Share on
×

Share

สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย เปิดวิสัยทัศน์ต้าน “สงครามล่าอาณานิคมไร้กำลัง”

สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย ภายใต้การนำของ ‘ธนวิชญ์ ต้นกันยา’ นายกสมาคม เผยวิสัยทัศน์ใหม่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่สตาร์ตอัพกำลังเผชิญอยู่ โดยทางสมาคมฯได้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ภาครัฐต้องเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการแข่งขันในสิ่งที่ถูกเรียกว่า “สงครามล่าอาณานิคมแบบไม่ใช้กำลัง” เพื่อให้สตาร์ตอัพไทยสามารถ “Pioneers New Economy” นำพาประเทศเข้าสู่เศรษฐกิจใหม่ที่ยั่งยืน

การต่อสู้กับสงครามที่มองไม่เห็น

วิสัยทัศน์ของสมาคมฯ มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่แนวคิดว่า ในเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน สตาร์ทตอัพกำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ซึ่งสงครามนี้ไม่ได้ใช้กำลัง แต่ใช้พลังทางเศรษฐกิจและอิทธิพลเป็นอาวุธ ข้อความสำคัญที่สมาคมฯ ต้องการสื่อคือ “ถ้าเงินเท่ากัน Local ชนะ แต่เงินไม่เคยเท่ากัน” สตาร์ตอัพไทยเริ่มต้นด้วยความเสียเปรียบตั้งแต่ต้น ซึ่งทางสมาคมฯ ได้กล่าวถึงสถานการณ์นี้ว่าเป็นการ “แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง”

ประเทศไทยมีความได้เปรียบ

ถึงแม้ว่าจะมีความท้าทายมากมาย แต่สมาคมฯ เชื่อว่าประเทศไทยสามารถใช้จุดแข็งในด้านสุขภาพ อาหาร และการท่องเที่ยว ในการสร้างความได้เปรียบในตลาดโลกซึ่งเป็นภาคส่วนที่สตาร์ตอัพไทยสามารถ สร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่งต่างชาติได้

ข้อเสนอ 7 ข้อสำคัญต่อภาครัฐผ่านภารกิจสมาคม 3 ด้าน (Manpower, Money, Market)

เพื่อให้วิสัยทัศน์นี้เกิดขึ้นจริง ธนวิชญ์ ได้เสนอแนวทางสำคัญ 7 ข้อที่ภาครัฐควรพิจารณาดำเนินการ:

  1. Manpower (กำลังคนด้านดิจิทัล:) – ควรเน้นการพัฒนาทักษะดิจิทัลและเทคโนโลยีสำหรับบุคลากร เพื่อให้เกิดการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตลาดโลก ทั้งนี้ควรมีการสนับสนุนด้านการศึกษา การฝึกอบรมและการจัดโปรแกรมเร่งรัดความรู้ด้านดิจิทัลที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม
  2. Money (การสนับสนุนด้านการเงิน)
    • เงินลงทุน: ควรจัดสรรเงินทุนให้เทียบเท่ากับประเทศชั้นนำอย่างสิงคโปร์ ซึ่งจัดสรรเงินลงทุนสูงถึง 200 ล้านบาทต่อบริษัท ผ่านกองทุน Matching Fund ที่ร่วมลงทุนกับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง
    • เงินกู้: ควรมีการให้กู้ยืมแบบไม่ต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนชำระ 5 ปี วงเงินสูงสุด 13 ล้านบาทต่อบริษัท
    • เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน: ควรบังคับใช้กฎหมาย Credit Term Guideline อย่างเคร่งครัด โดยกำหนดให้บริษัทใหญ่ต้องชำระเงินแก่คู่ค้าไม่เกิน 45 วัน โดยนโยบายนี้ไม่ต้องใช้เงินภาษีประชาชน
    • PO Financing: ใช้ใบสั่งซื้อเป็นหลักค้ำประกันเงินกู้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ
  3. Market (การเข้าถึงตลาด)
    • ผลักดันสู่ตลาดต่างประเทศ: ควรผลักดันสตาร์ตอัพไทยเข้าสู่ตลาดต่างประเทศผ่านเครือข่ายทูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยเติบโตในตลาดสากล
    • Thailand First: ควรกำหนดสัดส่วนงบประมาณด้านไอที ที่ต้องใช้ซื้อสินค้าหรือบริการจากสตาร์ตอัพไทย เพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจภายในประเทศ

ปกป้องอนาคตของประเทศไทย

ภารกิจของสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย คือ ปกป้องอนาคตเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยการเสริมสร้างศักยภาพของสตาร์ตอัพไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ในสงครามล่าอาณานิคมแบบไม่มีการใช้กำลังครั้งนี้ สมาคมฯ มุ่งมั่นที่จะให้สตาร์ตอัพไทยไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่ได้รับการสนับสนุนและทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน “Pioneers New Economy” สำหรับประเทศไทย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

4 เทรนด์สำคัญกำหนดทิศทางเศรษฐกิจไทย พร้อมเผยทักษะ “5 อวัยวะ” ที่ผู้นำยุคใหม่ต้องมี

สภาทองคำโลกเผย ทองคำยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2567

สตาร์ตอัพไทยยุคใหม่: ก้าวสู่ความยั่งยืนและสร้างกำไรอย่างมั่นคง

×

Share

ผู้เขียน