สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) ประกาศแผนการดำเนินงานปี 2568 ด้วยงบประมาณกว่า 1,800 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การยกระดับทักษะบุคลากร และการสนับสนุนสตาร์ตอัพในเทคโนโลยีขั้นสูง (deep tech startups) เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน และสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวต่อเศรษฐกิจไทยและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
เดินหน้าพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับประชาชน
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ให้ข้อมูลว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา Depa เดินหน้าพัฒนาคน เทคโนโลยี และการปรับโครงสร้าง Ecosytem ผ่านการจัดอบรมและการฝึกทักษะทางดิจิทัลในหลากหลายกลุ่ม เช่น การเทรนเด็กผ่านโค้ดดิ้งและการสร้างระบบ E-Learning ที่ร่วมมือกับสมาคมภาคเอกชน เพื่อสร้างทักษะดิจิทัลให้เด็กและเยาวชน การอบรมให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ เพื่อเสริมทักษะด้านดิจิทัล และเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพใหม่ ๆ ที่ทันสมัย และการผลักดันนโยบายเพื่อสนับสนุนการลงทุน ในอุตสาหกรรมดิจิทัล เรียกว่าเป็น “เทรนด์” อาชีพคลื่นลูกใหม่สำหรับอนาคต
Depa ตั้งเป้าพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับประชาชนกว่า 300,000 – 400,000 คน และต้องการเข้าถึงประชากรทั้ง 67 ล้านคนในอนาคต โดยการเน้นให้คนไทยมีความรู้เรื่อง Digital Literacy รวมถึง ความรู้ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ การใช้ฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อป้องกันการหลอกลวงในโลกดิจิทัล และทักษะพื้นฐานในการสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ ได้มากขึ้น
สร้างหลักสูตรการฝึกทักษะสำหรับอาชีพยุคใหม่ เน้นทำงานได้ทันที
Depa เล็งเห็นว่าการพัฒนาทักษะแรงงานในประเทศ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความต้องการในตลาดแรงงาน จึงได้สร้างหลักสูตรการฝึกทักษะสำหรับอาชีพใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต ซึ่งไม่จำเป็นต้องอาศัยปริญญา แต่เน้นที่ทักษะจริงและสามารถทำงานได้ทันที ได้แก่
- นักออกแบบคาแรกเตอร์ ที่สร้างสรรค์คาแรกเตอร์เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ
- Game in developer สนับสนุนเด็กที่ชื่นชอบการเล่นเกมให้สามารถสร้างอาชีพในอุตสาหกรรมเกม
- นักกีฬาอีสปอร์ต ที่มีการจัดการเทรนเพื่อพัฒนาเป็นนักกีฬามืออาชีพ
- Digital Farmer พัฒนาเกษตรกรด้วยทักษะ IoT และการใช้โดรนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเกษตร
- อินฟลูเอนเซอร์และยูทูปเบอร์ ให้สามารถใช้รายรับ รายจ่ายในการลดหย่อนภาษี แต่ต้องเสริมสร้างความรู้ด้านธรรมาภิบาลควบคู่ไปด้วย
- Digital Entrepreneur ที่รู้จักประยุกต์เทคโนโลยีเพื่อยกระดับธุรกิจ
- กลุ่มผู้ดูแลระบบเน็ตเวิร์กและซัพพอร์ทด้านเทคโนโลยีสำหรับ SME
- กลุ่มคนที่จะกลายเป็นผู้จัดการข้อมูลเพื่อแปลงเอกสารทางราชการให้เป็นข้อมูลดิจิทัล
พัฒนาหลักสูตรเทคโนโลยีขั้นสูง
Depa เดินหน้าในการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาเฉพาะทาง เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านไอที สำหรับกลุ่มอาชีพที่ขาดแคลนในตลาดแรงงานไทย หลักสูตรเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากร ในการตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเน้นไปที่การยกระดับทักษะทางเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม Professional Skill
- Data AI หลักสูตร Data AI ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะที่กำลังขาดแคลนอย่างมากในประเทศไทยและทั่วโลก มุ่งเน้นให้กลุ่มบุคลากรทั้งคนไทยและต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมีทักษะด้าน AI ที่เป็นมาตรฐานสากล และสามารถประยุกต์ใช้กับงานในหลากหลายอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ หลักสูตรยังเน้นการพัฒนาเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่สามารถช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้ดีขึ้น
- Blockchain Engineering เนื่องจาก Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจและการเงิน หลักสูตร Blockchain Engineering จะมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะเชิงลึกสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานความรู้ด้านไอทีอยู่แล้ว โดยให้ผู้เรียนได้เข้าใจและสามารถพัฒนาระบบ Blockchain ที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ หลักสูตรนี้ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาสมาร์ทคอนแทรกต์ (Smart Contracts) ที่สามารถนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน การประกันภัย และโลจิสติกส์
- 5G+ Technology โดยหลักสูตร 5G+ Technology เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโทรคมนาคม โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้ที่ทันสมัยเกี่ยวกับการใช้งานและการบริหารจัดการเครือข่าย 5G ที่มีประสิทธิภาพ หลักสูตรนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจการทำงานของเครือข่ายขั้นสูงและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น IoT (Internet of Things) และการประยุกต์ใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อยกระดับการสื่อสารและการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เน้นการส่งเสริมสายซัพพอร์ทอินเตอร์เน็ตให้กับภาตส่วนต่างๆ
- Quantum Computing ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกของการคำนวณ เป็นหลักสูตร Quantum Computing ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความเข้าใจในหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ควอนตัมและการประยุกต์ใช้งาน หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะให้กับนักวิจัยและวิศวกรด้านคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเข้าใจการทำงานของคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่าและซับซ้อนกว่าคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิม
- Cloud Innovation ปลดล็อคศักยภาพของการประมวลผลบนคลาวด์ในยุคที่เทคโนโลยีคลาวด์เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วน โดยออกแบบมาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์ได้อย่างเต็มที่ หลักสูตรนี้ครอบคลุมการพัฒนาทักษะด้านการจัดการและการวางแผนการใช้ระบบคลาวด์ การบริหารข้อมูลบนคลาวด์ และการสร้างนวัตกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากยิ่งขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม ลดหย่อนภาษีได้ 100%
ในยุคที่การพัฒนาทักษะดิจิทัลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกกลุ่มอาชีพ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ได้เสนอแผนงานที่มุ่งเน้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนและผลักดันการพัฒนาทักษะของกลุ่มคนในสังคมเป็นกุญแจสู่การพัฒนาทักษะประชากรกว่า 30 ล้านคน โดยเสนอสิทธิพิเศษด้านการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นให้เกิดการร่วมมืออย่างยั่งยืน ด้วยนโยบาย “การลดหย่อนภาษีได้ 250% เมื่อสนับสนุนโครงการเทรนบุคลากรจาก Depa”
Depa เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 250% เมื่อเข้ามาสนับสนุนโครงการเทรนทักษะในกลุ่มอาชีพทักษะใหม่และ 5 หลักสูตร Professional Skill ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งประกอบไปด้วยทักษะที่ตลาดแรงงานกำลังขาดแคลน เช่น Data AI, Blockchain, 5G+ Technology, Quantum Computing, และ Cloud Innovation
นอกจากนี้ยังมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับบริษัทที่จ้างงานเด็กจบใหม่ ที่ผ่านการฝึกอบรมจากโครงการดังกล่าว โดยบริษัทสามารถใช้จำนวนเงินเดือนที่จ้างลดหย่อนภาษีได้ 12 เดือน ซึ่งมีมูลค่าค่าจ้างไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นอีก 150% ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ด้วยสิทธิประโยชน์นี้ ภาคเอกชนจะสามารถลดต้นทุนทางภาษีได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ยังช่วยเสริมสร้างโอกาสการจ้างงานให้กับเด็กจบใหม่ที่มีทักษะทันสมัย ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน นับเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาแรงงานและการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
Depa ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทักษะสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตในสังคมไทย ภาคเอกชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการเทรนผู้สูงอายุเพื่อให้พวกเขามีทักษะที่ทันสมัยและสามารถมีบทบาทในเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ โดยมีการวางโมเดลการลดหย่อนภาษีที่คล้ายกับเด็กจบใหม่ เพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนและช่วยเหลือผู้สูงอายุให้มีโอกาสในตลาดแรงงานใหม่ ๆ
กล่าวได้ว่า Depa เร่งเดินหน้าผลักดันโครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับกลุ่มคนในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบใหม่ ผู้สูงอายุ หรือผู้ใช้แรงงาน โดยเน้นให้กลุ่มผู้เสียภาษีสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะเหล่านี้ และยังสามารถใช้ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมเพื่อการลดหย่อนภาษีได้อีก 100% นับเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวทันกระแสโลก Depa ได้ร่วมมือกับผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Amazon Web Services (AWS), Alibaba, และ AI Academy ในการสร้างสรรค์หลักสูตรใหม่ ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศ
และเมื่อเร็ว ๆ นี้จะมีการเปิดตัว AWS Academy ในไทย โดยเน้นด้านเทคโนโลยีคลาวด์และ AI ที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมเปิดเวทีให้กับภาคเอกชนในประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะบุคลากรภายในองค์กรผ่านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและการสนับสนุนโครงการอบรม ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ภาคเอกชนสามารถขายเทคโนโลยีและพัฒนาตลาดได้แล้ว ยังเป็นการยกระดับความสามารถของบุคลากรในประเทศอีกด้วย นับเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลในรูปแบบที่ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ประโยชน์ร่วมกัน ในมุมของสตาร์ทอัพและ SME โดยมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจดั้งเดิมกับนวัตกรรม ผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่สนับสนุนสตาร์ตอัพให้เติบโต ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการลงทุนรวมมูลค่ากว่า 800,000 ล้านบาทในระยะยาว
สร้าง Data และ Blockchain Infrastructure ด้วยกลยุทธ์ “AI for Everyone”
มีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้กับประเทศไทย โดยเริ่มจากการขยายอินเทอร์เน็ตไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ กว่า 70,000 พื้นที่ ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ Depa ยังมุ่งหวังที่จะสร้าง Open Data เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลในรูปแบบที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจได้หลายเท่าตัว
และหนึ่งในโครงการสำคัญของ Depa คือการผลักดัน “AI for Everyone” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การเรียนรู้ แต่ยังเน้นการประยุกต์ใช้ AI ในชีวิตประจำวันและภาคธุรกิจ เพื่อให้ AI กลายเป็นเครื่องมือที่เข้าถึงได้ง่ายและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง นอกจากนี้ Depa ยังหวังการพัฒนาด้าน Blockchain Infrastructure ที่จะช่วยในการเก็บรักษาข้อมูลสำคัญ เช่น การสำเร็จการศึกษา ใบประกาศนียบัตร และเอกสารสำคัญอื่น ๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกบนระบบ Blockchain ที่ปลอดภัยและตรวจสอบได้ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้าง Digital Identity สำหรับประเทศไทย
ปี 2568 ทุ่มงบกว่า 1,800 ล้านบาท
สำหรับปี 2568 ด้วยงบประมาณกว่า 1,800 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การยกระดับทักษะบุคลากร และการสนับสนุนสตาร์ตอัพในเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน โดยจัดสรรงบประมาณดังนี้
- 200 ล้านบาท ดูแลพนักงานประจำ งบประมาณส่วนนี้ถูกจัดสรรเพื่อดูแลพนักงานประจำของ Depa โดยไม่รวมค่าเช่าและโบนัส เพื่อให้พนักงานสามารถดำเนินงานและสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งปี
- 900 ล้านบาท พัฒนาศูนย์กลางสำหรับการออกแบบ พัฒนา วิเคราะห์ ทดสอบ และทดลองเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือที่เรียกว่า ASEAN Digital Hub ศูนย์นี้จะเป็นสถานที่ดึงดูดนักพัฒนาและผู้ประกอบการจากทั้งในและต่างประเทศมาร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลที่ล้ำสมัย เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับภูมิภาค
- 700 ล้านบาท ใช้เพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น จัดการ Digital Manpower (80 ล้านบาท) Depa ตั้งเป้าส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับทุกช่วงวัย เน้นไปที่กลุ่มอาชีวศึกษาในกว่า 1,500 โรงเรียน และ 40 วิทยาลัยอาชีวะ เพื่อเพิ่มทักษะการเขียนโค้ด (Coding) ที่เป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงทุนการศึกษาเด็ก 200 คน สนับสนุนเด็กที่ต้องการเปลี่ยนสายงานจาก Non-IT เข้าสู่สายงานเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเตรียมความพร้อมให้พวกเขามีทักษะตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ ลดโอกาสในการตกงาน และส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างตกงาน เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในภาวะตกงานได้เข้ามาอบรมและพัฒนาทักษะอาชีพสำหรับอนาคต เพื่อเพิ่มโอกาสในการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน สุดท้าย
- งบอีกประมาณ 320 ล้านบาท สำหรับลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงและสตาร์ตอัพ Depa วางแผนลงทุนไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทในสตาร์ทอัพ 50 ราย โดยเน้นที่เทคโนโลยี Deep Tech, AI, MarTech, และ Blockchain เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพให้เติบโตในรูปแบบ As a Service และเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุนในตลาดไทยเมื่อมีโอกาส
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ถอดรหัสความสำเร็จ 3 รุ่น “ตัน – ยอด – ท๊อป”
FinnoEfra หนุนสตาร์ตอัพไทยโต พร้อมโปรแกรมเร่งการเติบโตจากกูรู