หากพูดถึง “การเรียนรู้” นั้นไม่ใช่เพียงแค่การรับสารใหม่ ๆ เข้าสู่สมองและจดจำได้เพียงเท่านั้น แต่ต้องเป็นการเชื่อมโยงและขยายพรมแดนขององค์ความรู้สู่โลกใหม่ที่กว้างใหญ่ขึ้น บนพื้นที่ชั้น 12 ของโรงแรม SO/Bangkok จึงเป็นเหมือนประตูสู่โอเอซิสแห่งปัญญาสำหรับนักเดินทางที่ “กระหายในความรู้” และบทสัมภาษณ์นี้ เราจะพาคุณมุ่งสู่ใจกลางของ H.O.W. (House of Wisdom) คอมมูนิตี้ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยจิตวิญญาณแห่งการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง โดยสองผู้ก่อตั้งคนสำคัญ “โจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ” และ “กระทิง–เรืองโรจน์ พูนผล” ซึ่งต่างก็มีวิสัยทัศน์และความหลงใหลในความรู้เช่นเดียวกัน
การกำเนิดของ H.O.W. จากแนวคิดสู่ความเป็นจริง
ก้าวแรกของ H.O.W. สำหรับโจ้ ธนา คือการพบปะคนที่มี Like-mined หรือผู้ที่มีใจตรงกันนั่นคือกระทิง เรืองโรจน์
“ผมกับกระทิงพบปะกันบ่อยอยู่บ่อยครั้ง หลังจากที่กระทิงกลับจาก Google พวกเราต่างทำหลักสูตรกันทั้งคู่ กระทิงทำ CXO (Chief Exponential Officer) ส่วนผมทำ ABC (Academy of Business Creativity) ร่วมกับ สรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์) แต่หลักสูตรที่ทำมันยังไม่ครอบคลุมความต้องการของเรา เพราะมันค่อนข้างถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะสอนอะไร เรามีเรื่องที่อยากรู้อีกมากมายแต่หลักสูตรอาจไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด พอเราคิดไปคิดมา เราเลยอยากสร้างพื้นที่ที่คนสามารถเรียนรู้ได้ไม่จำกัด และไม่ใช่แค่เรียนรู้ แต่ยังต้องได้ฮีลใจและสร้างพลังใจให้กันและกันด้วย”
“ผมกับพี่โจ้คุยกันแล้วรู้สึกว่าสิ่งที่เราชอบมากคือการเรียนรู้ร่วมกัน เราต่างมีความคิดคล้ายกันว่า การที่เราไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้อะไรนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับยุคนี้ เพราะโลกยุคนี้มันไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้น การเรียนรู้ตลอดชีวิตและการรู้จักตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น เราต้องมีคนคอยบอกเรา ไม่ใช่แค่ในสาขาเดียว แต่ในทุกสาขาที่เราควรรู้ เราเลยเริ่มคิดว่าเราจะสร้างสถานที่ที่รวมองค์ความรู้ที่หลากหลายมารวมกันได้อย่างไร” กระทิงบอกเล่าเบื้องหลังเรื่องราวเพิ่มเติม ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างพื้นที่ให้คนที่มีความกระหายใคร่รู้มาเจอกัน
ดังนั้น คลับนี้ไม่ใช่เพียงแค่สังคม แต่เป็นคลับที่มีความรู้เป็นหัวใจสำคัญ และทุกอย่างเริ่มต้นจากแนวคิดนี้
ความแตกต่างที่ลงตัวของ 2 ผู้ก่อตั้ง
การผสมผสานที่มีทั้งความหลากหลายและความสมดุล ความแตกต่างระหว่างโจ้ ธนาและ กระทิง เรืองโรจน์ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ H.O.W. กลายเป็นคลับที่ไม่เหมือนใคร และเป็นสถานที่ที่เปิดกว้างสำหรับทุกความสนใจและทุกสายความรู้
โจ้: “ผมกับกระทิงต่างกันมากในหลาย ๆ ด้าน กระทิงมีความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีและ AI เป็นอย่างมาก เขาสามารถพูดคุยเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การพัฒนา AI หรือเทรนด์ในวงการดิจิทัลได้อย่างเชี่ยวชาญ ในขณะที่ผมชอบฟังเรื่องราวเกี่ยวกับความสุข ความเรียบง่ายในชีวิต หรือแม้กระทั่งหนังตลกที่ทำให้หัวเราะได้ในวันที่เครียด การที่เรามีความสนใจและความถนัดที่ต่างกัน แต่กลับมาเจอกันที่ H.O.W. ทำให้คลับนี้มีความหลากหลายและสมบูรณ์แบบมากขึ้น เพราะเราต่างยอมรับและเคารพในสิ่งที่เราไม่มี แต่คนอื่นมี”
กระทิง: “ผมชอบทำงานกับพี่โจ้เพราะพี่โจ้เป็นคนที่ให้โอกาสและเป็นคนที่ผมเคารพมาก ๆ พี่โจ้ไม่เคยปิดกั้นไอเดียใหม่ ๆ ของผม ไม่ว่ามันจะดูแปลกหรือท้าทายแค่ไหน เราทั้งคู่ต่างเป็น Giver และเราต่างมีความกระหายใคร่รู้เหมือนกัน แม้ว่าเป้าหมายของเราอาจจะแตกต่างกัน ผมอาจจะมุ่งไปที่การเรียนรู้และพัฒนาในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม แต่พี่โจ้อาจจะสนใจในเรื่องของการสร้างความสุขและความสมดุลในชีวิต อย่างไรก็ตาม จุดร่วมของเราคือความอยากรู้และการเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง และนี่คือสิ่งที่ทำให้ H.O.W. เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาเรียนรู้และแบ่งปันได้โดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะมีความรู้มากหรือน้อยกว่ากันในเรื่องต่าง ๆ ที่สนใจ”
ชื่อของ H.O.W. จากแนวคิดสู่สัญลักษณ์แห่งความรู้
“H.O.W. มาจากแนวคิดที่ว่าเราอยากสร้างพื้นที่สำหรับทุกคนในการมาคุยและแลกเปลี่ยนความรู้กัน ผมได้แรงบันดาลใจจาก House of Wisdom ที่เป็นสถานที่เก่าแก่ในอิรัก ในยุคเมโสโปเตเมีย ซึ่งสมัยนั้นก็นับว่าเป็นอารยธรรมแรก ๆ ของโลก และยังเป็นสถานที่ที่นักปราชญ์จากหลากหลายสาขามารวมตัวกันเพื่อเรียนรู้และพัฒนาความรู้ใหม่ ๆ เราเลยคิดว่า H.O.W. ก็ควรเป็นสถานที่สำหรับสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในยุคนี้ด้วยเช่นเดียวกัน”
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ H.O.W. มีความพิเศษก็คือแนวคิดเรื่อง Curiosity หรือความกระหายใคร่รู้ โจ้เล่าให้ฟังว่า “ผมเคยอ่านงานวิจัยที่พบว่า คนที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในโลกนี้ได้ เช่น ไอแซก นิวตัน, เลโอนาร์โด ดา วินชี, อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และสตีฟ จอบส์ ไม่ได้มีเพียงแค่สติปัญญาหรือ Intelligence เท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งต่าง ๆ บางครั้งพวกเขาอาจจะไม่รู้เลยว่า สิ่งที่พวกเขาสงสัยจะนำไปสู่อะไร แต่พวกเขาก็สนุกกับการค้นหาคำตอบ และนั่นคือหัวใจสำคัญของการสร้าง H.O.W. เราอยากให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถนำความสงสัยของตัวเองมาค้นหาคำตอบและขยายพรมแดนของความรู้ไปด้วยกัน”
สำหรับกระทิงแล้วความหมายลึก ๆ ของ H.O.W. คือการรู้ว่าเราไม่รู้อะไร และการรู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในโลกยุคใหม่ เพราะเราจะไปได้ไกลกว่าเดิมถ้าเรารู้ว่าเรายังต้องเรียนรู้อะไรอีกบ้าง
“ผมเชื่อว่าศาสตร์ทุกแขนงนั้นมีรากเดียวกัน และรากฐานนั้นก็คือ Curiosity อย่างสตีฟ จอบส์เองที่เริ่มต้นด้วยความสนใจในตัวอักษรสวย ๆ จากการไปแอบเรียนคลาสวิชาศิลปะ ซึ่งตัวเขาเองก็อาจจะไม่รู้หรอกว่าเรียนสิ่งนี้ไปทำไม แต่ในที่สุดสิ่งนี้กลายเป็นต้นกำเนิดของตัวหนังสือสวย ๆ Macintosh และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกอย่าง Apple”
“สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ความอยากรู้อยากเห็นสามารถยกระดับความคิดและนำไปสู่ความสุขที่ลึกซึ้งขึ้น ผมมักพูดว่า We know who to know how การสลับคำว่า ‘How’ กับ ‘Who’ ก็สะท้อนถึงการที่เราเข้าใจว่า เรารู้ว่าใครจะทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำอย่างไร นั่นแหละคือความเจ๋งของ H.O.W. ซึ่งเป็นพื้นที่รวบรวมความหลากหลายของความรู้และเชื่อมโยงมันเข้าด้วยกันผ่านความกระหายใคร่รู้”
H.O.W. คือ คลับที่แตกต่าง
House of Wisdom หรือ H.O.W. ไม่ใช่ทั้ง Community club สำหรับสายดื่มเที่ยว และไม่ใช่ Academic club หน้าตาเดิม ๆ เพราะเป็นคลับที่ช่วยเติมเต็มแรงบันดาลใจที่มีอยู่หลากหลายทั้งด้านศิลปะ งานอาร์ต เฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรมาอย่างลงตัว รวมไปถึงการมีบาร์เครื่องดื่มสำหรับนั่งพูดคุย สถานที่แห่งนี้จึงเป็นเหมือนส่วนผสมของศาสตร์ทั้งหลายมาไว้ด้วยกัน หรือที่ทั้งสองท่านนิยามว่าเป็น Nerd Club สำหรับคนรักการเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลาย
“H.O.W. เป็นคลับที่สมาชิกสมัครเป็นรายปี ไม่ใช่หลักสูตรที่จบเป็นรุ่น ๆ แต่สมาชิกสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้จาก CEO ชั้นนำในหลากหลายสาขา ฟังดนตรี หรือเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสุขภาพ ที่สำคัญคือ ไม่มีการกำหนดจำนวนครั้งในการเข้าร่วม สมาชิกมีอิสระในการเรียนรู้ตามความสนใจของตนเอง” โจ้กล่าวถึงแนวคิดของการสร้างพื้นที่ H.O.W. ขึ้นมายิ่งทำให้เห็นว่า H.O.W. นั้นมีความพิเศษมากกว่าคลับแบบเดิม ๆ
ส่วนกระทิงก็บอกเล่าถึงความพิเศษนั้นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในประโยคถัดมา
“สิ่งที่ผมชอบที่สุดใน H.O.W. คือทุกคนเป็น Giver เราสามารถเรียนรู้จากกันและกันได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ทุกคนมีความอยากรู้และพร้อมที่จะแบ่งปันความรู้ ยกตัวอย่างเช่น เรามี Session หนึ่งที่เรียกว่า IDN (Initiated by Member) ซึ่งสมาชิกจะมาแชร์ความรู้ แชร์เวลา แชร์ประสบการณ์ และแม้กระทั่งแชร์ชีวิตของพวกเขา และพวกเขาไม่เพียงแต่เต็มใจที่จะแบ่งปันสิ่งที่มี แต่ยังเต็มใจที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันจริง ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนขอความช่วยเหลือ สมาชิกก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วย โดยไม่มีการกั๊กหรือสงวนความรู้ใด ๆ สิ่งนี้สะท้อนถึง mindset ของคนในคลับที่เป็น Giver เพราะพวกเขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่อาจจะไม่ต้องทำก็ได้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะทำด้วยใจที่อยากสร้างผลกระทบเชิงบวก ดังนั้น สิ่งนี้จึงทำให้ H.O.W. กลายเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถมาเติมเต็มความรู้และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ร่วมกันสร้างอย่างแท้จริง”
เราจะได้เรียนรู้อะไรจาก H.O.W.
H.O.W. เป็นมากกว่าคลับที่ให้ความรู้แบบทั่วไป แต่นี่คือชุมชนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของความรู้และประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง โจ้และกระทิงได้สร้างพื้นที่ให้สมาชิกสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่กระหายอยากจะรู้จากกันและกันในบรรยากาศที่ไม่จำกัด ทั้งในเรื่องของเนื้อหาหลักสูตรที่หลากหลายและกิจกรรมที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา
โจ้: “สิ่งที่ทำให้ H.O.W. แตกต่างคือความยืดหยุ่นและความหลากหลายของเนื้อหา เราเริ่มต้นโดยไม่มีกรอบชัดเจน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือสมาชิกเริ่มสร้างสรรค์และจัดคลาสตามความสนใจของตัวเอง ทุกคนมีโอกาสเป็นทั้งผู้เรียนและผู้สอน ไม่ว่าคุณจะสนใจเรื่อง AI, ศิลปะ, การลงทุน, หรือแม้กระทั่งการวอร์มเสียง H.O.W. เป็นที่ที่คุณสามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ได้โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญที่เป็นสมาชิกด้วยกันเอง”
กระทิง: “H.O.W. ช่วยให้ผมได้เรียนรู้มากกว่าที่ผมเคยคิดว่าจะทำได้ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่เดือน ผมได้รู้ว่าจุดสูงสุดที่เราเคยยืนอยู่มันแคบแค่ไหนเมื่อเทียบกับความรู้ที่มีอยู่ในคลับนี้ ทุกครั้งที่เราเปิดคลาสหรือจัดกิจกรรม มันเหมือนกับการเปิดประตูสู่โลกใหม่ ๆ ที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือทุกคนที่นี่เต็มใจที่จะให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขาอย่างไม่มีข้อแม้”
ดังนั้น H.O.W. ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสในการเรียนรู้ใหม่ ๆ แต่ยังเป็นชุมชนที่เชื่อมโยงคนที่มีความสนใจคล้ายกันเข้าด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะมีความรู้มากแค่ไหน ที่นี่จะมีสิ่งใหม่ ๆ ให้คุณเรียนรู้เสมอ นั่นคือ สิ่งที่ทำให้ H.O.W. เป็นชุมชนที่ไม่เหมือนใครในโลกของคนที่อยากจะเรียนรู้
เราพูดกันถึงเรื่องความอยากรู้หรือกระหายใคร่รู้ที่เป็น Concept หลักของที่นี่ แล้วสิ่งนี้สามารถสอนกันได้ไหม
โจ้: “ผมเชื่อว่าความกระหายใคร่รู้สามารถสร้างและสอนได้ โดยเฉพาะในชุมชนแบบ H.O.W. ที่คนที่มีความสนใจเหมือนกันมาอยู่รวมกัน มันจะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความรู้สึกอยากเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เมื่อเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ เราจะได้รับแรงบันดาลใจจากผู้อื่นและมีโอกาสได้เรียนรู้จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ”
กระทิง: “Curiosity หรือความกระหายใคร่รู้เกิดจากการวางเมล็ดพันธุ์หรือจุดประกาย มันเป็นสิ่งที่สามารถจุดติดได้และขยายออกไปได้อีก หากเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ความอยากรู้อยากเห็นนี้สามารถพัฒนาไปเป็น Passion และในที่สุดก็กลายเป็น Compassion หรือความเห็นอกเห็นใจร่วมกัน ซึ่งใน H.O.W. เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงและประกายไฟนี้ในสมาชิกของเราแล้ว”
โจ้: “H.O.W. คือประกายไฟที่จุดติดในเชื้อเพลิงแห่งความรู้และความกระหายใคร่รู้ ที่นี่คือที่ที่เรามาหยอดประกายไฟแห่งความอยากรู้อยากเห็นเข้าไปในเชื้อเพลิงที่มีพร้อมอยู่แล้ว และในที่สุดมันจะลุกไหม้เกินขอบเขตที่เราเคยคิดไว้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างแท้จริงในชุมชนของเรา”
สู่บทสรุป: อนาคตของ H.O.W.
H.O.W. เริ่มต้นด้วยความฝันที่จะสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง และในวันนี้ความฝันนั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว แต่สำหรับโจ้และกระทิง H.O.W. ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า
โจ้: “ตอนนี้ผมมองว่าทำให้ครบ 3 ปีก่อน เพราะเรามีสัญญาเช่าสถานที่นี้ไว้ 3 ปี หลังจากนั้นเราจะค่อยดูอีกทีว่าจะไปทางไหนต่อ ตอนนั้นผมก็ใกล้จะ 60 แล้ว ก็คงต้องประเมินดูว่าผมยังมีพลังและประโยชน์ต่อคลับนี้แค่ไหน แต่เป้าหมายที่เราตั้งใจไว้คือการทำให้ H.O.W. เป็นคลับที่ทำให้คนที่มาได้รับประโยชน์จนรู้สึกว่าคุ้มค่า เปลี่ยนชีวิต และได้เจอมิตรภาพที่หาที่ไหนไม่ได้ อยากให้ทุกคนรู้สึกว่ามันคุ้มค่าในแบบที่เขาต้องการ”
กระทิง: “ผมอยากให้สมาชิกสามารถสร้างชุมชนของพวกเขาเองขึ้นมาใน H.O.W. และเราพยายามทำให้เกิด Sub Club ขึ้น เช่น House of Investment, House of Book หรือ House of อื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ความสนใจเฉพาะด้าน อยากให้ทุกคนที่มาที่นี่ได้สิ่งที่พวกเขาอยากได้ และรู้สึกว่ามันคุ้มค่าจริง ๆ และสำคัญที่สุดคือ อยากให้ทุกคนได้เป็น Better Version หรือ The Best Version ของตัวเอง พร้อมกับมีเพื่อนที่ไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกนอกจากที่นี่”
โจ้: “สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำ H.O.W. คือคำว่า ‘การสิ้นสุดของสิ่งหนึ่งเป็นการเริ่มต้นของสิ่งใหม่เสมอ’ ถ้าผมไม่เลิกทำ ABC ผมคงไม่มีพลังมาทำ H.O.W. ได้ การที่เรากล้าทิ้งสิ่งเก่าเพื่อสร้างสิ่งใหม่ คือสิ่งที่ทำให้เราก้าวต่อไปได้ อันนี้คือความคิดที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์”
สำหรับ H.O.W. แล้ว การเดินทางครั้งนี้อาจเป็นเพียงการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ ๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบ และในขณะที่พวกเขายังมีพลังและความกระหายใคร่รู้ การเดินทางนี้จะยังคงดำเนินต่อไป เพื่อสร้างสรรค์และขยายขอบเขตของความรู้และความสัมพันธ์ให้กว้างไกลยิ่งขึ้นอาจจะไม่ใช่แค่ในประเทศแต่อาจจะกลายเป็นระดับภูมิภาคหรือระดับโลกก็ได้ในอนาคต
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สตาร์ตอัพไทยยุคใหม่: ก้าวสู่ความยั่งยืนและสร้างกำไรอย่างมั่นคง
จาก League of Legends สู่ VALORANT ความสำเร็จของ Riot Games
AI for All Thais: ไมโครซอฟท์ ประกาศสร้างทักษะ AI ให้คนไทย