ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความยั่งยืน หรือ Sustainability กลายเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เป็นหนึ่งในองค์กรธนาคารที่ตระหนักถึงความสำคัญนี้มากที่สุด เพราะการสร้างความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และการสร้างสังคมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคปัจจุบันโดยไม่ทิ้งภาระให้กับคนรุ่นหลัง
ดังนั้น เรามาเจาะลึกถึงแนวทางของธนาคารไทยพาณิชย์ในการสร้างความยั่งยืนที่ครบวงจร ผ่านมุมมองของ กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ที่จะกล่าวถึงบริบทของความยั่งยืนของธนาคารไทยพาณิชย์ว่าจะช่วยสร้างสังคมและเศรษฐกิจแบบยั่งยืนได้อย่างไรบ้าง
3 องค์ประกอบที่เป็นบริบทของความยั่งยืนสำหรับธนาคารไทยพาณิชย์
กฤษณ์ กล่าวถึงบริบทของความยั่งยืนของธนาคารไทยพาณิชย์ใน 3 องค์ประกอบด้วยกัน คือ
- ความยั่งยืนที่เกิดขึ้นในบริบทของประวัติศาสตร์ – ไทยพาณิชย์เป็นธนาคารแห่งแรกของประเทศไทยที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2449 หรือกว่า 117 ปีที่แล้ว ความเป็นมาของ SCB มีจุดเริ่มต้นจากความพยายามที่จะสร้างเสถียรภาพทางการเงินให้กับประเทศไทยในยุคที่ถูกคุกคามจากการล่าอาณานิคม โดย SCB มีเป้าหมายสำคัญในการเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจไทยใน 2 เป้าหมายด้วยกัน ได้แก่
- การสร้างความเข้มแข็งให้กับธนาคารและเศรษฐกิจไทย
SCB มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงและความเข้มแข็งทางการเงินให้กับธนาคาร เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของคนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงได้สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ ส่งเสริมให้ครัวเรือนสามารถสร้างการเติบโตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมกัน และเมื่อธนาคารและระบบการเงินมีความเข้มแข็ง ก็จะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว - การเติบโตควบคู่กับการแบ่งปัน
SCB เน้นการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการแบ่งปันให้กับสังคมในหลายรูปแบบ เช่น การพัฒนาพื้นที่ป่า โครงการ CSR และการสร้างแหล่งน้ำที่ยั่งยืน เพื่อสนับสนุนระบบนิเวศไทย อีกทั้งยังส่งเสริมการศึกษาโดยเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชนบทให้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งทั้ง 2 เป้าหมายนี้ช่วยสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับธนาคารไทยพาณิชย์และเศรษฐกิจไทย รวมถึงช่วยส่งเสริมการแบ่งปันเพื่อให้สังคมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
- การสนับสนุนทางการเงินและสร้างพันธมิตร – ในองค์ประกอบที่สองนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์เน้นถึงความพร้อมในการเป็นพันธมิตรในการสร้างความยั่งยืนให้กับลูกค้ากว่า 18 ล้านราย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งในด้านสภาพอากาศและเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะวิกฤติโลกร้อนที่ส่งผลกระทบถึงการดำเนินชีวิตและธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ต้องปรับตัวให้ทันสมัย ซึ่งจะขอแบ่งออกเป็น 2 บทบาทหลัก ดังนี้
- การสนับสนุนและจัดสรรเงินทุนเพื่อความยั่งยืน
SCB ในฐานะธนาคารชั้นนำของประเทศไทย มีหน้าที่สำคัญในการสนับสนุนเงินทุนให้กับบริษัทและธุรกิจทุกขนาด โดยมุ่งเน้นให้การสนับสนุนตั้งแต่วันแรกที่ลูกค้าเริ่มธุรกิจไปจนถึงการให้ความรู้และร่วมมือกันสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืน เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว - การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ
SCB ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยธนาคารมุ่งมั่นที่จะไม่เป็นภาระต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการช่วยเหลือลูกค้าให้เดินหน้าไปสู่ความสำเร็จและการดำเนินงานที่ยั่งยืน โดยธนาคารยังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้มีส่วนร่วมในการดูแลสังคมผ่านการดำเนินกิจกรรมที่ยั่งยืนและมีธรรมาภิบาล
ทั้งหมดนี้จะดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ที่จะประสานทั้งพลังคนแล้วก็พลังของเทคโนโลยีในการร่วมกันขับเคลื่อนความยั่งยืน โดย SCB เชื่อว่าเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในอนาคต แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่สามารถสำเร็จได้เพียงเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว ต้องมีคนที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดการพัฒนา ซึ่งจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกกับเศรษฐกิจและสังคมไทยและคนไทยมากยิ่งขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต
- ยุทธวิธีเพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน – ธนาคารไทยพาณิชย์มีพันธกิจที่จะสร้างความยั่งยืน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการสนับสนุนระบบนิเวศทางการเงินที่ช่วยเหลือลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพิ่มผลกระทบเชิงบวกและลดผลกระทบเชิงลบตามหลักความยั่งยืน ในกระบวนการนี้ ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างสมดุล ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งการที่จะบรรลุวิสัยทัศน์นี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกคนต้องเข้าใจถึงความเสี่ยง และเปิดรับนวัตกรรม พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่สามารถช่วยสนับสนุนการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนาดอยตุงมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ที่เป็นโครงการพัฒนาระบบน้ำเพื่อการเกษตรและอุปกรณ์ยั่งยืนด้านอาชีพให้แก่ชาวบ้านโดยไม่ทำลายป่า, โครงการกล้าใหม่ใฝ่รู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนพร้อมกลุ่มจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมส่วนรวม, โครงการ SCB ชวนกันทำดี เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการสร้างสังคมและเศรษฐกิจแบบยั่งยืนที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นอีก 3 ประเด็น ได้แก่
- ทำให้สินเชื่อเป็นสีเขียว
SCB มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อที่สนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน โดยเฉพาะสินเชื่อสีเขียว ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจดำเนินการตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทางธนาคารตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อสีเขียวให้ได้ 150,000 ล้านบาท ภายใน 2025 - ให้ความรู้กับลูกค้าทุกระดับ
ธนาคารทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนและให้ความรู้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่ระดับบุคคลจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถปรับตัวสู่การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน และสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ - เน้นการบริการที่รวดเร็วและการใช้ AI เพื่อเข้าสู่ Net Zero
SCB ตั้งเป้าหมายในการลดการใช้ทรัพยากร เช่น การลดการใช้กระดาษและการติดต่อทางตรง (Face-to-Face) โดยเน้นการสร้างบริการแบบไร้รอยต่อผ่านเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยให้ธนาคารเข้าสู่สถานะ Net Zero ภายในปี 2030 ธนาคารยังเน้นการเปลี่ยนแปลงค่านิยมภายในองค์กรภายใต้ชื่อ ISCB ซึ่งมีการวัดผลความยั่งยืนของพนักงานอย่างชัดเจน นอกจากนี้ การนำ AI เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงยังเสริมสร้างความยั่งยืนของธนาคารในระยะยาว เพื่อให้ธนาคารสามารถบรรลุสถานะ Net Zero ภายในปี 2030 โดยวางแผนให้พอร์ตสินเชื่อทั้งหมดของธนาคารเข้าสู่สถานะ Net Zero ภายในปี 2050
ซึ่งความพยายามนี้แสดงให้เห็นว่า SCB มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำที่สนับสนุนความยั่งยืนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อมทั้งการดำเนินการในระยะสั้นและระยะยาว
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ตัวชี้วัด ESG สำหรับธุรกิจครอบครัว
Depa กางแผนปี 68 ทุ่ม 1,800 ล้านบาท ยกระดับทักษะดิจิทัลคนไทยทั้งประเทศ – หนุนดีปเทค สตาร์ตอัพ
SCB ขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน เพื่ออนาคต Net Zero
