Bitdefender ผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก เป็นเจ้าภาพจัดงานเสวนาในหัวข้อ “Fortifying Digital Frontiers” ณ โรงแรม เอส 31 สุขุมวิท กรุงเทพมหานคร โดยมี สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ร่วมให้ความรู้และนโยบายของประเทศ ซึ่งงานเสวนาฯ นี้เป็นการรวมตัวของผู้นำในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐและผู้นำภาคธุรกิจ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับภูมิทัศน์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่กำลังถูกภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนและรุนแรงเพิ่มขึ้นตลอดเวลา พร้อมทั้งนำเสนอนวัตกรรมทางโซลูชั่นเพื่อปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามนี้
ความท้าทายทางด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวว่า เน้นย้ำถึงความซับซ้อนและความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางไซเบอร์ และความจำเป็นที่จะต้องมีแนวทางการทำงานร่วมกันที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ
ดร.ปริญญา หอมเอนก ประธานและซีอีโอของ ACIS Professional Center นำเสนอ ” Cybersecurity Ecosystem Challenges in Thailand ” โดยชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างรวดเร็ว ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของการโจมตีทางไซเบอร์ และยังได้เน้นยำความจำเป็นในการเพิ่มความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนให้มากยิ่งขึ้น
Paul Hadjy รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและการบริการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ Bitdefender นำเสนอหัวข้อ “Protecting Data, Empowering People ” บรรยายเกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยชี้ให้เห็นว่า AI สามารถช่วยปรับปรุงมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นได้อย่างไร พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจจับภัยคุกคามและกลยุทธ์การตอบสนองในเชิงรุก
Michal Dominik กรรมการผู้จัดการ Indochina Country Partner กล่าวแนะว่า ทุกองค์กรจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อยู่เสมอ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่ชี้ให้เห็นความจำเป็นในการปรับปรุง และปรับตัวตามแนวทางปฏิบัติที่ดีในการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ (Cybersecurity Practices) ที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเชิงลึกนี้เน้นย้ำถึงขั้นตอนสำคัญที่จำเป็นต้องทำคือต้องมีการสร้างกรอบการกำกับความพร้อมในการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ (Resilient Cybersecurity Framework) ให้มีความสามารถในการเตรียมตัว และตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงการกู้คืนระบบให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ
โซลูชันการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ขั้นสูง– ที่ปกป้องตั้งแต่ Endpoint Security ครอบคลุม EDR จนถึง MDR
ด้าน ทรงกลด ศรีภูมิบาง ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส ของ Bitdefender เน้นถึงประโยชน์ของบริการรักษาความปลอดภัยเชิงรุก การทดสอบการเจาะระบบ (Penetration Tests) และแพลตฟอร์มข่าวกรองภัยคุกคาม (Threat Intelligence Platforms) พร้อมทั้งให้ละเอียดว่าบริการเหล่านี้สามารถช่วยระบุช่องโหว่ก่อนที่ผู้โจมตีจะโจมตีได้อย่างไร ทำให้องค์กรสามารถมีกลยุทธ์การป้องกันในเชิงรุก
การเสวนาครั้งนี้มีอีกหนึ่งในไฮไลต์ คือการนำเสนอ Bitdefender GravityZone ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบรวมศูนย์ (Unified Security and Risk Alalytics Platform) โดยว่าที่ร้อยโทภาวุต โลขัน วิศวกรที่ปรึกษาของ Bitdefender นำเสนอการสาธิตวิธีการที่ GravityZone ขยายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอุปกรณ์ปลายทางให้ครอบคลุมถึง EDR (Endpoint Detection and Response : การตรวจจับปลายทางและการตอบสนอง), XDR (Extended Detection and Response : การตรวจจับและการตอบสนองแบบขยาย), MDR (Managed Detection and Response : การตรวจจับและการตอบสนองที่มีการจัดการ) และมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงอื่น ๆ แนวทางที่ครอบคลุมอย่างสมบูรณ์ ทำให้มั่นใจได้ว่าองค์กรจะสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ทั่วทั้งโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดได้
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เจาะเทรนด์การลงทุนด้วย Digital Asset กระแสการลงทุนรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล
PUBAT เผยคนไทยอ่านหนังสือมากขึ้นเป็น 113 นาทีต่อคนต่อวัน กลุ่มสูงวัยชื่นชอบการอ่านมากสุด