ในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “การเติบโตอย่างยั่งยืน” กลายเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุคใหม่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการเป็นผู้นำสถาบันการเงินที่ยั่งยืน มีการวางแผนเพื่อขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ AEC หรือ ASEAN Economic Community ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่อย่าง Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG) ที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของธนาคารในกลุ่มธุรกิจ Corporate และ Retail Consumer Finance รวมถีงส่งเสริมการเติบโตให้กับพนักงานขององค์กร ที่สะท้อนออกมาผ่านโครงการต่าง ๆ มากมาย
ดร.วศิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จะมาสรุปให้ได้ทราบกันว่า ธนาคารกรุงศรีฯ ดูแลพนักงานอย่างไร เพื่อส่งผลให้องค์กรสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน
การดูแลพนักงานคือ หัวใจสำคัญของการเติบโตขององค์กร
หนึ่งในหัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืนของธนาคารกรุงศรี คือ การให้ความสำคัญกับพนักงาน ธนาคารเชื่อมั่นว่า การสร้างความสุขในการทำงาน จะส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีให้แก่ลูกค้า กรุงศรีจึงมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะพนักงานอย่างต่อเนื่องผ่านแนวทาง 70-20-10 เน้นให้พนักงานได้เรียนรู้จากการลงมือทำ (70%) การเรียนรู้จากการได้รับคำแนะนำและการทำงานร่วมกับผู้อื่นหรือการ Coaching (20%) และการเรียนรู้ในห้องเรียนในรูปแบบต่าง ๆ (10%)
แนวทางนี้ช่วยให้พนักงานมีความรู้และทักษะที่จำเป็นทั้งในวันนี้และอนาคตได้อย่างสม่ำเสมอ
กรุงศรีให้ความสำคัญกับการสร้างผู้นำแห่งอนาคต
นอกจากการดูแลพนักงานทั่วไป กรุงศรียังให้ความสำคัญกับการสร้างผู้นำแห่งอนาคต ผ่านโปรแกรมพัฒนาผู้นำ เช่น Krungsri Transcend และ Transition ที่มุ่งเน้นพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำ การจัดการด้านดิจิทัล และความรู้ในด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ธนาคารให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก ESG เป็นแนวทางที่ทั่วโลกกำลังมุ่งหน้าไป และกรุงศรีก็มีบทบาทในการส่งเสริม Green Finance และการลดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นเดียวกัน
การพัฒนาทักษะนี้ กรุงศรีได้พัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมออนไลน์ให้กับพนักงานเพื่อเสริมทักษะที่ทันสมัย เช่น FinTech และ Data Analytics ที่เป็นทักษะสำคัญในยุคดิจิทัล และเพื่อรองรับการเติบโตในสายงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางมากขึ้น
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Coaching
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Coaching คือ อีกหนึ่งปัจจัยที่กรุงศรีให้ความสำคัญ ทางธนาคารพยายามเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นองค์กรที่มีการพัฒนาผ่านการโค้ชพนักงาน หัวหน้าจะทำหน้าที่เป็นโค้ชที่ดี ซึ่งนอกจากจะเก่งในเรื่องการทำงานแล้วยังต้องเข้าใจถึงความต้องการและความรู้สึกของพนักงาน เพื่อให้พนักงานมีความพร้อมและมีกำลังใจในการทำงาน ซึ่งการพัฒนาในแนวทางนี้ทำให้พนักงานรู้สึกว่ามีส่วนร่วมในองค์กร และสามารถพัฒนาทักษะของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตขององค์กรในระยะยาว
ส่งพนักงานไปต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ระดับสากล
กรุงศรีมุ่งเน้นการพัฒนาพนักงานให้มีศักยภาพในการทำงานระดับสากล ผ่านการส่งพนักงานไปทำงานและเรียนรู้ในต่างประเทศ การมีสาขาในกลุ่มประเทศ AEC เช่น กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ทำให้ธนาคารสามารถสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศได้อย่างเข้มแข็ง พนักงานที่ได้รับโอกาสไปทำงานในต่างประเทศจะได้เรียนรู้วิธีการทำงานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ทั้งด้านความรู้และวัฒนธรรมการทำงาน ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ในการนำความรู้กลับมาพัฒนาองค์กรภายในประเทศ
นอกจากนี้ กรุงศรียังสนับสนุนการเรียนรู้จากองค์กรต่างประเทศชั้นนำ เช่น การส่งพนักงานไปศึกษาดูงานที่ Alibaba เพื่อให้เห็นถึงวิธีการดำเนินงานและแนวคิดทางธุรกิจที่ทันสมัย การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ในการสร้างผู้นำที่มีศักยภาพในระดับโลก
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและการสื่อสารที่เข้มแข็ง
กรุงศรีเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและมีการสื่อสารระหว่างพนักงานและผู้บริหารอยู่ตลอด โดยทางธนาคารมีการทำ Employee Survey เพื่อรับฟังเสียงของพนักงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจจะถูกนำมาใช้ปรับปรุงนโยบายและแนวทางการทำงาน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงาน และลดปัญหาต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) และการทำงานที่ยืดหยุ่น (Work from Anywhere) ซึ่งหลังจากฟังเสียงของพนักงานแล้วก็ช่วยลดอัตราการลาออกของพนักงานใหม่ที่รู้สึกโดดเดี่ยวจากการทำงานที่บ้านเพียงอย่างเดียว ด้วยการปรับเปลี่ยนให้พนักงานเข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 2 วัน และกลายเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยให้พนักงานมีความสุขและลดอัตราการลาออกของพนักงานใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ กรุงศรียังจัดตั้งกลุ่มตัวแทนพนักงานที่เรียกว่า VOK Champions เพื่อทำงานร่วมกับผู้บริหารในแต่ละฟังก์ชันขององค์กร รวมถึงมีการสร้างทีม Culture Troop ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากหลายแผนก เพื่อร่วมมือกับผู้บริหารและทีม HR ในการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรให้ตอบสนองต่อความต้องการและทิศทางการเติบโตของธนาคาร ซึ่งการสร้างวัฒนธรรมแบบนี้ช่วยให้พนักงานทุกคนสามารถแสดงความเห็น และมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและมีความมั่นใจในทิศทางการเติบโตของกรุงศรีมากยิ่งขึ้น
ESG คือ ก้าวสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร
กรุงศรีไม่เพียงแค่มุ่งเน้นการพัฒนาภายในองค์กร แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเรื่อง ESG ซึ่งเกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอน การพัฒนา Green Finance และการปฏิบัติตามนโยบาย Zero Carbon ที่เป็นเทรนด์ใหม่ในวงการการเงิน โดยธนาคารยังมีการตั้ง KPI ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้กระดาษ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฯลฯ และการพัฒนา ESG ไม่เพียงแค่ช่วยให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของลูกค้าและนักลงทุน ซึ่งในที่สุดจะทำให้องค์กรสามารถขยายธุรกิจและรักษาความมั่นคงได้ในระยะยาว
จะเห็นได้ว่า กรุงศรีอยุธยาเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำที่เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Coaching และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและโปร่งใส รวมถึงการให้ความสำคัญกับ ESG ซึ่งทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้กรุงศรีสามารถรักษาความมั่นคงและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Nature-Based Solution: กุญแจสู่การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เริ่มต้นที่ระบบนิเวศ
“ดร.เอกอนงค์ จางบัว” เบื้องหลัง Food Innopolis และเส้นทางสู่ความสำเร็จ