงเคลื่อนไหวแบบ Sideways Down และขาดปัจจัยใหม่ ๆ ในการเข้ามากระตุ้นรวมถึงมุมมองการลงทุนที่ยังไม่ชัดเจน โดยช่วงที่ผ่านมาราคามีการเคลื่อนไหวหลุดโซนแนวรับที่ 1,300 จุด และรีบาวน์กลับมาเคลื่อนไหวในกรอบราคา 1,350-1,290 จุด ขณะที่เส้น RSI มีการฟื้นตัวหลังจากที่เคลื่อนไหวเข้าใกล้โซน Oversold ซึ่งทิศทางราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนข่าวผลประกอบการที่มีการเติบโตค่อนข้างจำกัด รวมถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในสภาวะที่ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” เคลื่อนไหวแบบไร้แรงส่งมาตั้งแต่ต้นปี โดยนักลงทุนยังคงต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์และอยู่ในโหมดระมัดระวังในการลงทุนกันต่อไป
ในสภาวะที่ตลาดยังมีความไม่แน่นอนทำให้การจับจังหวะลงทุนทำได้ยาก การลงทุนใน FCN จึงถือเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะถูกออกแบบมาให้สามารถสร้างดอกเบี้ยเงินต่อเนื่องในทุก ๆ เดือน หรือทุก ๆ สองสัปดาห์ตลอดอายุสัญญา FCN โดยไม่จำเป็นต้องเฝ้าจอคอยดูราคาหุ้นอยู่ตลอดเวลา และด้วยอายุสัญญาตั้งแต่ 3-9 เดือนที่ โดยสามารถปรับหรือประเมินสถานการณ์ได้ตามกลยุทธ์ สภาวะตลาดและปรับแผนการลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นขึ้น
FCN เป็นสัญญาที่อ้างอิงกับราคาหุ้น 1 ตัว หรือ จับคู่หุ้น 2 ตัว (เลือกหุ้นอ้างอิงใน SET50) และมีการจ่ายผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยคงที่ให้นักลงทุนเป็นรายงวด “ทุก ๆ เดือน หรือทุก ๆ 2 สัปดาห์” ตลอดการถือครอง ไม่ว่าราคาหุ้นจะขึ้นจะลงหรือราคาหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการจ่ายผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ในช่วง 7 – 15% ต่อปี ซึ่งอัตราผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับความผันผวนของหุ้นอ้างอิง จำนวนหุ้นที่เลือกในสัญญา และช่วงระยะเวลาลงทุนที่เลือกซึ่งจะอยู่ตั้งแต่ 3,6 หรือ 9 เดือน โดยจะมีลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มเติมขึ้นมา นั่นก็คือ ราคาใช้สิทธิ Strike Price คือ ราคาต้นทุนของหุ้นอ้างอิงเมื่อเกิดกรณีต้องรับหุ้นเมื่อครบกำหนดอายุ ราคา Knock Out (เปรียบเสมือนราคากรอบบนที่กำหนดเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแตะระดับมากกว่าหรือเท่ากับราคา Knock Out ในวันที่สังเกตราคาเดือนละครั้ง หรือ ทุก ๆ สองสัปดาห์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับการไถ่ถอน FCN เป็นเงินต้นทั้งจำนวนก่อนครบกำหนด พร้อมดอกเบี้ยงวดนั้น ๆ) และ ราคา Knock In ที่เปรียบเสมือนราคากรอบล่างที่กำหนด โดยหากราคาหุ้น ณ วันใดวันหนึ่ง ปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าราคา Knock In ในช่วงตลอดอายุสัญญา จะมีโอกาสขาดทุนในส่วนของเงินต้นเมื่อครบกำหนดอายุของตราสาร ซึ่งโดยปกติราคา Knock In จะอยู่ที่ระดับ 80-90% ของราคาหุ้นอ้างอิง ณ วันทำสัญญา ซึ่งหากราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบและไม่ลดลงไปต่ำกว่าราคา Knock In เมื่อครบสัญญาลูกค้าจะได้เงินต้นกลับไปเต็มจำนวน
ตัวอย่าง โดยหาก FCN อายุ 6 เดือน ดอกเบี้ย 12% ต่อปี (เฉลี่ย 1% ต่อเดือน) ซึ่งหากเกิดกรณี Knock Out ขึ้นที่งวดดอกเบี้ยเดือนที่ 3 เท่ากับว่ากรณีนี้นักลงทุนได้รับดอกเบี้ย 1% ของเงินต้นในงวดที่ 3 และรับเงินต้นคืนเต็มจำนวน ณ งวดเดือนที่ 3 ที่เกิด Knock Out ทันที โดยเมื่อรวมกับดอกเบี้ยงวด 1 และ 2 รวมกันจะได้ผลตอบแทนรวมเป็น 3% ของเงินต้น ในระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น แต่หากราคาหุ้นอ้างอิงไม่เคยเคลื่อนไหวไปแตะราคา Knock Out หรือ Knock In เลยตลอดอายุสัญญา เมื่อกำหนดหนดอายุ นักลงทุนจะได้รับเงินต้นคืน พร้อมดอกเบี้ยในงวดสุดท้าย (ในตัวอย่างคืองวดที่ 6)
ดังนั้น FCN จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยสม่ำเสมอ แม้ว่าตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบก็ตาม อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะต้องเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นอ้างอิงโดยตรงได้ เนื่องจากมีโอกาสที่นักลงทุนจะได้รับไถ่ถอนเงินต้นคืนเป็นหุ้นอ้างอิงในกรณีที่เกิดการ Knock In ขึ้น และไม่เกิดการ Knock Out ขึ้นเลยตลอดสัญญา โดยเมื่อครบอายุสัญญาหากราคาปิดหุ้นใดหุ้นหนึ่งในสัญญาหรือหุ้นทั้ง 2 ตัว ในวันครบกำหนดอายุสัญญามีราคาต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ (Strike) ซึ่งในกรณีนี้จะทำให้เกิดการขาดทุนจากการที่ได้รับหุ้นโดยมีต้นทุนที่ราคา ณ วันแรกที่ทำสัญญา ซึ่งสูงกว่า ราคา ณ วันครบกำหนดอายุ ทั้งนี้นักลงทุนยังคงสามารถถือหุ้นนั้นต่อไปเพื่อรับปันผล โดยอาจจะมีโอกาสขายเพื่อรับเงินต้นคืนหรือทำกำไรได้หากราคาของหุ้นอ้างอิงนั้นปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ FCN เป็นตราสารที่ไม่มีการคุ้มครองเงินต้น ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
FCN เครื่องมือการเงินสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องช่วงตลาด SIDEWAY DOWN
ลงทุนอย่างมั่นใจ ในสภาวะตลาดหุ้นผันผวน ด้วยหลักการลงทุน DCA และ ASSET ALLOCATION
FCN และ ELN PLUS ผลิตภัณฑ์ทางเลือกแสวงหาผลตอบแทนช่วงตลาดไร้ปัจจัยหนุน