Share on
×

Share

EVAT แต่งตั้ง ‘สุโรจน์ เเสงสนิท’ เป็นนายกสมาคมคนใหม่ ดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต EV

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย หรือ EVAT ประกาศแต่งตั้ง สุโรจน์ เเสงสนิท เป็นนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยคนใหม่ แทน กฤษฎา อุตตโมทย์ หลังหมดวาระ

ปัจจุบัน สุโรจน์ เเสงสนิท ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด มีประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างยาวนานและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งในด้านผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และกับผู้บริโภค อีกทั้งภายในงานเเถลงข่าว ยังได้มีการแนะนำอุปนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ชุดใหม่ ได้แก่ ผศ.ดร.อุเทน สุปัตติ อุปนายกฯ ฝ่ายวิชาการและการพัฒนาบุคลากร,สยามณัฐ พนัสสรณ์ อุปนายกฯ ฝ่ายอุตสาหกรรมและการพัฒนาธุรกิจ,จาตุรงค์ สุริยาศศิน อุปนายกฯ ฝ่ายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และธมลวรรณ ชลประทิน อุปนายกฯ ฝ่ายการสื่อสารและประชาสัมพันธ์

VAT ยัน ศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย พร้อมเติบโตในภูมิภาคอาเซียน

สุโรจน์ เผยว่า หน้าที่และภารกิจสำคัญที่ต้องการพุ่งเป้าหลังจาก คือการโฟกัสที่การพัฒนาและผลักดัน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ในห่วงโซ่อุปทาน เป็นภารกิจและพันธกิจสำคัญที่ผมอยากเห็นอนาคตที่ไทยจะกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นเทคโนโลยีเเห่งอนาคต นำมาสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับแรงงานไทย และพร้อมต่อยอดทักษะบุคลากรในประเทศให้มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต การพัฒนา และการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านการเป็นพันธมิตรกับองค์กรภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยยังมีพื้นที่การเติบโตไปได้ไกลอีกมาก หากได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม และผลักดัน จากทุก ๆ ภาคส่วน และทางสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย พร้อมเป็นองค์กรในการประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ กับองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศอย่างยั่งยืน และต่อยอดสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ที่เเข็งแรง”

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุเทน สุปัตติ อุปนายกฯ ฝ่ายวิชาการและการพัฒนาบุคลากร กล่าวว่า “การพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการเสริมสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยพร้อมที่จะสนับสนุนและผลักดันให้บุคลากรในอุตสาหกรรมมีทักษะและความเชี่ยวชาญที่ทันสมัย เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในตลาดโลกอย่างยั่งยืน”

สยามณัฐ พนัสสรณ์ อุปนายกฯ ฝ่ายอุตสาหกรรมและการพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า “สมาคมฯสนับสนุนนโยบาย 30@30 ของรัฐบาล เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด หรือแม้แต่การส่งเสริมเชื้อเพลิง biofuel ล้วนมีส่วนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยิ่งไปกว่านั้นสมาคมฯ มีพันธกิจสำคัญต่อเนื่อง คือการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการใช้ชิ้นส่วนและซัพพลายเชนในประเทศไทย หวังว่าวันหนึ่งประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการส่งออก ให้เป็น product champion สร้างรายได้ให้ประเทศเช่นเดียวกับรถปิคอัพ สมาคมฯ ได้เริ่มหารือกับบีโอไอ และสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) ในการส่งเสริมการผลิตดังกล่าว  นอกจากนี้สมาคมฯยังร่วมมือกับบีโอไอในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่สนใจมาลงทุนในธุรกิจ EV หรือ Ecosystem อีกด้วย”

จาตุรงค์ สุริยาศศิน อุปนายกฯ ฝ่ายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เผยว่า “การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เป็นสิ่งที่เราต้องทำ เมื่อมีความต้องการจากผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ดังจะเห็นได้จากข้อมูลการเติบโตของจำนวนผู้ใช้โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่รองรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น ภารกิจและภาระหน้าที่ของสมาคมฯ คือการผลักดันสิ่งอำนวยความสะดวกให้เกิดขึ้นในประเทศ และสนับสนุน พร้อมผลักดันนโยบายที่ยืดหยุ่นให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวนี้ ได้พัฒนา ต่อยอด และสร้างประโยชน์ในห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง”

ธมลวรรณ ชลประทิน อุปนายกฯ ฝ่ายการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า “ข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ภารกิจหลักของสมาคมฯคือการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รุ่นและราคา สถานีชาร์จไฟฟ้าที่มีจำนวนและตำแหน่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมารยาทในการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของสมาคม เช่น Directory เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับภารกิจและพันธกิจของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย”

ทางนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และ อุปนายกสมาคมฯ พร้อมคณะกรรมการชุดใหม่จะมีวาระการดำเนินงานในกรอบ 2 ปี ตั้งเเต่วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2567

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

4 เทรนด์สำคัญกำหนดทิศทางเศรษฐกิจไทย พร้อมเผยทักษะ “5 อวัยวะ” ที่ผู้นำยุคใหม่ต้องมี

ทรูบิสิเนส ผนึก อินเทล ดึง AI ทรานสฟอร์มบริการการแพทย์ เปิดตัว 7 โซลูชันด้านการดูแลสุขภาพ

×

Share

ผู้เขียน