Share on
×

Share

AI for All Thais: ไมโครซอฟท์ ประกาศสร้างทักษะ AI ให้คนไทย

ไมโครซอฟท์ เชื่อมั่นพลัง AI ช่วยปลดล็อกประเทศไทย ประกาศวิสัยทัศน์ “AI for All Thais” เสริมศักยภาพทุกคน และทุกองค์กรทั่วประเทศ ด้วยพลัง Generative AI ผ่านกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน คือ สร้างทักษะ เสริมขีดความสามารถ และสานต่อความมั่นคง ผ๋านความร่วมมือทุกภาคส่วน ผนึกพันธมิตรเตรียมหลักสูตรเป็นภาษาไทยให้ความรู้ AI กระจายออกวงกว้าง หวังเจรจารัฐบาลสานความร่วมมือ ตั้งเป้า 1 ปี คนไทย 1 ล้านคนต้องใช้ AI ทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเองได้

ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เห็นว่า AI และคลาวด์จะเข้ามาปลดล็อก ยกระดับ และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่คนไทยและประเทศไทย ทั้งภาคการศึกษา การท่องเที่ยว เกษตร อุตสาหกรรม เป็นต้น จากพันธกิจที่ประกาศไปเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI และคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นกุญแจสำคัญที่เข้ามาสร้างโอกาสให้คนไทย บริษัทไทย และประเทศไทย ประสบความสำเร็จในเวทีโลก ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งต้องทำงานร่วมกับหลายภาคส่วน

ยกตัวอย่าง การดูแลนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่นำรายได้เข้าประเทศจำนวนมากต่อปี หากนำ AI ซึ่งมีความสามารถด้านภาษากว่า 100 ภาษามาใช้จะช่วยรองรับนักท่องเที่ยวที่หลากหลายได้ และสามารถนำข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว อาหาร Unseen มารวมกัน ให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ จัดโปรแกรมให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวสถานที่แปลกใหม่ อาหารใหม่ๆ ที่ตรงตามความชอบจากที่มีเป้าหมายจะท่องเที่ยวประเทศไทย 3-5 วัน อาจเพิ่มเป็น 7-10 วันก็เป็นได้

หรือภาคการเกษตรที่ 40% ของประชากรทำการเกษตร แต่ GDP ภาคเกษตรมีเพียง 6% ถ้านำ AI มาทำความเข้าใจพื้นที่ของประเทศ จัดพื้นที่เพาะปลูกพืชที่เหมาะสม แนะนำเกษตรกรก็จะได้ประสิทธิผลทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้น หรือนำ AI ช่วยวิจัยและพัฒนาให้ผลิตผลมีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น

ดังนั้น จึงเป็นที่มาของการประกาศวิสัยทัศน์ “AI for All Thais” ด้วยเจตนารมณ์ที่จะมอบพลังและศักยภาพของ AI ให้คนไทย ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก คือ สร้างทักษะ AI เสริมขีดความสามารถให้เกิดการนำ AI ไปใช้ในวงกว้าง และสานต่อความมั่นคงเพื่อให้ทุกคนใช้งานได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งส่งเสริมอีโคซิสเท็มของ AI ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

ส่วนการลงทุน Datacenter region เพื่อขยายการให้บริการคลาวด์ที่ประกาศเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมานั้น เป็นการดำเนินลักษณะหาพันธมิตรที่มีความพร้อม และมีมาตรฐานตรงตามความต้องการของไมโครซอฟท์เพื่อให้บริการร่วมกันซึ่งจะเดินหน้าได้เร็ว ไม่ได้สร้างเองทั้งหมดเหมือนอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งการเลือกลงทุนแบบใดได้พิจารณาตามความเหมาะสม คาดว่า ปีนี้จะได้ข้อสรุปการทำงานร่วมกัน ก่อนไปขั้นตอนของการเตรียมการ และเปิดตัว

ปัจจุบัน รายได้ของไมโครซอฟท์มาจากคลาวด์ประมาณ 80% ที่เหลือเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทั้งซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์

ทักษะ AI เริ่มต้นพร้อมกันทั่วโลก

ธนวัฒน์ บอกว่า Generative AI เริ่มต้นพร้อมกันทั่วโลก ทำให้ไม่เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ และเป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนจาก Made in Thailand เป็น Born in Thailand ที่ทำส่วนต่างกำไร สร้างมูลค่าเพิ่ม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้

ไมโครซอฟท์จึงประกาศวิสัยทัศน์การทำงานปี 2025 (เริ่ม ก.ค.) “AI for All Thais” ด้วยเจตนารมณ์มอบพลังและศักยภาพของ AI ให้คนไทย ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก คือ สร้างทักษะ AI เสริมขีดความสามารถให้เกิดการนำ AI ไปใช้ในวงกว้าง และสานต่อความมั่นคงเพื่อให้ทุกคนใช้งานได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งส่งเสริมอีโคซิสเท็มของ AI ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

“AI จะไม่เป็นแค่แชตบอต แต่จะเข้าไปในกระบวนการทางธุรกิจ ยกตัวอย่าง Copilot ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรี ทุกคนดาวน์โหลดมาใช้งานได้ สั่งได้ด้วยภาษามนุษย์ให้ทำ Coding เองได้”

สู่เป้าหมาย เพิ่มทักษะด้าน AI ให้ 1 ล้านคนทั่วไทย

จากวิสัยทัศน์ดังกล่าว เริ่มจากการสร้างทักษะ เพื่อตอกย้ำความตั้งใจในการพัฒนาทักษะด้าน AI ให้แก่คนไทยอย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในภาคส่วนต่าง ๆ ไมโครซอฟท์ เตรียมเปิดตัวโครงการ ‘AI National Skill Initiative’ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนทักษะ AI ที่จำเป็นให้คนไทย 1 ล้านคนภายในปีหน้า ผ่านหลากหลายหลักสูตรฝึกอบรมภาษาไทยกว่า 80%

หลักสูตรต่าง ๆ ออกแบบให้ครอบคลุมผู้ใช้งานทุกระดับ ทั้งผู้ใช้งานทั่วไป ผู้บริหาร และนักพัฒนา เพื่อนำศักยภาพของ AI ไปประยุกต์ใช้เพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน ตลอดจนการสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ด้วยฝีมือคนไทย

ใน 3 กลุ่มดังกล่าวจะเริ่มต้นจากนักพัฒนาก่อน แล้วขยายสู่ผู้ขาดโอกาส และต่อไปยังผู้สูงอายุที่กำลังเป็นประชากรส่วนใหญ่ โดยรวมแล้วกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปจะมีสัดส่วนการอบรมและใช้งานมากที่สุด

เสริมขีดความสามารถด้าน AI

ความมุ่งมั่นเสริมศักยภาพให้คนไทยและองค์กรไทยได้รับประโยชน์จากขุมพลังอันไร้ขีดจำกัดของ AI เพื่อนำไปประยุกต์ใช้งานในวงกว้างทั้งระดับบุคคลและองค์กรของไมโครซอฟท์นั้น ระดับบุคคล ประกอบด้วย บุคคลทั่วไป นักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์ นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ ข้าราชการ และอื่นๆ โดยเปิดให้ผู้ใช้เข้าถึงเครื่องมือและประสิทธิภาพของเครื่องมือและบริการที่ขับเคลื่อนด้วย AI อันหลากหลาย

เช่น Copilot บน Windows และ Edge, Microsoft Designer บนแอปพลิเคชันและผ่านเว็บ, Cocreator และ Paint บน Windows 11, ฟีเจอร์ Reading progress ใน Microsoft Teams และ Reading immersive ใน Microsoft Words, GitHub Copilot รวมถึง Copilot+ PC ยุคใหม่ของพีซีที่มอบสมรรถนะสูงสุดและคุณสมบัติการใช้งานที่ชาญฉลาดที่สุดบนแพลตฟอร์ม Windows

ระดับองค์กร จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน และครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม ด้วยการขับเคลื่อนการนำศักยภาพของ AI ที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดระดับโลก จนกลายเป็นผู้ช่วยที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับการดำเนินงานให้กับองค์กรยุคใหม่ และช่วยรับมือความท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นรวดเร็วและคาดเดาได้ยาก ด้วยนวัตกรรมโซลูชันที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และความคล่องตัว เพื่อให้ทุกภารกิจสำเร็จได้อย่างราบรื่น

ทักษะ AI ช่วยสานต่อความมั่นคง

ความปลอดภัยคือประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งที่ทุกผลิตภัณฑ์ ทุกบริการด้านเทคโนโลยีจะต้องมี เพราะผู้ใช้ต้องเกิดความไว้วางใจก่อน จึงจะสามารถได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนั้นๆ ซึ่งการทำงานด้านความปลอดภัยเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน

“ไมโครซอฟท์จะขยายความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ เสริมทักษะด้านการใช้ AI เพื่อความปลอดภัยไซเบอร์ และแนวทางการใช้งาน AI อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีความรับผิดชอบ”

ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย โดยส่งเสริมทักษะ AI และขยายการเข้าถึงเทคโนโลยี และสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ปลอดภัย เพื่อให้คนไทยได้รับประโยชน์จากศักยภาพ AI ที่พัฒนาไปอย่างก้าวล้ำในระดับโลก และสนับสนุนทุกคนและทุกองค์กรในประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ไปพร้อมกัน ซึ่งการดำเนินงานจะประสานกับรัฐบาลเพื่อความร่วมมือในการขับเคลื่อน เพราะเป็นงานที่เกี่ยวพันในวงกว้างและหลากหลายหน่วยงาน

×

Share