Share on
×

Share

Sea (ประเทศไทย) จุดประกายเด็กหญิงสู่เส้นทาง STEM ผ่านโครงการ Women Made: Girl in STEM

Sea (ประเทศไทย) ผู้นำด้านอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ การีนา ช้อปปี้ และซีมันนี่ ได้ผนึกกำลังกับ insKru คอมมูนิตี้แบ่งปันไอเดียการสอนสำหรับคนรักการเรียนรู้ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เดินหน้าโครงการ “Women Made: Girl in STEM” เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กผู้หญิงกล้าที่จะคว้าโอกาสในสายอาชีพ STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) ซึ่งเป็นสาขาที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและมีโอกาสเติบโตในอนาคต

โครงการ Women Made: Girl in STEM จัดกิจกรรม Day Camp ขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ที่อาคารสราญวิทย์ (อาคาร 12) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยมีนักเรียนหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและคุณครูเข้าร่วมกว่า 90 คน กิจกรรมภายในงานถูกออกแบบมาเพื่อเปิดโลกการเรียนรู้และจุดประกายความฝันใน STEM ให้กับเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะ

เวทีแรงบันดาลใจจากผู้หญิงต้นแบบ

เสวนาแรงบันดาลใจ STEM

เวทีเสวนาภายในงานได้เปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้พบกับผู้หญิงเก่งที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพ STEM ซึ่งได้แก่ ปริพรรษ ไพรัตน์ วิศวกรดาวเทียมผู้มีความฝันอยากเป็นนักบินอวกาศตั้งแต่เด็ก เธอเล่าถึงเส้นทางการศึกษาและการทำงานที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความหลงใหลในวิชาฟิสิกส์และเทคโนโลยีอวกาศ พร้อมทั้งให้ข้อคิดน้อง ๆ ว่า “ไม่อยากให้น้อง ๆ จำกัดความสามารถของตนเองด้วยเรื่องเพศ…หากค้นพบสิ่งที่ชอบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็ขอให้มุ่งตามความฝันให้เต็มที่”

อีกหนึ่งคนเก่ง คือ จักรพงศ์ พุ่มไพจิตร เจ้าของเพจ “ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม” ที่มาแบ่งปันประสบการณ์ในสายงาน IT Support ซึ่งเริ่มต้นจากความชอบในการเล่นเกม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีความสุขกับสิ่งที่ทำ “ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำในปัจจุบัน และไม่จำเป็นต้องกังวลกับอนาคตมากเกินไป”

และไม่เพียงเท่านี้ น้อง ๆ ยังได้พบกับผู้หญิงเก่งในวงการเกมอย่าง ภวิษย์พร เจียรประเสริฐ ผู้จัดการอาวุโสจากบริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด เธอเล่าถึงประสบการณ์การทำงานในบริษัทเทคโนโลยี และให้กำลังใจน้องๆ ว่า “สิ่งสำคัญคือเราต้องเชื่อว่าเราทำได้ และไม่ให้สังคมมากำหนดความคิดของเรา”

กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ STEM

นอกจากเวทีเสวนาแล้ว ยังมีกิจกรรม “ห้องสมุดมนุษย์” (Human Library) ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พูดคุยอย่างใกล้ชิดกับพี่ต้นแบบใน 9 อาชีพ STEM ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมเมอร์ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล วิศวกรความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ นักวิจัยนาโนเทคโนโลยี วิศวกรเสียง นักนิติวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์เภสัชวิทยาภูมิคุ้มกัน วิศวกรการบินและอวกาศ และนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร

หนึ่งในพี่ ๆ ต้นแบบคือ ชนิตา อนุวงศ์ โปรแกรมเมอร์, Agile Coach, Software Development Coach จาก ODDS Team เธอเล่าว่า “สายงานทางด้านโปรแกรมเมอร์มีโอกาสให้เติบโตได้มากมาย…จุดเด่นของผู้หญิง คือ มีความละเอียดในการทำงานและทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม”

เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ STEM อย่างรอบด้านและสนุกสนาน ยังมีกิจกรรมพิเศษ “จดหมายบ่ายวันศุกร์” เพื่อให้นักเรียนและคุณครูได้ร่วมกันตกตะกอนประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่ได้รับตลอดทั้งวัน พร้อมสร้างสรรค์ข้อความเพื่อเป็นกระบอกเสียงและพลังขับเคลื่อนประเด็นความเท่าเทียมทางเพศในวงการ STEM

และเพื่อให้น้อง ๆ ได้ค้นพบตัวเองและเส้นทางอาชีพที่ใช่ โครงการฯ ได้จัด Workshop “รู้จักตนเองผ่านตุ๊กตาขนมปัง” โดย a-chieve ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้น้อง ๆ ได้ทบทวนตนเองอย่างรอบด้านผ่านเครื่องมือ “ตุ๊กตาขนมปัง” บนเว็บไซต์ a-chieve.org โดยแต่ละส่วนของตุ๊กตาขนมปังจะสะท้อนถึงการรู้จักตนเองในด้านต่าง ๆ เช่น เป้าหมายในชีวิต ความถนัด ความชอบ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้น้อง ๆ ได้เห็นภาพแนวทางอาชีพที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพในอนาคต

แรงบันดาลใจจากคุณครู

ภายในงาน ยังมี “กิจกรรมให้ความรู้และเวิร์กชอปสำหรับคุณครู” เพื่อเสริมทักษะและความรู้ในการสอน STEM ให้กับคุณครูโดยเฉพาะ โดยเน้นการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ที่ส่งเสริมศักยภาพของเด็กผู้หญิงให้มีความมั่นใจและกล้าที่จะต่อยอดความสนใจด้าน STEM ในอนาคต

ดร.สกลกฤษณ์ เอกจักรวาล ผู้อำนวยการ ศูนย์ฝึกอบรมนิติวิทยาศาสตร์ (ประเทศไทย) ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะนักนิติวิทยาศาสตร์ โดยเล่าว่าอาชีพนี้คือการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการอธิบายและพิสูจน์หลักฐานในกระบวนการยุติธรรม แม้การเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์อาจจะดูน่าเบื่อสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา แต่หากคิดว่าจะนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ไปต่อยอดในด้านใดต่อ จะทำให้นักเรียนเกิดความสนุกกับการเรียนได้มากขึ้น เช่นเดียวกับตัวเองที่นำความรู้ด้านฟิสิกส์มาใช้ในงานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เช่น การตรวจสอบวิถีกระสุนปืนและการตรวจจับความเร็ว เพื่อใช้อธิบายคดีต่าง ๆ 

นอกจากนี้ ดร.สกลกฤษณ์ ยังเห็นว่าปัจจุบันสื่อต่าง ๆ เช่น ข่าวหรือละคร ทำให้เด็กสนใจด้านนิติวิทยาศาสตร์มากขึ้น และเน้นย้ำว่าเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายมีความสามารถในการทำงานด้านนี้ได้เท่าเทียมกัน โดยปัจจุบันประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรด้านนิติวิทยาศาสตร์

อาจารย์มานะ อินทรสว่าง จากโรงเรียนศึกษานารี และอาจารย์หนึ่งฤทัย ธีระอรรถ จากโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี ต่างเห็นพ้องว่าโครงการ Women Made: Girl in STEM มีประโยชน์อย่างมากในการเปิดโลกทัศน์และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนหญิง

อาจารย์มานะ มองว่าการเรียนวิทยาศาสตร์ไม่ควรหยุดอยู่แค่ในตำรา แต่ควรต่อยอดสู่การลงมือปฏิบัติจริง เพื่อปั้นนักเรียนหญิงล้วนของโรงเรียนให้เป็น “นวัตกร” ตัวจริง เขาเชื่อว่าทักษะความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงานจริง และสามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ โรงเรียนได้ร่วมมือกับ สวทช. และภาคเอกชนในการพัฒนาการเรียนการสอนให้ทันสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น การจัดกิจกรรมทดลองวิทยาศาสตร์ที่ท้าทายและสร้างสรรค์ 

นอกจากนี้ คุณครูยังมีบทบาทสำคัญในการจุดประกายความคิดและความสามารถด้าน STEM ของนักเรียน โดยอาจารย์มานะมองว่าคุณครูไม่ควรจำกัดตัวเองอยู่แค่การสอนในห้องเรียน แต่ควรส่งเสริมให้นักเรียนได้ลงมือทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม และเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ STEM ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการเป็นนวัตกรในอนาคต

ด้านอาจารย์หนึ่งฤทัย กล่าวว่า โครงการ Women Made: Girl in STEM ว่าเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างมาก โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในวงการ STEM ซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอาชีพในสายงานนี้ กิจกรรมต่าง ๆ ภายในโครงการ เช่น การเสวนา การพูดคุยกับพี่ ๆ ต้นแบบ และเวิร์กชอปต่าง ๆ ล้วนเป็นประสบการณ์นอกห้องเรียนที่ทรงคุณค่า ที่จะช่วยให้นักเรียนได้เห็นภาพความเป็นไปได้ในเส้นทางอาชีพ STEM ที่หลากหลาย 

“ขอสนับสนุนให้มีกิจกรรมลักษณะนี้ต่อไป เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเปิดโลกทัศน์ด้าน STEM ให้กับเยาวชนอย่างต่อเนื่อง” 

เสียงสะท้อนจากนักเรียน

น้องเกรซและน้องปิ่น นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ Women Made: Girl in STEM ต่างรู้สึกได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ 

น้องเกรซ เด็กหญิงจันทราภา จูนก นักเรียนชั้น ม.3 จากจังหวัดพิษณุโลก เล่าว่า ก่อนมาเข้าร่วมกิจกรรม Women Made: Girl in STEM เธอรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะเลือกเส้นทางอาชีพไหนดีระหว่างเภสัชกรกับครูสอนเคมี แต่หลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรม เธอได้เปิดโลกทัศน์ เจอทางเลือกใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือวิศวกรการบินและอวกาศ ทำให้เธอได้เรียนรู้ว่ามีอะไรให้ทำอีกเยอะ และการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้นสำคัญ แต่ก็ต้องไม่กดดันตัวเองมากเกินไปในการเลือกเส้นทางอาชีพ เธอตั้งใจที่จะนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้เพื่อค้นหาว่าสิ่งใดเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

ส่วนน้องปิ่น เด็กหญิงปิ่นมณี นุชารัมย์ นักเรียนชั้น ม.1 จากจังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่า เธอมางานนี้เพราะอยากรู้จักอาชีพต่าง ๆ ให้มากขึ้น และอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องเรียนต่อกับคนอื่นๆ  ซึ่งเธอก็ไม่ผิดหวัง ได้ทั้งความรู้ ได้เห็นโอกาสใหม่ ๆ แถมยังได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่โดยไม่มีถูกผิด น้องปิ่นยังแอบกระซิบว่า ครูวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนสอนสนุกมาก จนเธออยากเป็นครูบ้าง และชอบทำการทดลองวิทยาศาสตร์เพราะได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ตอนนี้เธอก็ยังฝันอยากเป็นคุณหมออยู่ด้วยนะ หลังจากเข้าร่วมกิจกรรม เธอบอกว่าเธอได้แรงบันดาลใจและกล้าคิดกล้าแสดงออกมากขึ้น นอกจากนี้ เธอยังได้แง่คิดในการเลือกอาชีพจากพี่ๆ ต้นแบบ ทำให้เห็นภาพโลกที่กว้างขึ้นกว่าเดิม

ทำไมต้อง STEM? ทำไมต้องผู้หญิง?

พุทธวรรณ สุภัทรนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร Sea (ประเทศไทย) กล่าวถึงที่มาของโครงการว่า Sea (ประเทศไทย) เล็งเห็นความสำคัญของความหลากหลายทางเพศในสายอาชีพ STEM ซึ่งปัจจุบันยังมีสัดส่วนแรงงานหญิงค่อนข้างน้อย

ข้อมูลจากรายงานดัชนีช่องว่างระหว่างเพศปี 2566 โดย World Economic Forum ระบุว่า จากการจ้างงานทั้งหมดในกลุ่มอาชีพ STEM มีเพียงร้อยละ 29.2 เท่านั้นที่เป็นแรงงานหญิง แตกต่างจากการจ้างงานในสายอาชีพนอกกลุ่ม STEM ซึ่งมีแรงงานหญิงมากถึงร้อยละ 49.3 หรือเกือบครึ่งของการจ้างงานทั้งหมด นอกจากนี้ งานวิจัยหลายชิ้นยังพบว่าเด็กผู้หญิงมักจะมีความสนใจด้าน STEM ในระดับเดียวกันกับผู้ชายในระดับประถม แต่จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากพบความท้าทายทั้งในระดับปัจเจกและสังคม

โครงการ Women Made: Girl in STEM ของ Sea (ประเทศไทย) จึงเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในสายอาชีพ STEM ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งเด็กผู้หญิงและสังคมไทยในระยะยาว โดยมุ่งหวังให้เด็กผู้หญิงรุ่นใหม่กล้าที่จะเดินตามความฝันในสายอาชีพ STEM และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทย

×

Share

ผู้เขียน