Share on
×

Share

กระจายพอร์ตลดความเสี่ยงด้านเครดิต พร้อมสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มด้วย FCN

ปัจจุบันการบริหารพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างกระแสเงินสด สามารถทำได้ในหลายช่องทาง แต่การลงทุนเพื่อสร้างกระแสเงินที่ยังได้รับความนิยมสูงสุดนั่นก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ (Fixed Income) เนื่องจากนักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอจากดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้นั้นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้เอกชน ซึ่งผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยในตลาด, อายุของตราสารหนี้รวมถึงความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออก เช่น พันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยง อายุคงเหลือ 3 ปี (TTM 3 ปี) จะสร้างผลตอบแทน (Yield) ประมาณ 2.19% (as of 04/09/2567) โดยหากขยับความเสี่ยงมาลงทุนในหุ้นกู้เอกชน เรทติ้ง A+ ถึง  BBB+ เราจะสามารถสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่มาจากส่วนชดเชยความเสี่ยงด้านเครดิต (Risk Premium) อีกประมาณ 1.00 ถึง 2.00% ซึ่งอาจจะทำให้การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 3.00 – 4.00% ต่อปี โดยอาจจะมีการกระจายการลงทุนในหุ้นกู้ที่หลากหลายตัวที่เครดิตเรทติ้งสูงกว่า BBB- เพื่อกระจายความเสี่ยง

โดยจะเห็นได้ว่าโจทย์ที่ท้าทายของนักลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นกู้ก็คือ เมื่อต้องการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นหรือหาหุ้นกู้ที่จ่ายดอกเบี้ยมากกว่า 4-5 % อาจจะจำเป็นต้องไปรับความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit risk) เพิ่มเติมในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า BBB- หรือหุ้นกู้ในกลุ่ม High Yield (Non Investment Grade) ซึ่งจะทำให้นักลงทุนต้องรับความเสี่ยงด้านเครดิตรวมถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้นแลกกับโอกาสที่จะเพิ่มผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ให้สูงขึ้น

แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือการลงทุนที่ชื่อว่า FCN ซึ่งเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยต่อเนื่องโดยสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตั้งแต่ 7-15% ต่อปี ซึ่งการลงทุนนี้จะมีส่วนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับหุ้นกู้นั้นก็คือ การผลตอบแทนออกมาได้รูปแบบของดอกเบี้ยเป็นรายงวด ซึ่งจะช่วยสร้างกระแสเงินสดได้ แต่จะมีความเสี่ยงหลัก ๆ คือความผันผวนของราคาหุ้นอ้างอิง หากกรณีที่ราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่าราคา Knock In ซึ่งโดยปกติราคา Knock In จะอยู่ที่ระดับ 80-90% ของราคาหุ้นอ้างอิง ณ วันทำสัญญา ซึ่งเปรียบเสมือนกรอบล่างของราคา ถ้าหากราคาหุ้นปรับตัวลงแต่ไม่ลงต่ำกว่ากรอบล่าง เมื่อครบสัญญานักลงทุนจะได้เงินต้นกลับไปเต็มจำนวน พร้อมทั้งดอกเบี้ยรับในแต่ละเดือน

โดย FCN ที่นักลงทุนได้ลงทุนนั้น จะเป็นหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่หลักทรัพย์บัวหลวงที่เป็นผู้ออกตราสาร ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตเรทติ้งของบริษัทที่ AA โดยทริสเรทติ้ง และมีธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้นักลงทุนสามารถมั่นใจในความมั่งคงของบริษัทผู้ออกตราสาร ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit risk) 

จากตัวอย่างการใช้ FCN ในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มในพอร์ตการลงทุนตราสารหนี้ปกติ ซึ่งในกรณีที่เราสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนใน FCN ได้ 12 % ต่อปี หากแบ่งสัดส่วนพอร์ตการลงทุนใน FCN คิดเป็นสัดส่วน 25% ของพอร์ตการลงทุนรวม จะสามารถสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม ( Enhanced Yield) ได้ที่ 6% ต่อปี จากพอร์ตการลงทุนในหุ้นกู้ปกติที่สร้างผลตอบแทนได้ 4% ต่อปี โดยอัตราผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่เพิ่มขึ้นหากคิดเป็นจำนวนดอกเบี้ยก่อนหักภาษีหากนักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 100,000 บาท ต่อปี จะเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 บาท ในกรณีที่เงินลงทุนเท่าเดิม ซึ่งคิดเป็นจำนวนดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้นถึง 50% โดยเราจะเห็นได้ว่าการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มด้วย FCN ยังมีข้อได้เปรียบในการกระจายการลงทุนที่ยังสามารถลดความเสี่ยงด้านเครดิต แต่เป็นการไปรับความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาหุ้นอ้างอิงบน FCN แทน

โดยจะเห็นได้ว่าจากข้อมูลในอดีตตั้งแต่ปี 2023 นักลงทุนที่ลงทุนใน FCN สามารถสร้างดอกเบี้ยเฉลี่ยได้ประมาณ 10-12% ในกรณีของ FCN 1 หุ้น และ 11-14% ในกรณีของ Basket FCN 2 หุ้น โดยอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับหุ้นอ้างอิง อายุในการลงทุน และระดับราคา KI ซึ่งนักลงทุนสามารถเป็นผู้ออกแบบได้ด้วยตนเอง

โดยปัจจุบันนักลงทุนสามารถลงทุน FCN กับหลักทรัพย์บัวหลวง ด้วยเงินลงทุน FCN ขั้นต่ำเพียง 5 แสนบาทและ สามารถเลือกหุ้นหรือจับคู่หุ้นที่ต้องการในดัชนี SET50 ได้ด้วยตัวเองได้ และสามารถปรับแต่งราคาใช้สิทธิ ราคากรอบบน (Knock Out), ราคากรอบล่าง (Knock In) และราคาใช้สิทธิ์ (Strike) โดยกำหนดผลตอบแทนที่คาดหวังความเสี่ยงและอายุในการลงทุนเองได้ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ FCN เป็นตราสารที่ไม่มีการคุ้มครองเงินต้น ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111 

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

FCN เครื่องมือสร้างกระแสเงินสด จากดอกเบี้ยทุก ๆ สองสัปดาห์

หนึ่งเดียวในตลาดหุ้นไทย “DW01 อ้างอิง SET Index” พร้อมซื้อขายวันแรกแล้ว 19 ส.ค. 67

FCN เครื่องมือการเงินสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องช่วงตลาด Sideway Down

×

Share

ผู้เขียน